ออกหมายจับเสี่ยรถหรูโกงพันล้าน-เผ่นหนีไปนอกแล้ว

ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์หรู เอส.อี.ซี.ซี. หลังพบทำปลอมบัญชีซื้อรถยนต์นับ 100 คัน ยักยอกเงินบริษัทกว่า 1,000 ล้าน


วันนี้ (25 ก.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนคดีทุจริตยักยอกทรัพย์บริษัท เอส.อี.ซี.ซี.ออโต้เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC ว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ อดีตประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี.ซี. เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 2134/2552 และนายกฤช เอกมงคลการ ผู้บริหารบริษัท แอปเปิล กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 2135/2552 หลังดีเอสไอสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตยักยอกทรัพย์ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท และยังพบด้วยว่าผู้ต้องหากระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีหรือเอกสารเพื่อลวงให้นิติบุคคลหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้นายสมพงษ์และนายกฤชได้หลบหนีออกไปนอกประเทศไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2551

สำหรับคดีนี้ดีเอสไอได้ขยายผลสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาบริษัท เอส.อี.ซี.ซี.ย้อนหลังไป 2 ปี หลังพบพฤติกรรมการยักยอกทรัพย์ ซึ่งไม่ได้เกิดเพียงปี 2551 เท่านั้น โดยพบว่ามีการจ่ายเงินผ่านเช็คของธนาคารพาณิชย์กว่า 10 ธนาคาร เป็นค่ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริงจำนวน 200 กว่าคัน และในปี 2550 มีการจ่ายเงินค่ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริง จำนวน 100 คัน ในส่วนของนางสาวนิภาพร คมกล้า อดีตผู้ช่วยกรรมการฝ่ายบัญชีและการเงิน SECC และนายสมชาย คุรุจิตโกสล ผู้ตรวจสอบบัญชีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษไว้ต่อดีเอสไอก่อนหน้านี้นั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน