กรรมการ ก.ต.ช.หักดิบ นายกรัฐมนตรี หลังเสนอ “พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ” เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เพียงรายชื่อเดียว ขณะที่ ก.ต.ช.ท้วงติง ให้เสนอ 2 รายชื่อ พร้อมเสนอให้โหวตลงมติ แต่ “มาร์ค” แก้เกม ด้วยการเลื่อนลงมติออกไปก่อน
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ก.ต.ช.คณะกรรมการ ก.ต.ช.เข้าครบทั้ง 11 ท่าน โดยการประชุมเริ่มเมื่อเวลา 16.00 น.วาระแรกเป็นวาระเพื่อทราบ เรื่องการพิจารณากองทุนสืบสวนสอบสวน และเรื่องที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการมอบหมายหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่าง อนุ ก.ตร.พิจารณา และมีเรื่องที่เกี่ยวกับ ก.ต.ช.คือ เรื่องคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.ซึ่ง ก.ต.ช.ก็รับทราบ และยอมรับว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีคุณสมบัติและคุณวุฒิที่เหมาะสมเป็น ผบ.ตร.ได้ แต่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ เพราะเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็ถือว่าเรื่องที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ร้องมาได้ผ่านการพิจารณาของ ก.ต.ช.เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกลับมาพิจารณาอีก
“หลังจากประชุมทั้งสองเรื่องแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที นายกรัฐมนตรีก็ได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออก เหลือเพียงคณะกรรมการ ก.ต.ช.ทั้ง 11 ท่าน ประชุมต่อกันเองในวาระการเลือก ผบ.ตร.ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย ซึ่งผลเป็นอย่างไรตนเองก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ร่วมอยู่ในที่ประชุมด้วย แต่ทราบภายหลังว่ายังไม่สามารถเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ได้ และนายกฯก็ยังไม่ได้แจ้งว่า จะประชุม ก.ต.ช.ครั้งต่อไปเมื่อไหร่ สำหรับการเลือก ผบ.ตร.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร.เพียงชื่อเดียว แต่ครั้งนี้ตนเองไม่ทราบจริงๆ ว่า มีการเสนอชื่อเข้าชิงกี่คน” รอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช.ก็ได้เตรียมประวัตินายตำรวจยศ พล.ต.อ.ทุกท่านเป็นข้อมูลใส่แฟ้มให้กับคณะกรรมการ ก.ต.ช.ทุกคนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา โดยส่วนตัวซึ่งมียศ พล.ต.อ.ก็ไม่ได้ไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เรียกไปพบ และไม่มีหนังสือเวียนให้ส่งประวัติ หรือวิสัยทัศน์แต่อย่างใด เป็นเพียงการเสนอผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น ว่า นายกฯให้ไปแสดงวิสัยทัศน์ เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีเรียกบุคคลที่มีความอาวุโสจะได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร.เข้าพูดคุย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏว่า ตลอดช่วงบ่าย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นแคนดิเดตเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ปรากฏว่า ไม่มีใครเข้ามายังสำนักงาน สำนักงาน พล.ต.อ.จุมพล เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจในสำนักงานเท่านั้น ส่วนสำนักงาน พล.ต.อ.ปทีป ก็เป็นไปตามปกติ พล.ต.อ.ปทีป เข้ามาตอนเช้า และออกจากสำนักงานไปเมื่อเวลา 15.00 น.
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม ก.ต.ช.ในวาระเลือก ผบ.ตร.นั้น นายกรัฐมนตรีได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เพียงคนเดียว ให้กับคณะกรรมการ ก.ต.ช.พิจารณา จากนั้นได้มีการโหวตว่าจะรับหรือไม่รับ พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร.ซึ่งผลการโหวตปรากฏว่ามีเสียงสนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป ไม่เกินกึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถเลือก ผบ.ตร.ได้ นายกฯ จึงได้สั่งปิดการประชุมและต้องเลื่อนการประชุมออกไป
ในขณะเดียวกัน ก็มีคณะกรรมการ ก.ต.ช.บางท่านท้วงติงว่าทำไมเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป เพียงรายเดียว พร้อมเสนอในที่ประชุม ให้พิจารณาชื่อ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย มาพิจารณาด้วย แต่นายกฯซึ่งตามกฎหมายจะเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถเสนอรายชื่อได้ ไม่เสนอชื่อ พล.ต.อ.จุมพล ในที่ประชุม ก.ต.ช.แล้วชิงปิดประชุม จึงไม่มีการโหวตชื่อ พล.ต.อ.จุมพล แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการคาดว่า การประชุมครั้งหน้านายกฯจะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป อีก ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายสามารถทำได้ โดยสามารถให้เหตุผลว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของ พล.ต.อ.ปทีป เพิ่มขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะมีการเริ่มการประชุม นายอภิสิทธิ์ ทราบก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีการคัดค้าน พล.ต.อ.ปทีป เนื่องจากก่อนหน้านี้มีความพยายามของฝ่ายที่สนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล ได้พยายามล็อบบี้ คณะกรรมการ ก.ต.ช.เพื่อให้ลงมติไม่เห็นชอบให้ พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร.ทำให้คณะกรรมการ ก.ต.ช.บางคนถึงกับปิดโทรศัพท์มือถือ และเก็บตัวเงียบตลอดทั้งวัน
ทั้งนี้ ก.ต.ช.11 คนที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธาน ก.ต.ช., นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดมหาดไทย, นายพีระพันธุ์ สาลิรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม, นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร., นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย, ผช.ศ.นพดล อินนา ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาองค์กร, นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ และ พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางแผน หรือการบริหารและจัดการ