อัยการทำสำนวนสั่งฟ้องแกนนำ นปช.ปิดล้อมบ้าน “ป๋าเปรม” แล้ว รอนัดวัน นปช.รายงานตัวยื่นฟ้องศาล หากนัดแล้วไม่มาโดยไม่มีเหตุผล จะประสานตำรวจออกหมายจับ ส่วนคดีแกนนำ นปช.14 คน ก่อความวุ่นวายช่วงสงกรานต์ นัดฟังคำสั่ง 20 ส.ค.นี้
วันนี้ (19 ส.ค.) นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวถึงคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.50 ว่า หลังจากที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด มีความเห็นชี้ขาดสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด หลังจากที่ ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งยืนยันสมควรฟ้องผู้ต้องหาแล้ว พนักงานอัยการคดีอาญา 10 ซึ่งรับผิดชอบสำนวนนี้ตั้งแต่ต้น ได้รับสำนวนและความเห็นชี้ขาดของอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเอกสาร และการกำหนดวันนัดให้แกนนำ นปช. และผู้ร่วมชุมนุม ผู้ต้องหา มาฟังการสั่งคดี และนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา
“คำสั่งชี้ขาดของอัยการสูงสุดถือเป็นที่สุดแล้ว ดังนั้น เมื่อนัดกลุ่ม นปช.มารายงานตัวก็สามารถนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลได้ทันที แต่ถ้าอัยการกำหนดวันนัด และผู้ต้องหารับทราบแล้วไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุ อัยการจะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขออนุมัติหมายจับติดตามตัวมาฟ้องต่อไป” อธิบดีอัยการคดีอาญากล่าว
ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความแกนนำ นปช.กล่าวว่า ที่ผ่านมารับทราบข่าวว่าอัยการสูงสุด มีความเห็นให้ฟ้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ให้เข้ารายงานตัว เพื่อฟังคำสั่งและนำตัวไปยื่นฟ้อง ซึ่งคงต้องรอหมายแจ้งอย่างเป็นทางการว่าอัยการนัดฟังคำสั่งเมื่อใด
ทั้งนี้ นายคารมกล่าวถึงคดีที่นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ นปช.รวม 14 คน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง จากการชุมนุมคนเสื้อแดงและฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.จนถึงช่วงสงกรานต์ เดือน เม.ย.52 ที่ผ่านมาว่า ตามที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 นัดสั่งคดีนั้น ในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาจะเดินทางรายงานตัวต่ออัยการ แต่การสั่งคดีคงจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากการสอบสวนเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตามสำนวนพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ นปช.10 คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นพ.เหวง โตจิราการ, พ.อ.อภิวันท์ แก้วนพจิตร, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และร่วมกันเดินแถว เดินเป็นขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร และร่วมกันกระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และผู้ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายอีก 5 คน ประกอบด้วย นายบรรธง สมคำ, ม.ล.วีระยุทธ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา, นายศราวุธ หลงเส็ง, นายวีระศักดิ์ เหมธุริน และนายวันชัย นาพุทธา ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
วันนี้ (19 ส.ค.) นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวถึงคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.50 ว่า หลังจากที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด มีความเห็นชี้ขาดสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด หลังจากที่ ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งยืนยันสมควรฟ้องผู้ต้องหาแล้ว พนักงานอัยการคดีอาญา 10 ซึ่งรับผิดชอบสำนวนนี้ตั้งแต่ต้น ได้รับสำนวนและความเห็นชี้ขาดของอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเอกสาร และการกำหนดวันนัดให้แกนนำ นปช. และผู้ร่วมชุมนุม ผู้ต้องหา มาฟังการสั่งคดี และนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา
“คำสั่งชี้ขาดของอัยการสูงสุดถือเป็นที่สุดแล้ว ดังนั้น เมื่อนัดกลุ่ม นปช.มารายงานตัวก็สามารถนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลได้ทันที แต่ถ้าอัยการกำหนดวันนัด และผู้ต้องหารับทราบแล้วไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุ อัยการจะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขออนุมัติหมายจับติดตามตัวมาฟ้องต่อไป” อธิบดีอัยการคดีอาญากล่าว
ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความแกนนำ นปช.กล่าวว่า ที่ผ่านมารับทราบข่าวว่าอัยการสูงสุด มีความเห็นให้ฟ้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ให้เข้ารายงานตัว เพื่อฟังคำสั่งและนำตัวไปยื่นฟ้อง ซึ่งคงต้องรอหมายแจ้งอย่างเป็นทางการว่าอัยการนัดฟังคำสั่งเมื่อใด
ทั้งนี้ นายคารมกล่าวถึงคดีที่นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ นปช.รวม 14 คน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง จากการชุมนุมคนเสื้อแดงและฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.จนถึงช่วงสงกรานต์ เดือน เม.ย.52 ที่ผ่านมาว่า ตามที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 นัดสั่งคดีนั้น ในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาจะเดินทางรายงานตัวต่ออัยการ แต่การสั่งคดีคงจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากการสอบสวนเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตามสำนวนพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ นปช.10 คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นพ.เหวง โตจิราการ, พ.อ.อภิวันท์ แก้วนพจิตร, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และร่วมกันเดินแถว เดินเป็นขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร และร่วมกันกระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และผู้ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายอีก 5 คน ประกอบด้วย นายบรรธง สมคำ, ม.ล.วีระยุทธ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา, นายศราวุธ หลงเส็ง, นายวีระศักดิ์ เหมธุริน และนายวันชัย นาพุทธา ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
