ตำรวจ ปส.จับหนุ่มใหญ่ค้ายาบ้า พร้อมของกลาง กว่า 5 แสนเม็ด พร้อมขยายผลตรวจค้นสหกรณ์แท็กซี่ย่านเจริญกรุง แต่ไม่พบของกลางเพิ่ม
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บช.ปส.2 บุกจับกุมนายสายัณห์ จีนสำราญ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/7 ซอยวัดราชสิงขร แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีเขียวหัวเป็ด ทะเบียน 1571 กทม. อีก 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ขณะขับรถดังกล่าวไปจอดภายในซอยเจริญกรุง 91 แยก 6 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้นำกำลังบุกตรวจค้นบ้านพักซึ่งเป็นของเอเยนต์เครือข่ายเดียวกัน ตั้งอยู่ในละแวกดังกล่าวอีกจำนวน 4 หลัง ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 91/49 บ้านเลขที่ 91/50 บ้านเลขที่ 91/58 และ บ้านเลขที่ 91/60 โดยบ้านทั้งหมดมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ผลการตรวจค้นพบว่า บ้านเลขที่ 91/49 และ บ้านเลขที่ 91/50 เปิดเป็นอู่แท็กซี่ชื่อ สหกรณ์ธนาสยาม จำกัด มีรถแท็กซี่จอดอยู่หน้าบ้านประมาณ 10 คัน
ส่วนภายในบ้านพบรถมินิคูเปอร์ สีครีมคาดดำ ทะเบียน ชศ 812 กทม. รถเบนซ์ รุ่น C 230 ทะเบียน ชล 4488 กทม.ของ พ.จ.อ.หญิง ราณี ฤทธิ์เล็ก อดีตข้าราชการทหารสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด และเจ็ตสกี อีก 3 ลำ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ทำการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินต่อไป
จากนั้นเมื่อนำกำลังขึ้นไปตรวจค้นบนห้องพักชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 91/49 ซึ่งเป็นห้องของนายณัฐพล คงทน อายุ 31 ปี ช่างซ่อมประจำอู่แท็กซี่ พบอาวุธปืนยาวดัดแปลงเป็นแบบออโตเมติก ขนาด .22 HYBRID พร้อมเครื่องกระสุนปืนบรรจุอยู่ในแมกกาซีน จำนวน 21 นัด และโครงปืนขนาด .22 แบบสแตนดาร์ด อีก 1 โครง เบื้องต้นนายณัฐพลไม่มีใบอนุญาตครอบครองมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู แต่อ้างว่าเป็นปืนของเพื่อนชื่อนายหนุ่ม (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นลูกชายเถ้าแก่โต๊ะจีนนำมาฝากไว้จึงถูกควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และดัดแปลงสภาพอาวุธปืนโดยไม่แจ้งต่อนายทะเบียน ก่อนติดตามตัวเจ้าของที่แท้จริงนำหลักฐานมาแสดงเพื่อรับปืนคืนต่อไป
สำหรับผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 91/58 เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น N 95 จำนวน 2 เครื่อง และซิมการ์ดเครือข่ายทรูมูฟ 1 อัน ตกอยู่ในคูน้ำหลังบ้านสภาพเหมือนเพิ่งถูกนำมาทิ้ง จึงเก็บขึ้นมาใช้ไดร์เป่าเพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลในเครื่องและซิมการ์ดอีกครั้ง ส่วนผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 91/60 นั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อดิเทพ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีพลเมืองดีได้แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าที่บ้าน 4 หลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาบ้ารายใหญ่ในย่านนี้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ บช.ปส.2 ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลในบ้านมานานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาชุดจับกุมสืบทราบว่า นายสายัณห์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้นได้ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลิโม่ สีเหลือง ทะเบียน ทล 8997 กทม.ซึ่งเป็นรถในอู่ออกไปโดยมี นายเล็ก (ไม่ทราบนามสกุล) นั่งไปด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้สะกดรอยตามไป ก่อนที่รถแท็กซี่จะไปจอดกลางทางเพื่อให้นายสายัณห์ ขึ้นไปขับรถเก๋งโตโยต้าของกลาง ซึ่งมีผู้นำมาจอดรออยู่บนถนนรังสิต-นครนายก ขับกลับมาที่อู่ โดยนายเล็กขับรถแท็กซี่นำหน้ามา และเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบกระเป๋าสีดำ 2 ใบ บรรจุยาบ้า จำนวน 500,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถ
พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวอีกว่า ทันทีที่นายเล็กเห็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายสายัณห์ ก็รีบลงจากรถแท็กซี่วิ่งหนีไปพร้อมกับผู้ต้องหาอีกคนชื่อนายสกนธ์ หรือ “เลาะห์” ชาญชัยศิลป์ อายุ 32 ปี ซึ่งรออยู่ที่อู่ โดยทั้ง 2 คน หลบหนีไปได้แบบหวุดหวิด โดยเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลในการออกหมายจับ และจะเชิญตัวเจ้าของอู่แท็กซี่มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาบ้าหรือไม่ ก่อนตรวจสอบรถหรู เจ็ตสกี และทรัพย์สินมีค่าที่ยึดไว้ได้เพื่อดำเนินคดีและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดต่อไป
จากการสอบสวน นายสายัณห์ให้การว่า ตนได้รับคำสั่งจากสกนธ์ หรือ “เลาะห์” ให้นั่งรถไปกับนายเล็ก เพื่อไปขับรถโตโยต้าคันดังกล่าวกลับมาจอดไว้ที่อู่ โดยตนไม่ทราบจริงๆ ว่าที่ท้ายรถมียาบ้าจำนวนมากซุกซ่อนเอาไว้ พอตนขับมาถึงอู่ก็ถูกตำรวจจับ โดยนายสกนธ์ และนายเล็ก ได้วิ่งหนีไปซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ถูกจับครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะทำตามคำสั่งของนายสกนธ์เท่านั้น
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บช.ปส.2 บุกจับกุมนายสายัณห์ จีนสำราญ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/7 ซอยวัดราชสิงขร แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีเขียวหัวเป็ด ทะเบียน 1571 กทม. อีก 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ขณะขับรถดังกล่าวไปจอดภายในซอยเจริญกรุง 91 แยก 6 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้นำกำลังบุกตรวจค้นบ้านพักซึ่งเป็นของเอเยนต์เครือข่ายเดียวกัน ตั้งอยู่ในละแวกดังกล่าวอีกจำนวน 4 หลัง ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 91/49 บ้านเลขที่ 91/50 บ้านเลขที่ 91/58 และ บ้านเลขที่ 91/60 โดยบ้านทั้งหมดมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ผลการตรวจค้นพบว่า บ้านเลขที่ 91/49 และ บ้านเลขที่ 91/50 เปิดเป็นอู่แท็กซี่ชื่อ สหกรณ์ธนาสยาม จำกัด มีรถแท็กซี่จอดอยู่หน้าบ้านประมาณ 10 คัน
ส่วนภายในบ้านพบรถมินิคูเปอร์ สีครีมคาดดำ ทะเบียน ชศ 812 กทม. รถเบนซ์ รุ่น C 230 ทะเบียน ชล 4488 กทม.ของ พ.จ.อ.หญิง ราณี ฤทธิ์เล็ก อดีตข้าราชการทหารสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด และเจ็ตสกี อีก 3 ลำ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ทำการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินต่อไป
จากนั้นเมื่อนำกำลังขึ้นไปตรวจค้นบนห้องพักชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 91/49 ซึ่งเป็นห้องของนายณัฐพล คงทน อายุ 31 ปี ช่างซ่อมประจำอู่แท็กซี่ พบอาวุธปืนยาวดัดแปลงเป็นแบบออโตเมติก ขนาด .22 HYBRID พร้อมเครื่องกระสุนปืนบรรจุอยู่ในแมกกาซีน จำนวน 21 นัด และโครงปืนขนาด .22 แบบสแตนดาร์ด อีก 1 โครง เบื้องต้นนายณัฐพลไม่มีใบอนุญาตครอบครองมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู แต่อ้างว่าเป็นปืนของเพื่อนชื่อนายหนุ่ม (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นลูกชายเถ้าแก่โต๊ะจีนนำมาฝากไว้จึงถูกควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และดัดแปลงสภาพอาวุธปืนโดยไม่แจ้งต่อนายทะเบียน ก่อนติดตามตัวเจ้าของที่แท้จริงนำหลักฐานมาแสดงเพื่อรับปืนคืนต่อไป
สำหรับผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 91/58 เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น N 95 จำนวน 2 เครื่อง และซิมการ์ดเครือข่ายทรูมูฟ 1 อัน ตกอยู่ในคูน้ำหลังบ้านสภาพเหมือนเพิ่งถูกนำมาทิ้ง จึงเก็บขึ้นมาใช้ไดร์เป่าเพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลในเครื่องและซิมการ์ดอีกครั้ง ส่วนผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 91/60 นั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อดิเทพ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีพลเมืองดีได้แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าที่บ้าน 4 หลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาบ้ารายใหญ่ในย่านนี้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ บช.ปส.2 ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลในบ้านมานานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาชุดจับกุมสืบทราบว่า นายสายัณห์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้นได้ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลิโม่ สีเหลือง ทะเบียน ทล 8997 กทม.ซึ่งเป็นรถในอู่ออกไปโดยมี นายเล็ก (ไม่ทราบนามสกุล) นั่งไปด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้สะกดรอยตามไป ก่อนที่รถแท็กซี่จะไปจอดกลางทางเพื่อให้นายสายัณห์ ขึ้นไปขับรถเก๋งโตโยต้าของกลาง ซึ่งมีผู้นำมาจอดรออยู่บนถนนรังสิต-นครนายก ขับกลับมาที่อู่ โดยนายเล็กขับรถแท็กซี่นำหน้ามา และเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบกระเป๋าสีดำ 2 ใบ บรรจุยาบ้า จำนวน 500,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถ
พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวอีกว่า ทันทีที่นายเล็กเห็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายสายัณห์ ก็รีบลงจากรถแท็กซี่วิ่งหนีไปพร้อมกับผู้ต้องหาอีกคนชื่อนายสกนธ์ หรือ “เลาะห์” ชาญชัยศิลป์ อายุ 32 ปี ซึ่งรออยู่ที่อู่ โดยทั้ง 2 คน หลบหนีไปได้แบบหวุดหวิด โดยเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลในการออกหมายจับ และจะเชิญตัวเจ้าของอู่แท็กซี่มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาบ้าหรือไม่ ก่อนตรวจสอบรถหรู เจ็ตสกี และทรัพย์สินมีค่าที่ยึดไว้ได้เพื่อดำเนินคดีและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดต่อไป
จากการสอบสวน นายสายัณห์ให้การว่า ตนได้รับคำสั่งจากสกนธ์ หรือ “เลาะห์” ให้นั่งรถไปกับนายเล็ก เพื่อไปขับรถโตโยต้าคันดังกล่าวกลับมาจอดไว้ที่อู่ โดยตนไม่ทราบจริงๆ ว่าที่ท้ายรถมียาบ้าจำนวนมากซุกซ่อนเอาไว้ พอตนขับมาถึงอู่ก็ถูกตำรวจจับ โดยนายสกนธ์ และนายเล็ก ได้วิ่งหนีไปซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ถูกจับครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะทำตามคำสั่งของนายสกนธ์เท่านั้น
