“สมยศ” เหิมหนักส่งลูกน้องนำหมายเรียกกดกริ่งส่งถึงหน้าบ้าน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ให้เข้าพบพนักงานสอบสอน 14 ก.ย. เวลา 13.00 น. คดีรุกป่ากาญจนบุรีสร้างรีสอร์ต 100 ไร่ แต่ต้องผิดหวังรีบกลับไปรายงานนายไม่พบเจ้าของหมายเรียกออกมารับโดยตรง และฝากให้ใครเซ็นรับแทนไม่ได้ เนื่องจากหมายเรียกระบุชัดถึง “เสรีพิศุทธ์” เท่านั้น ไล่ส่งสื่อไปถาม “สมยศ” ในรายละเอียดเชิงลึก
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.สุรพงษ์ เผ่าภูธร รอง สวป.สน.บางขุนนนท์ นำหมายเรียกตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันรุกล้ำผืนป่า จ.กาญจนบุรี ซึ่งออกโดยพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่บ้านพักของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ซึ่งตั้งอยู่เลขที่164/87 ซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. เพื่อแจ้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รับทราบ แต่กลับไม่พบผู้ใดอยู่ภายในบ้าน จึงต้องนำหมายเรียกฉบับดังกล่าวกลับไปที่โรงพักเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวแต่เพียงว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้นำหมายเรียกตัวผู้ต้องหาฉบับนี้มาพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทางพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเรียกไปพบตัวเพื่อสอบปากคำในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. และคงจะให้รายละเอียดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากตนเดินทางมาตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หากผู้สื่อข่าวอยากได้รายละเอียด คงต้องไปหาข่าวกันที่สำนักงานของ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้กันเอง
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนนำหมายเรียกเดินทางมาถึงก็ได้กดกริ่งหน้าบ้านเพื่อเรียกคนในบ้านแล้ว แต่กลับไม่พบว่ามีใครเดินออกมา ทำให้ต้องรีบนำหมายเรียกฉบับนี้กลับไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักว่าไม่พบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและสั่งการต่อไป อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนอื่นๆ ที่พักอยู่ภายในบ้านออกมาขอเซ็นรับแทนก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะในหมายเรียกดังกล่าวระบุชัดเจนว่าส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ผู้เดียวเท่านั้น
สำหรับหมายเรียกตัวผู้ต้องหาฉบับนี้ เป็นหมายเรียกที่ออกโดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.52 เป็นความอาญาที่มี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ เป็นผู้กล่าวหาที่ 1, กรมป่าไม้ เป็นผู้กล่าวหาที่ 2 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.เป็นผู้ต้องหา ตามข้อกล่าวหาที่ถูกระบุมาในหมายเรียกคือ ร่วมกันยึดถือหรือครอบครอง หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,ร่วมกันยึดถือหรือครอบครองหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด ที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายต่อทรัพยากรในที่ดิน ,ร่วมกันทำให้เสียหายทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ เพื่อสาธารณะประโยชน์และเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้หิน กรวด ทราย ดิน โคลน สิ่งของลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้,พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย, ประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญา
ฉะนั้น จึงให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.ในวันที่ 14 ก.ย.52 เวลา 13.00 น.
“สมยศ” เหิมให้เวลา “เสรีพิศุทธ์” ถึงเที่ยงคืนรับข้อกล่าวหา
“เด็กป๊อด” เจ็บแทนนาย! เอาคืน “เสรีพิศุทธ์” ฟันรุกป่าสร้างรีสอร์ต
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.สุรพงษ์ เผ่าภูธร รอง สวป.สน.บางขุนนนท์ นำหมายเรียกตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันรุกล้ำผืนป่า จ.กาญจนบุรี ซึ่งออกโดยพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่บ้านพักของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ซึ่งตั้งอยู่เลขที่164/87 ซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. เพื่อแจ้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รับทราบ แต่กลับไม่พบผู้ใดอยู่ภายในบ้าน จึงต้องนำหมายเรียกฉบับดังกล่าวกลับไปที่โรงพักเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวแต่เพียงว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้นำหมายเรียกตัวผู้ต้องหาฉบับนี้มาพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทางพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเรียกไปพบตัวเพื่อสอบปากคำในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. และคงจะให้รายละเอียดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากตนเดินทางมาตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หากผู้สื่อข่าวอยากได้รายละเอียด คงต้องไปหาข่าวกันที่สำนักงานของ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้กันเอง
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนนำหมายเรียกเดินทางมาถึงก็ได้กดกริ่งหน้าบ้านเพื่อเรียกคนในบ้านแล้ว แต่กลับไม่พบว่ามีใครเดินออกมา ทำให้ต้องรีบนำหมายเรียกฉบับนี้กลับไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักว่าไม่พบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและสั่งการต่อไป อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนอื่นๆ ที่พักอยู่ภายในบ้านออกมาขอเซ็นรับแทนก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะในหมายเรียกดังกล่าวระบุชัดเจนว่าส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ผู้เดียวเท่านั้น
สำหรับหมายเรียกตัวผู้ต้องหาฉบับนี้ เป็นหมายเรียกที่ออกโดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.52 เป็นความอาญาที่มี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ เป็นผู้กล่าวหาที่ 1, กรมป่าไม้ เป็นผู้กล่าวหาที่ 2 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.เป็นผู้ต้องหา ตามข้อกล่าวหาที่ถูกระบุมาในหมายเรียกคือ ร่วมกันยึดถือหรือครอบครอง หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,ร่วมกันยึดถือหรือครอบครองหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด ที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายต่อทรัพยากรในที่ดิน ,ร่วมกันทำให้เสียหายทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ เพื่อสาธารณะประโยชน์และเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้หิน กรวด ทราย ดิน โคลน สิ่งของลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้,พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย, ประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญา
ฉะนั้น จึงให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.ในวันที่ 14 ก.ย.52 เวลา 13.00 น.
“สมยศ” เหิมให้เวลา “เสรีพิศุทธ์” ถึงเที่ยงคืนรับข้อกล่าวหา
“เด็กป๊อด” เจ็บแทนนาย! เอาคืน “เสรีพิศุทธ์” ฟันรุกป่าสร้างรีสอร์ต