โฆษก ตร.เผย พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการ ตร.บังคับใช้ 7 ก.ย.นี้ มีการจัดตั้งหน่วยงานระดับกองบัญชาการหรือเทียบเท่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากรวม 30 กองบัญชาการ ส่วนผลสรุปการซื้อขายตำแหน่งยังต้องรอผลสรุปจาก ก.ตร.ชุดใหญ่
วันนี้ (6 ก.ย.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึง พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 6 กันยายนว่า เมื่อ พ.ร.ฎ.ฯ ประกาศแล้ว โครงสร้างใหม่ ตร.จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 7 กันยายน ซึ่งที่ผ่านมา ตร.ได้ทำการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ตามโครงสร้างใหม่แล้ว โดยได้เกลี่ยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี ปัญหา 26 คำสั่ง และฝ่ายอำนวยการประจำสำนักงานผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.ลงไปทั้งหมด โดยจะมีการประกาศคำสั่งแต่งตั้งผ่านทางเว็บไซท์ ในวันที่ 7 กันยายนนี้ ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้มีหนังสือลงไปแล้วว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่ภายในวันที่ 8 กันยายน นอกจากนี้ ผบ.ตร.จะมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการจนถึงผู้บังคับการซึ่งเป็นนายพลทั้งหมด ที่แต่งตั้งตามโครงสร้างใหม่ รวมถึง 152 ตำแหน่ง ที่มีการสลับสับเปลี่ยนให้ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งในวันที่ 7 กันยายนด้วย ระหว่างรอกระบวนการเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯ
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวด้วยว่า ตร.มีความพร้อมแล้วสำหรับการปรับโครงสร้างใหม่ ที่เป็นการปรับผ่ายอำนวยการและสนับสนุนให้เข็มแข็งขึ้นเพื่อเสริมให้ฝ่ายปฏิบัติดีขึ้น มีการปรับงานสืบสวนยกระดับเป็นกองบังคับคับการในภูธรภาค และยกระดับเป็นกองกำกับการในภูธรจังหวัดทุกแห่ง รวมถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย ขณะที่มีการเพิ่มกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งนี้เชื่อว่าตำรวจจะสามารถทำงานรองรับประชาชนได้ดีขึ้น ซึ่งโครงสร้างครั้งนี้ยังไม่มีการปรับในระดับโรงพัก ขณะนี้โครงสร้างในสถานีตำรวจยังคงเดิม แต่กำลังดำเนินการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นในเร็ววันนี้
เมื่อถามถึงการสรุปผลการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งของอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ(อนุก.ตร.) ชุดพิเศษ ที่มีการระบุถึงการแต่งตั้งวาระประจำปี 2551 ที่พบความไม่ปกติในการแต่งตั้งถึง 2,912 ตำแหน่ง โฆษก ตร.กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบเพียงว่าทีมงานโฆษกของอนุ ก.ตร.ชุดนนี้ได้แถลงข่าว อย่างไรก็ตามต้องรอให้มีการรายงานผลสรุปอย่างเป็นทางการ เข้ามาในก.ตร.ชุดใหญ่ เพราะถือว่าผลรายงานที่ออกมาเป็นเพียงผลสรุปของคณะอนุ ก.ตร. เท่านั้น ต้องรอ ก.ตร.ใหญ่พิจารณาด้วย ตนจึงยังให้ความเห็นไม่ได้ ซึ่งจะนำเข้า ก.ตร.เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่านายสุเทพ เทือกสุบรรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร.จะนัดมาประชุมเมื่อใด ทั้งนี้ ปกติ ก.ตร.จะนัดประชุมในทุกวันศุกร์แรกกับศุกร์ที่ 3 ของเดือน แต่ศุกร์แรกที่ผ่านมายังไม่นัดก็ต้องรอประธาน ก.ตร.พิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผลสรุปที่ออกมาคล้ายเป็นความบกพร่องของ ผบ.ตร. ดังนั้นจะกระทบต่อเสียงในการลงความเห็นในการเลือก ผบ.ตร. หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็ให้คำตอบไม่ได้ต้องรอผลการสรุปซึ่งจะเข้า ก.ตร.เสียก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมายประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อเลือก ผบ.ตร.คนใหม่แต่อย่างใด