ตำรวจ บก.น.7 ร่วมกับทหารเรือ จับแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ย่านฝั่งธนฯ ได้ ขณะที่ บก.น.9 ไม่น้อยหน้า รวบได้ 3 แก๊ง
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เฉลิมชัย ปานพิทักษ์พันธ์ ผกก.สน.บางกอกน้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกน้อย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายธนากร หรือกอล์ฟ สินวงค์ษา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.8 แขวงบางวาด เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 1276/2552 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2552 และนายภูริบูรณ์ หรืออั้ม สุขเสวตร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/20 ม.2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 1277/2552 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีส้ม-ดำ หมายเลขทะเบียน กรก-266 สมุทรสาคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน รธว-171 กทม. จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน ลทย-102 กทม.จำนวน 1 คัน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณแฟลตทหารเรือ ซ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน 22 ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ รถจยย.ตามหอพักและอพาร์ตเมนต์ต่างๆ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ในเขตพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี จึงได้หาทำการเบาะแสและเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจึงให้สายลับทำการล่อซื้อรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาไปขโมยมา ในราคา 4,000 บาท จากนั้นได้นัดรับรถจักรยานยนต์ที่บริเวณแฟลตทหารเรือ
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหามาส่งของตามนัด นายอั้มได้ขึ้นไปอยู่บนแฟลต เพื่อดูต้นทางว่ามีตำรวจหรือไม่ โดยมีนายกอล์ฟเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์มาส่งให้สายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มสังเกตการณ์และวางกำลังโดยรอบอาคารจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเอาไว้ได้พร้อมของกลาง ทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือในการอำนวยความสะดวกอีกด้วย
จากการสอบสวนนายกอล์ฟ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามหอพักและสถานที่ต่างๆ โดยใช้วิธีการหักคอรถ จะเลือกเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ และฟีโน่เท่านั้น โดยใช้เวลาในการก่อเหตุไม่เกิน 10 วินาที เมื่อได้รถมาก็จะนำไปส่งให้กับนายโอ้ ฟีโน่ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง โดยนายโอ้จะนำรถไปขายต่อให้กับลูกค้าในราคาคันละ 4,000 บาท ส่วนตนทั้ง 2 คนจะได้ส่วนแบ่งคนละ 500 บาท ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน เงินที่ได้มาก็จะนำไปเที่ยวเตร่ และซื้อยาบ้าเสพ ที่ผ่านมาตนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดท้องที่ สน.บางยี่เรือ มาแล้ว ส่วนนายอั้มก็เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเดียวกันในท้องที่ สน.เพชรเกษม ตนกับเพื่อนไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แต่เพิ่งจะไปสมัครงานในตำแหน่งพนักงานส่งเอกสารไว้และกำลังจะเริ่มงาน แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า สำหรับแก๊งลักรถจักรยานยนต์แก๊งนี้ยังมีสมาชิกที่หลบนีอีก 4-5 คน รวมถึงนายโอ้หัวหน้าแก๊งด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายจับไว้แล้ว และจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว สำหรับมาตรการการป้องกันเรื่องดังกล่าว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละพื้นที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กทม.เพื่อหาที่ล็อกล้อให้ประชาชนที่นำมารถมาจอดตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมาคนร้ายสามารถก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย เพราะเพียงแค่ใช้วิธีการหักคอรถก็นำรถไปได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ต่อมาวันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.สักกฉัฐ กิตติขจร ผบก.น.9 พ.ต.อ.วรนิตย์ สวนครามดี ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายอภิรักษ์ หรือรส เจริญสัตย์ อายุ 34 ปี 2.นายเด่นชาย เจริญสัตย์ อายุ 27 ปี และ 3.นายวันชัย หรือหน่อย กาสอนทอง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยจับกุมได้ที่ซอยวันดี 2 แขวงและเขตบางแค กทม.
พล.ต.ต.สักกฉัฐ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวและกวดขันเกี่ยวกับแก๊งลักรถจักรยานยนต์มาโดยตลอดจนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบนายเด่นชัยและนายอภิรักษ์ 2 พี่น้อง ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาด้วยท่าทางพิรุธ จึงขอตรวจค้นและทำการสอบสวนจนทราบว่าทั้ง 2 ได้ร่วมกับนายวันชัยก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็นำรถที่ขโมยมาไปก่อเหตุปล้นรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายในซอยกำนันแม้น 36 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ได้เงินสดไป จำนวน 700 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
“ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เคยติดคุกมาแล้วคนละไม่ต่ำกว่า 18-20 ครั้ง โดยนายเด่นชาย อายุ 27 ปี แต่ติดคุกมาแล้วถึง 22 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคดีร่วมกันลักทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ทั้งหมดรู้จักกันในเรือนจำ เมื่อออกจากคุกมาก็จะก่อเหตุลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อนำเงินที่ได้มาแบ่งกันไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งครั้งล่าสุดทั้ง 3 คน เพิ่งจะออกจากคุกมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะมาถูกจับกุมอีกครั้ง” พล.ต.ต.สักกฉัฐ กล่าว
จากการสอบสวนนายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนกับพวกรู้จักกันมา 22 ปีแล้ว ที่ก่อเหตุซ้ำหลายครั้งก็เพราะไม่มีงานทำ ต้องการนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ส่วนรอยสักที่เห็นมีเพื่อนที่อยู่ในเรือจำเป็นคนสักให้ ตนสักหมดทั้งตัวรวมถึงใบหน้า เหลือเพียงส่วนเดียวในร่างกายที่ยังไม่ได้สักคือบริเวณก้น ครั้งนี้หากเข้าไปอีกจะให้เพื่อนสักให้ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการสักจะแอบลักลอบนำเข้ามา และทำการสักเวลาเข้าเรือนนอน เมื่อสักแล้วตนจะต้องคอยหลบไม่ให้ผู้คุมเห็น โดยการเดินก้มหน้าเวลาเจอผู้คุม
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สักกฉัฐ ยังแถลงข่าวผลการจับกุมคดีต่างๆ ในเขตพื้นที่ บก.น.9 โดย สน.หนองค้างพลู ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชวลิต หรือพร หรือโก๋ จอมขวัญ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาลักรถจักรยานยนต์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ปษร-262 กทม. และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีแดงดำ ทะเบียน ปวร-251 กทม. โดยจับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยกล้วยไม้ ข้างปั๊มเอสโซ่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเอาไปขายและนำเงินมาเที่ยวเตร่
อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เทียนทะเล ร่วมกันจับกุมตัวนายสันติสุข ค้ำคูณ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหายจับศาลอาญาธนบุรี ที่677/2552 ลงวันที่ 16 ก.ค.52 ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่จ.963/2552 ลงวันที่ 27 ก.ค.52 ในข้อหาหลบหนีไประหว่างถูกคุมขังตามอำนาจของศาล โดยแหกที่คุมขังโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักรถจยย.และหลบหนีระหว่างถูกคุมขังในคดียาเสพติด เบื้องต้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล และประสาน สภ.ธัญบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
รายสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเดชา หรือแฮค เทพโคราช อายุ 23 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และนายไพศิษฐ์ หรืออั้น กิตติโยภาส อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 390 เม็ด จากการสอบสวสนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้องหามีอาวุธปืนไว้ในความครอครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษแก่นายเดชา และแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาบ้า ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เฉลิมชัย ปานพิทักษ์พันธ์ ผกก.สน.บางกอกน้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกน้อย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายธนากร หรือกอล์ฟ สินวงค์ษา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.8 แขวงบางวาด เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 1276/2552 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2552 และนายภูริบูรณ์ หรืออั้ม สุขเสวตร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/20 ม.2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 1277/2552 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีส้ม-ดำ หมายเลขทะเบียน กรก-266 สมุทรสาคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน รธว-171 กทม. จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน ลทย-102 กทม.จำนวน 1 คัน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณแฟลตทหารเรือ ซ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน 22 ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ รถจยย.ตามหอพักและอพาร์ตเมนต์ต่างๆ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ในเขตพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี จึงได้หาทำการเบาะแสและเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจึงให้สายลับทำการล่อซื้อรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาไปขโมยมา ในราคา 4,000 บาท จากนั้นได้นัดรับรถจักรยานยนต์ที่บริเวณแฟลตทหารเรือ
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหามาส่งของตามนัด นายอั้มได้ขึ้นไปอยู่บนแฟลต เพื่อดูต้นทางว่ามีตำรวจหรือไม่ โดยมีนายกอล์ฟเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์มาส่งให้สายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มสังเกตการณ์และวางกำลังโดยรอบอาคารจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเอาไว้ได้พร้อมของกลาง ทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือในการอำนวยความสะดวกอีกด้วย
จากการสอบสวนนายกอล์ฟ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามหอพักและสถานที่ต่างๆ โดยใช้วิธีการหักคอรถ จะเลือกเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ และฟีโน่เท่านั้น โดยใช้เวลาในการก่อเหตุไม่เกิน 10 วินาที เมื่อได้รถมาก็จะนำไปส่งให้กับนายโอ้ ฟีโน่ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง โดยนายโอ้จะนำรถไปขายต่อให้กับลูกค้าในราคาคันละ 4,000 บาท ส่วนตนทั้ง 2 คนจะได้ส่วนแบ่งคนละ 500 บาท ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน เงินที่ได้มาก็จะนำไปเที่ยวเตร่ และซื้อยาบ้าเสพ ที่ผ่านมาตนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดท้องที่ สน.บางยี่เรือ มาแล้ว ส่วนนายอั้มก็เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเดียวกันในท้องที่ สน.เพชรเกษม ตนกับเพื่อนไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แต่เพิ่งจะไปสมัครงานในตำแหน่งพนักงานส่งเอกสารไว้และกำลังจะเริ่มงาน แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า สำหรับแก๊งลักรถจักรยานยนต์แก๊งนี้ยังมีสมาชิกที่หลบนีอีก 4-5 คน รวมถึงนายโอ้หัวหน้าแก๊งด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายจับไว้แล้ว และจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว สำหรับมาตรการการป้องกันเรื่องดังกล่าว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละพื้นที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กทม.เพื่อหาที่ล็อกล้อให้ประชาชนที่นำมารถมาจอดตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมาคนร้ายสามารถก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย เพราะเพียงแค่ใช้วิธีการหักคอรถก็นำรถไปได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ต่อมาวันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.สักกฉัฐ กิตติขจร ผบก.น.9 พ.ต.อ.วรนิตย์ สวนครามดี ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายอภิรักษ์ หรือรส เจริญสัตย์ อายุ 34 ปี 2.นายเด่นชาย เจริญสัตย์ อายุ 27 ปี และ 3.นายวันชัย หรือหน่อย กาสอนทอง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยจับกุมได้ที่ซอยวันดี 2 แขวงและเขตบางแค กทม.
พล.ต.ต.สักกฉัฐ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวและกวดขันเกี่ยวกับแก๊งลักรถจักรยานยนต์มาโดยตลอดจนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบนายเด่นชัยและนายอภิรักษ์ 2 พี่น้อง ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาด้วยท่าทางพิรุธ จึงขอตรวจค้นและทำการสอบสวนจนทราบว่าทั้ง 2 ได้ร่วมกับนายวันชัยก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็นำรถที่ขโมยมาไปก่อเหตุปล้นรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายในซอยกำนันแม้น 36 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ได้เงินสดไป จำนวน 700 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
“ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เคยติดคุกมาแล้วคนละไม่ต่ำกว่า 18-20 ครั้ง โดยนายเด่นชาย อายุ 27 ปี แต่ติดคุกมาแล้วถึง 22 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคดีร่วมกันลักทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ทั้งหมดรู้จักกันในเรือนจำ เมื่อออกจากคุกมาก็จะก่อเหตุลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อนำเงินที่ได้มาแบ่งกันไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งครั้งล่าสุดทั้ง 3 คน เพิ่งจะออกจากคุกมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะมาถูกจับกุมอีกครั้ง” พล.ต.ต.สักกฉัฐ กล่าว
จากการสอบสวนนายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนกับพวกรู้จักกันมา 22 ปีแล้ว ที่ก่อเหตุซ้ำหลายครั้งก็เพราะไม่มีงานทำ ต้องการนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ส่วนรอยสักที่เห็นมีเพื่อนที่อยู่ในเรือจำเป็นคนสักให้ ตนสักหมดทั้งตัวรวมถึงใบหน้า เหลือเพียงส่วนเดียวในร่างกายที่ยังไม่ได้สักคือบริเวณก้น ครั้งนี้หากเข้าไปอีกจะให้เพื่อนสักให้ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการสักจะแอบลักลอบนำเข้ามา และทำการสักเวลาเข้าเรือนนอน เมื่อสักแล้วตนจะต้องคอยหลบไม่ให้ผู้คุมเห็น โดยการเดินก้มหน้าเวลาเจอผู้คุม
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สักกฉัฐ ยังแถลงข่าวผลการจับกุมคดีต่างๆ ในเขตพื้นที่ บก.น.9 โดย สน.หนองค้างพลู ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชวลิต หรือพร หรือโก๋ จอมขวัญ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาลักรถจักรยานยนต์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ปษร-262 กทม. และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีแดงดำ ทะเบียน ปวร-251 กทม. โดยจับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยกล้วยไม้ ข้างปั๊มเอสโซ่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเอาไปขายและนำเงินมาเที่ยวเตร่
อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เทียนทะเล ร่วมกันจับกุมตัวนายสันติสุข ค้ำคูณ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหายจับศาลอาญาธนบุรี ที่677/2552 ลงวันที่ 16 ก.ค.52 ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่จ.963/2552 ลงวันที่ 27 ก.ค.52 ในข้อหาหลบหนีไประหว่างถูกคุมขังตามอำนาจของศาล โดยแหกที่คุมขังโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักรถจยย.และหลบหนีระหว่างถูกคุมขังในคดียาเสพติด เบื้องต้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล และประสาน สภ.ธัญบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
รายสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเดชา หรือแฮค เทพโคราช อายุ 23 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และนายไพศิษฐ์ หรืออั้น กิตติโยภาส อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 390 เม็ด จากการสอบสวสนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้องหามีอาวุธปืนไว้ในความครอครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษแก่นายเดชา และแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาบ้า ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป