มารดาโจ๋ 19 ถูกฆ่าเสียชีวิต พร้อมตัวแทนชาวบ้านอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี 100 คน เข้าร้องขอความเป็นธรรมให้ดีเอสไอช่วยสืบคดีลูกชายเสียชีวิตเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา อาจพัวพันผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น และขบวนการค้ายาเสพติด เหตุเจอผลพิสูจน์ศพขัดแย้งกัน
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมสวบสวนคดีพิเศษ นางวันเพ็ญ เมฆศรีสวรรค์ อายุ 45 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านจากอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จำนวนประมาณ 100 คน เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ หัวหน้ากลุ่มเลขานุการและบริหารคดีพิเศษ กรณีการเสียชีวิตของนายเทร์วิน เมฆศรีสวรรค์ อายุ 19 ปี บุตรชาย ซึ่งเสียชีวิตเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมาขณะไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อน
นางวันเพ็ญกล่าวว่า ก่อนที่บุตรชายจะเสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่า เพื่อนในกลุ่มเคยบังคับให้ค้ายาเสพติด แต่บุตรชายปฏิเสธ ตนเชื่อว่าเมื่อบุตรชายล่วงรู้ความลับและไม่ยอมเข้าร่วมขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในจังหวัดจึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
นางวันเพ็ญกล่าวต่อไปว่า ผลชันสูตรพลิกศพของบุตรชายมีความขัดแย้งกัน โดยสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่าไม่พบความผิดปกติ แต่ผลการชันสูตรศพของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กลับพบว่ามีรอยช้ำที่ลำคอและร่างกาย จึงต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษและดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีนี้ไม่มีความคืบหน้าและตำรวจในท้องที่สิงห์บุรี ไม่ยอมติดตามคนร้ายให้ รวมทั้งเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา ดิฉันได้ร้องเรียนต่อกองปราบปราม แต่ก็ไม่มีคืบหน้าเช่นกัน” นางวันเพ็ญ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อพิจารณาตามลำดับชั้นต่อไป
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมสวบสวนคดีพิเศษ นางวันเพ็ญ เมฆศรีสวรรค์ อายุ 45 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านจากอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จำนวนประมาณ 100 คน เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ หัวหน้ากลุ่มเลขานุการและบริหารคดีพิเศษ กรณีการเสียชีวิตของนายเทร์วิน เมฆศรีสวรรค์ อายุ 19 ปี บุตรชาย ซึ่งเสียชีวิตเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมาขณะไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อน
นางวันเพ็ญกล่าวว่า ก่อนที่บุตรชายจะเสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่า เพื่อนในกลุ่มเคยบังคับให้ค้ายาเสพติด แต่บุตรชายปฏิเสธ ตนเชื่อว่าเมื่อบุตรชายล่วงรู้ความลับและไม่ยอมเข้าร่วมขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในจังหวัดจึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
นางวันเพ็ญกล่าวต่อไปว่า ผลชันสูตรพลิกศพของบุตรชายมีความขัดแย้งกัน โดยสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่าไม่พบความผิดปกติ แต่ผลการชันสูตรศพของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กลับพบว่ามีรอยช้ำที่ลำคอและร่างกาย จึงต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษและดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีนี้ไม่มีความคืบหน้าและตำรวจในท้องที่สิงห์บุรี ไม่ยอมติดตามคนร้ายให้ รวมทั้งเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา ดิฉันได้ร้องเรียนต่อกองปราบปราม แต่ก็ไม่มีคืบหน้าเช่นกัน” นางวันเพ็ญ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อพิจารณาตามลำดับชั้นต่อไป