สืบ 4 รวบตัวหนุ่มตกงานส่งยาไอซ์คาลานจอดรถห้างบิ๊กซี หลังขึ้นรถหากุญแจจะขับไปส่งยา สารภาพทำมาแค่ 2 ครั้งหาเงินไปใช้จ่าย ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ แฉขบวนการส่งยาเปลี่ยนรถทุกครั้งหลังเสร็จงาน
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 00.15 น. พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสุธี หรือหนึ่ง แซ่ปิง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 1 ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส หมายเลขทะเบียน ศค 271 กทม. และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถชั้น 1 เอ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาหัวหมาก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
พ.ต.อ.พชร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติดที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาหัวหมาก เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งผู้ต้องหาได้เดินไปขึ้นรถยนต์ที่มีคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณกระโปรงท้ายรถยนต์พบกระเป๋าสะพายจำนวน 1 ใบ ภายในซุกซ่อนยาไอซ์ที่ห่อด้วยกระดาษฟอยล์พันเทปกาว สีน้ำตาล จำนวน 2 ห่อ ห่อละ 1กก.จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบปากคำที่ กก.สส.บก.น.4
จากการสอบสวนนายสุธีให้การรับสารภาพว่า เรียนจบชั้นมัธยมมาจากโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ไปทำงานโรงงาน แต่ต่อมาโรงงานได้เลิกจ้างตนจึงตกงาน จนกระทั่งได้รู้จักกับนายเอกที่สนามฟุตบอล นายเอกถามตนว่ามีงานทำหรือยัง ตนจึงตอบไปว่าไม่มี นายเอกจึงชักชวนให้ตนรับงานขนยาเสพติด แต่ตนไม่ทราบมาก่อนว่ายาที่อยู่ภายในรถนั้นเป็นยาไอซ์จำนวนมากเช่นนี้ คิดว่าเป็นยาบ้า ทุกครั้งที่มีการนัดส่งยาจะมีคนนำรถยนต์มาจอดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ก่อนจะมีโทรศัพท์เข้ามาบอกให้ไปที่รถเพื่อขับนำยาไปส่งให้ลูกค้าวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนก็มาที่ห้างดังกล่าวเพื่อจะขับรถไปส่งยา แต่ขณะที่เข้าไปในรถและกำลังหากุญแจที่ซ่อนอยู่ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ตนทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท เงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว
พ.ต.อ.พชร กล่าวอีกว่า ในการส่งยาแต่ละครั้งทราบว่านายเอกจะเป็นผู้รับงานมาให้จะมีการซื้อรถไว้สำหรับขนยาโดยเฉพาะ เมื่อเสร็จงานแต่ละครั้งก็จะเปลี่ยนรถคันใหม่ แต่จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด คาดว่าผู้ต้องหาอาจจะเป็นเจ้าของยาเองด้วย จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหารับจ้างส่งยามาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง จะทำเดือนละประมาณ 1 ครั้ง และเคยได้ค่าจ้างสูงสุดถึง400,000 บาท
“นอกจากนี้ คาดว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่จับกุมตัวได้ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล และจะเร่งติดตามตัวนายเอกมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป” พ.ต.อ.พชร กล่าว
