ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์สาขาคลองเตย ถูกมือมืดสาดลูกซองสั่นยิงเสียหาย กระจกแตกกระจายเกลื่อนทั่วพื้นบริเวณ กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ ขณะที่ “กรณิศ” คาด 2 ปม ด้านตำรวจ เชื่อปมการเมือง-แค้นส่วนตัว ไม่มุ่งเอาชีวิตแค่ข่มขู่ เร่งตามคนร้ายดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.วิทม พูนช่วย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ สาขาคลองเตย และเป็นสำนักงานของนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ก.เขตคลองเตย ตั้งอยู่เลขที่ 333-335 ถนน ณ ระนอง แขวงและเขตคลองเตย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 3 คูหา พบบริเวณประตูกระจกทางเข้าสำนักงาน มีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้นไม่ทราบขนาด จนทำกระจกแตกร้าวเป็นวงกว้าง โดยมีเศษกระจกตกกระจายเกลื่อนพื้นบริเวณด้านนอก และด้านในสำนักงาน นอกจากนี้ยังพบกระสุนลูกปรายจำนวน 9 เม็ด ตกอยู่โดยรอบทั้งด้านหน้าและด้านใน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา อายุ 40 ปี ส.ก.เขตตลองเตย พรรคประชาธิปปัตย์ ให้การว่า ตนมาทราบเรื่องเมื่อช่วงเวลา 06.00 น. โดยมีชาวบ้านแจ้งให้ทราบก็เลยรีบมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าบริเวณประตูกระจกด้านหน้าสำนักงานเป็นรอยแตกร้าว เมื่อมาตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดด้านหน้าสำนักงาน พบว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ตนจึงรีบไปแจ้งความทันที
นางกรณิศกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ขับวนไปมาบริเวณหน้าสำนักงานของตน โดยเริ่มจากด้านท้ายซอยมุ่งหน้าไปทางปากซอยฝั่งคลังน้ำมันเชลส์ แล้ววกกลับมาใช้อาวุธปืนซึ่งคาดว่าเป็นปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่สำนักงานจนทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งช่วงเกิดเหตุนั้นไม่มีใครพักอาศัยอยู่ด้านใน อีกทั้งไม่มี รปภ.เฝ้าสำนักงานจึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นางกรณิศกล่าวต่อว่า ตนตั้งประเด็นเหตุการณ์การกระทำไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องของปมการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากในช่วงเดือนสิงหาคมปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.ใหม่ เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมจะหมดวาระลงช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนตนเองตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมาก็ทำงานให้ประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยได้รับการข่มขู่มาก่อน
ส่วนอีกประเด็นนั้นอาจจะมาจากความโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยไล่ผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานออกไป 1 คน สาเหตุมาจากการไม่ทำงาน และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็เคยโดนปาหินใส่สำนักงานมาแล้วด้วย ทำให้กระจกด้านหน้าได้รับความเสียหาย ซึ่งภายหลังเกิดเหตุก็ไปแจ้งความแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือครั้งนั้นได้แต่อย่างใด
นางกรณิศกล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังให้ความเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากว่าภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งถือเป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญ และคาดว่าจะสามารถทำการสืบสวนไปถึงต้นตอของผู้จ้างวานได้ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมีสาเหตุสำคัญมาจาก 2 ประเด็น คือ เรื่องของปมการเมือง และความแค้นส่วนตัว แต่ไม่มุ่งไปที่การเอาชีวิต น่าจะเป็นการข่มขู่ แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว ภาพดังกล่าว สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าสำนักงานไป แล้วมีเศษกระจกแตก ซึ่งยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการสอบพยานแวดล้อมอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบข้อมูลของอดีตผู้จัดการทั่วไปว่าเป็นใคร ก่อนจะทำการเรียกตัวมาสอบปากคำว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
คนร้ายปากระจกที่ทำการพรรค ปชป.สาขาย่อยคลองเตย
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.วิทม พูนช่วย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ สาขาคลองเตย และเป็นสำนักงานของนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ก.เขตคลองเตย ตั้งอยู่เลขที่ 333-335 ถนน ณ ระนอง แขวงและเขตคลองเตย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 3 คูหา พบบริเวณประตูกระจกทางเข้าสำนักงาน มีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้นไม่ทราบขนาด จนทำกระจกแตกร้าวเป็นวงกว้าง โดยมีเศษกระจกตกกระจายเกลื่อนพื้นบริเวณด้านนอก และด้านในสำนักงาน นอกจากนี้ยังพบกระสุนลูกปรายจำนวน 9 เม็ด ตกอยู่โดยรอบทั้งด้านหน้าและด้านใน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา อายุ 40 ปี ส.ก.เขตตลองเตย พรรคประชาธิปปัตย์ ให้การว่า ตนมาทราบเรื่องเมื่อช่วงเวลา 06.00 น. โดยมีชาวบ้านแจ้งให้ทราบก็เลยรีบมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าบริเวณประตูกระจกด้านหน้าสำนักงานเป็นรอยแตกร้าว เมื่อมาตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดด้านหน้าสำนักงาน พบว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ตนจึงรีบไปแจ้งความทันที
นางกรณิศกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ขับวนไปมาบริเวณหน้าสำนักงานของตน โดยเริ่มจากด้านท้ายซอยมุ่งหน้าไปทางปากซอยฝั่งคลังน้ำมันเชลส์ แล้ววกกลับมาใช้อาวุธปืนซึ่งคาดว่าเป็นปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่สำนักงานจนทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งช่วงเกิดเหตุนั้นไม่มีใครพักอาศัยอยู่ด้านใน อีกทั้งไม่มี รปภ.เฝ้าสำนักงานจึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นางกรณิศกล่าวต่อว่า ตนตั้งประเด็นเหตุการณ์การกระทำไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องของปมการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากในช่วงเดือนสิงหาคมปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.ใหม่ เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมจะหมดวาระลงช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนตนเองตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมาก็ทำงานให้ประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยได้รับการข่มขู่มาก่อน
ส่วนอีกประเด็นนั้นอาจจะมาจากความโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยไล่ผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานออกไป 1 คน สาเหตุมาจากการไม่ทำงาน และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็เคยโดนปาหินใส่สำนักงานมาแล้วด้วย ทำให้กระจกด้านหน้าได้รับความเสียหาย ซึ่งภายหลังเกิดเหตุก็ไปแจ้งความแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือครั้งนั้นได้แต่อย่างใด
นางกรณิศกล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังให้ความเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากว่าภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งถือเป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญ และคาดว่าจะสามารถทำการสืบสวนไปถึงต้นตอของผู้จ้างวานได้ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมีสาเหตุสำคัญมาจาก 2 ประเด็น คือ เรื่องของปมการเมือง และความแค้นส่วนตัว แต่ไม่มุ่งไปที่การเอาชีวิต น่าจะเป็นการข่มขู่ แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว ภาพดังกล่าว สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าสำนักงานไป แล้วมีเศษกระจกแตก ซึ่งยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการสอบพยานแวดล้อมอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบข้อมูลของอดีตผู้จัดการทั่วไปว่าเป็นใคร ก่อนจะทำการเรียกตัวมาสอบปากคำว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
คนร้ายปากระจกที่ทำการพรรค ปชป.สาขาย่อยคลองเตย