ลิฟต์ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า หนีบคนงานเสียชีวิต เผย หลังเกิดเหตุ เจ้าของโรงงานไม่รีบแจ้ง พยายามแก้ไขช่วยชีวิตคนงานกันเอง สุดท้ายเห็นไม่ไหว แจ้งหน่วยกู้ภัย แต่สายเกินแก้เสียแล้ว
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ขณะที่ พ.ต.ต.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เทียม สวป.สน.ทุ่งมหาเมฆ กำลังออกตรวจตราในท้องที่ ได้รับแจ้งเหตุจากทางวิทยุสื่อสาร ว่า มีคนงานถูกลิฟต์หนีบได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน บริษัท เจ.เอ็ม.แอพพาเรล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 26/55 ถนนจันทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ หน่วยแพทย์กู้ชีพและรถอุปกรณ์ตัดถ่างของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 4 ชั้น เปิดเป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในรั้วรอบขอบชิดบนเนื้อที่ประมาณ 1.5 ไร่ จากการตรวจสอบภายในช่องลิฟต์ขนของ ของอาคารดังกล่าวพบร่าง นายสมส่วน เกิดสุข อายุ 52 ปี พนักงานส่งผ้า ของบริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด ถูกเพดานลิฟต์หนีบติดอยู่ระหว่างช่องลิฟต์กับพื้นทางเดิน โดยที่ร่างกายส่วนบนตั้งแต่ศีรษะถึงช่วงอกโผล่ขึ้นมาบนชั้นที่ 3 ส่วนลำตัวท่อนล่างห้อยอยู่ในห้องโดยสารลิฟต์ ซึ่งไหลเลื่อนลงไปอยู่ชั้นที่ 2 เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง นำร่าง นายสมส่วน ที่กำลังหมดสติออกมาทำการปั๊มหัวใจแล้วแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ เสียชีวิตในที่สุด
พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพนักงานที่เห็นเหตุการณ์ให้การ ก่อนเกิดเหตุ นายสมส่วน ผู้ตาย กับเพื่อนคนงานอีก 1 คน ได้นำผ้าม้วนจำนวนมาก มาส่งที่โรงงานดังกล่าว จากนั้นทั้งคู่ก็ขนผ้าใส่ลิฟต์ขึ้นมาจากชั้นที่ 1 โดย นายสมส่วน ยืนประคองผ้าเอาไว้ในลิฟต์ ส่วนเพื่อนอีกคน วิ่งขึ้นบันไดมารอหน้าลิฟต์บนชั้นที่ 2 ในระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังขนผ้าลงอยู่นั้น ลิฟต์ก็เกิดเลื่อนขึ้นไปบนชั้นที่ 3 เองโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะกระตุกเลื่อนกลับลงมาตรงชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว ทำให้ นายสมส่วน ซึ่งไม่ทันได้ระวังตัวพลาดถูกลิฟต์หนีบจนเสียชีวิตดังกล่าว
พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าวต่อว่า จากการสังเกตด้วยสายตา พบว่า สภาพของลิฟต์ตัวดังกล่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่สลิงยังใช้งานได้ตามปกติไม่ได้ขาดแต่อย่างใด คงจะต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาสำนักงานเขตสาทร เสียก่อน ว่า มีอุปกรณ์ชิ้นใดชำรุดหรือไม่ได้มาตรฐานบ้างหรือไม่ ซึ่งตอนนี้คงยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับใครได้แต่จะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายชาญพงศ์ ฟักฉิม เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทร กล่าวว่า สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้เปิดกิจการมานานกว่า 10 ปี มีพนักงานฝ่ายต่างๆ ทำงานอยู่ประมาณ 180 คน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขต ก็มาตรวจสอบลักษณะโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหา ที่สำคัญทางโรงงานก็เพิ่งจะขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการไปไม่ถึง 2 เดือน โดยขณะนี้ตนก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน
มีรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วทางผู้บริหารบริษัท ก็ยังไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบแต่อย่างใด กลับพยายามให้พนักงานช่วยเหลือกันเองก่อน เมื่อเห็นว่าเกินความสามารถแล้วจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจซึ่งกว่ารถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยจะนำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าทำการช่วยเหลือก็กินเวลานับชั่วโมง จน นายสมส่วน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในที่สุด
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ขณะที่ พ.ต.ต.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เทียม สวป.สน.ทุ่งมหาเมฆ กำลังออกตรวจตราในท้องที่ ได้รับแจ้งเหตุจากทางวิทยุสื่อสาร ว่า มีคนงานถูกลิฟต์หนีบได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน บริษัท เจ.เอ็ม.แอพพาเรล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 26/55 ถนนจันทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ หน่วยแพทย์กู้ชีพและรถอุปกรณ์ตัดถ่างของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 4 ชั้น เปิดเป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในรั้วรอบขอบชิดบนเนื้อที่ประมาณ 1.5 ไร่ จากการตรวจสอบภายในช่องลิฟต์ขนของ ของอาคารดังกล่าวพบร่าง นายสมส่วน เกิดสุข อายุ 52 ปี พนักงานส่งผ้า ของบริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด ถูกเพดานลิฟต์หนีบติดอยู่ระหว่างช่องลิฟต์กับพื้นทางเดิน โดยที่ร่างกายส่วนบนตั้งแต่ศีรษะถึงช่วงอกโผล่ขึ้นมาบนชั้นที่ 3 ส่วนลำตัวท่อนล่างห้อยอยู่ในห้องโดยสารลิฟต์ ซึ่งไหลเลื่อนลงไปอยู่ชั้นที่ 2 เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง นำร่าง นายสมส่วน ที่กำลังหมดสติออกมาทำการปั๊มหัวใจแล้วแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ เสียชีวิตในที่สุด
พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพนักงานที่เห็นเหตุการณ์ให้การ ก่อนเกิดเหตุ นายสมส่วน ผู้ตาย กับเพื่อนคนงานอีก 1 คน ได้นำผ้าม้วนจำนวนมาก มาส่งที่โรงงานดังกล่าว จากนั้นทั้งคู่ก็ขนผ้าใส่ลิฟต์ขึ้นมาจากชั้นที่ 1 โดย นายสมส่วน ยืนประคองผ้าเอาไว้ในลิฟต์ ส่วนเพื่อนอีกคน วิ่งขึ้นบันไดมารอหน้าลิฟต์บนชั้นที่ 2 ในระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังขนผ้าลงอยู่นั้น ลิฟต์ก็เกิดเลื่อนขึ้นไปบนชั้นที่ 3 เองโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะกระตุกเลื่อนกลับลงมาตรงชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว ทำให้ นายสมส่วน ซึ่งไม่ทันได้ระวังตัวพลาดถูกลิฟต์หนีบจนเสียชีวิตดังกล่าว
พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าวต่อว่า จากการสังเกตด้วยสายตา พบว่า สภาพของลิฟต์ตัวดังกล่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่สลิงยังใช้งานได้ตามปกติไม่ได้ขาดแต่อย่างใด คงจะต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาสำนักงานเขตสาทร เสียก่อน ว่า มีอุปกรณ์ชิ้นใดชำรุดหรือไม่ได้มาตรฐานบ้างหรือไม่ ซึ่งตอนนี้คงยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับใครได้แต่จะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายชาญพงศ์ ฟักฉิม เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทร กล่าวว่า สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้เปิดกิจการมานานกว่า 10 ปี มีพนักงานฝ่ายต่างๆ ทำงานอยู่ประมาณ 180 คน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขต ก็มาตรวจสอบลักษณะโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหา ที่สำคัญทางโรงงานก็เพิ่งจะขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการไปไม่ถึง 2 เดือน โดยขณะนี้ตนก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน
มีรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วทางผู้บริหารบริษัท ก็ยังไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบแต่อย่างใด กลับพยายามให้พนักงานช่วยเหลือกันเองก่อน เมื่อเห็นว่าเกินความสามารถแล้วจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจซึ่งกว่ารถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยจะนำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าทำการช่วยเหลือก็กินเวลานับชั่วโมง จน นายสมส่วน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในที่สุด
