“พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” เจ้าของฉายา “เด็จพี่” ในหนังทีวีจักรวงศ์ แจ้งตำรวจกองปราบปรามให้จับกุม รมว.-รมช.และปลัดมหาดไทย ฐานสั่งผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.คัดค้านการล่ารายชื่อถวายฎีกามาดำเนินคดี
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นำประชาชนกว่า 30 คนที่ได้รับความเสียหายจากการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เชื่อมสกุลรัตน์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนายพร้อมพงศ์ได้นำหนังสือคำสั่งไปผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้หน่วยงานเหล่านั้นเกณฑ์ประชาชนมาร่วมลงชื่อคัดค้านการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การที่กระทรวงมหาดไทยออกหนังสือราชการ และแถลงผ่านสื่อมวลชนเพื่อสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอตั้งโต๊ะ คัดค้านฎีกา เป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 191 บัญญัติไว้ว่า เป็นพระราชอำนาจ เป็นพระราชวินิจฉัย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่มีระเบียบ หรือกฎหมายให้ทำเช่นนี้
“นอกจากนายชวรัตน์ นายบุญจง และนายวิชัยแล้ว ก็จะขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนด้วย เช่น พล.ต.ต.ตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดหนึ่งคนหนึ่งทางภาคอีสานที่ทำหนังสือถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอต่างๆ ในจังหวัดอีกด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นำประชาชนกว่า 30 คนที่ได้รับความเสียหายจากการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เชื่อมสกุลรัตน์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนายพร้อมพงศ์ได้นำหนังสือคำสั่งไปผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้หน่วยงานเหล่านั้นเกณฑ์ประชาชนมาร่วมลงชื่อคัดค้านการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การที่กระทรวงมหาดไทยออกหนังสือราชการ และแถลงผ่านสื่อมวลชนเพื่อสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอตั้งโต๊ะ คัดค้านฎีกา เป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 191 บัญญัติไว้ว่า เป็นพระราชอำนาจ เป็นพระราชวินิจฉัย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่มีระเบียบ หรือกฎหมายให้ทำเช่นนี้
“นอกจากนายชวรัตน์ นายบุญจง และนายวิชัยแล้ว ก็จะขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนด้วย เช่น พล.ต.ต.ตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดหนึ่งคนหนึ่งทางภาคอีสานที่ทำหนังสือถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอต่างๆ ในจังหวัดอีกด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว