กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบ 2 จังหวัด หาหลักฐานต่างชาติกว้านซื้อที่นา เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานชัดเจน พร้อมประสานข้อมูลกรมธุรกิจการค้าตรวจสอบบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ
วันนี้ (13 ส.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่นาที่อาจมีการให้ต่างชาติถือครอง หรือนอมินีว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับทางกระทรวงพาณิชย์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลังจากที่ทางนายประดิษฐ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย ได้เข้ามาให้ข้อมูลในประเด็นชาวต่างชาติได้กว้านซื้อที่นาในเขตจังหวัดภาคกลางนั้น ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผู้อำนวยการส่วน 2 สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น แต่ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรือหลักฐานอื่นๆ จึงต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมอีก โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 จังหวัด ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม เนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจกระทบต่อการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติได้ ซึ่งหลังจากนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะลงพื้นที่เพิ่มอีก แต่ยังไม่พร้อมเปิดเผยในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้ไปตรวจสอบที่กรมที่ดินตามจังหวัดนั้น ว่ามีการโอนเปลี่ยนมือผู้ถือครองหรือไม่ ซึ่งถ้ามีการขายฝากที่ดินก็จะทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ยากขึ้น รวมไปถึงกรณีที่อาจมีชาวนาไทยให้ความร่วมมือกับชาวต่างชาติในการให้เช่าที่นาที่อาจอาศัยช่องโหว่ทางข้อกฎหมายที่มีการให้ถือครองกี่เปอร์เซ็นต์นั้น ดีเอสไอก็ได้ประสานเรื่องนี้กับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลบริษัทข้ามชาติต่างๆ แต่ทั้งนี้มีจำนวนบริษัทข้ามชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงต้องรอการประสานข้อมูลจากกรมธุรกิจการค้าเสียก่อน