“จุมพล” ลักช็อตเด่น! ขโมยซีนโชว์รายวัน ร่วมแถลงจับแก๊งไทยใหญ่ค้ายา 27 ล้าน ของกลาง 9 หมื่นเม็ด ใช้วิธีนำอัญมณี ของมีค่า แลกยาไปขายแล้วนำเงินที่ได้ไปไถ่อัญมณีคืนเพื่อใช้แลกยาเสพติดครั้งต่อไป ส่วนกำไรค้ายาจะใช้ซื้ออาวุธ เตรียมสู้รบกู้ชาติ อีกรายจับแก๊งปากี-ไนจีเรีย ค้าเฮโรอีนจากถิ่นพระจันทร์เสี้ยวทองคำ ขายทั่วไทย ของกลาง 15 ล้าน
วันนี้ (1 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กันสูตร ผบก.ปส.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอาชิง แซ่จาง อายุ 33 ปี นายไถเซิน คงคาบันดาลสุข อายุ 25 ปี นายอาคาง แซ่ลี้ อายุ 25 ปี นายชูรัตน์ อุภัยชีวะ อายุ 43 ปี นายชิต โกโก้ อายุ 47 ปี ชาวไทยใหญ่ และ นายผจญ ชุมแสง อายุ 47 ปี กลุ่มผู้ต้องหาแก๊งไทยใหญ่แม่สอด
โดยจับกุมได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 90,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท รถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ป-0942 กทม.และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-3 ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ภายในร้านกาแฟ ห้องโลตัส สาขาบางเขน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
พล.ต.อ.จุมพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมของกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่เป็นกองกำลังไทยใหญ่ ซึ่งกลุ่มนี้จะนำหยก อัญมณี ทับทิม และเครื่องประดับ ไปแลกยาเสพติดเพื่อนำไปจำหน่าย ก่อนจะนำเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดไปไถ่อัญมณีคืน เพื่อใช้แลกยาเสพติดในครั้งต่อไป ส่วนกำไรที่ได้จากการขายยาเพติดก็จะนำไปซื้อ เสบียง ยารักษาโรค และอาวุธเพื่อนำไปสู้รบกับกลุ่มผู้ที่มารุกราน และกลุ่มประเทศพม่า
พล.ต.อ.จุมพล กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะร่วมมือกับคนไทยขนยาเสพติดมาพักไว้ที่ กทม. เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อ จนกระทั่งสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วานนี้ (31 ก.ค.) พร้อมทั้งแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต กับนายชิต โกโก้ อีก 1 ข้อหา ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.อ.จุมพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมอีกราย นายอมาดิกวา เอ็นดูบีสิ ลาเซริอาน สัญชาติ ไนจีเรีย อายุ 23 ปี นายอานิเย จอน โอเวนซุ สัญชาติ ไนจีเรีย อายุ 28 ปี นายซูเบีย อาเมด อายุ 21 ปี นายอาเม็ด ซาอิด อายุ 22 ปี นายนาบิ มูฮัมมัด อายุ 23 ปี และ นายคาน คาลิด อายุ 24 ปี ทั้งหมดเป็นชาวปากีสถาน พร้อมของกลางเฮโรอีน น้ำหนักรวม 4.8 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ห้องพักเลขที่ 505 และ 611 โรงแรมรีเจนท์อินแอนด์อาพาร์ทเม้นท์ ถนนรามคำแหง ซอยรามคำแหง 22 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วานนี้ (31 ก.ค.)
พล.ต.อ.จุมพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพฤติกรรมของกลุ่มชาวแอฟริกันตะวันตก ที่ร่วมกับกลุ่มชาวปากีสถาน นำเฮโรอีนจากพื้นที่พระจันทร์เสี้ยวทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งพื้นที่ปลูกฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีการผลิตเฮโรอีนมากที่สุดเช่นกัน โดยเฮโรอีนจากพื้นที่ดังกล่าวจะถูกส่งขายตามภูมิภาคต่างๆ และจ้างคนไทยเป็นคนลำเลียงเฮโรอีน
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนทราบว่า กลุ่มคนผิวสีในประเทศไทยพยายามสั่งหรือนำเข้าเฮโรอีนจากประเทศปากีสถานเพื่อนำเข้ามายังประเทศไทย ก่อนที่จะกระจายไปอีกหลายประเทศ ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาใช้ห้องพักดังกล่าวเป็นแหล่งซุกซ่อนเฮโรอีน จึงวางแผนเข้าทำการจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว
พล.ต.อ.จุมพล กล่าวด้วยว่า สำหรับของกลางดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท แต่หากส่งออกไปขายยังต่างประเทศจะมุมูลค่ามากถึง 90 ล้านบาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป