ไฟไหม้โรงงานผลิตสี ไทย-โย เพ้นท์ พนักงานหนีตายอลหม่านหลังเพลิงลุกโชน และมีเสียงระเบิดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงได้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ เสียหายนับ 10 ล้านบาท
วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.วิวัฒน์ชัย อนิวัตกูลชัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.อุดมสุข ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานไทย-โย เพ้นท์ ประเทศไทย จำกัด ซอยกาญจนาภิเษก 32 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 คัน และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.อุดมสุข และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตสี พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ปลูกอย่างมีรั้วรอบขอบชิด มีแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากโกดังเก็บสินค้า เอ 1 ซึ่งเป็นโกดังเก็บสีและทินเนอร์ของฝ่ายผลิต เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นพนักงานของโรงงานดังกล่าว มีอาการสำลักควันและถูกไฟลวก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภารามและโรงพยาบาลสิรินธร แพทย์ได้ให้การช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบถามพนักงานของโรงงาน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานกำลังทำงานอยู่จำนวนมาก แต่อยู่ระหว่างพักเบรค จู่ๆ ก็เห็นกลุ่มควันและแสงเพลิง ก่อนจะมีเสียงระเบิดตามมาเป็นระยะๆ พนักงานจึงพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด โดยยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.สรรค์หกิจ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทรบสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ แต่มูลค่าความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุได้มีชาวบ้านของชุมชนสุเหร่าจระเข้บัว จำนวนกว่า 100 คน ที่พักอาศัยอยู่ด้านหลังโรงงานดังกล่าว ได้ออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจ ขับไล่ให้มีการย้ายโรงงานดังกล่าวออกไป เนื่องจากหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานแห่งนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านได้พากันตั้งข้อสงสัยกับเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ว่าอาจเป็นการเผาเพื่อเอาเงินประกันหรืออาจจะเป็นเพราะไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นสีและทินเนอร์ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชน ชาวบ้านได้เรียกร้องให้เจ้าของโรงงานออกมาแสดงความรับผิดชอบและย้ายโรงงานไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากชุมชนแห่งนี้ตั้งมานานแล้วก่อนที่โรงงานแห่งนี้จะมีการก่อสร้างเสียอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกลี้ยกล่อมให้ชาวบ้านและทางโรงงานไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่สำนักงานเขตในวันพรุ่งนี้ ชาวบ้านจึงพากันแยกย้ายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พนักงานของโรงงานดังกล่าวไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปบันทึกภาพทำข่าว โดยอ้างว่าไม่ใช่เหตุใหญ่โต และยังขับไล่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่ให้เข้าไปฉีดน้ำดับเถ้าถ่าน โดยอ้างว่าไม่มีอะไรแล้ว ให้เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายเข้าไป สร้างความไม่พอใจแก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาช่วยกันให้ความช่วยเหลือในการดับเพลิง
