จับหนุ่มเมืองตรังรับจ้างขนยาบ้าลงใต้

รวบหนุ่มขายเสื้อผ้าแถวรามฯ เงินไม่พอใช้ริเป็นเอเยนต์ส่งยาบ้า ขณะนั่งรถไฟไปสุราษฎร์ธานีเพื่อส่งลูกค้า แต่ถูก ตร.สืบทราบจับกุมได้ที่สถานีรถไฟบางบำหรุ-ตลิ่งชัน สารภาพทำมาเป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้าง 1 หมื่นบาท

วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สถานที่รถไฟหัวลำโพง พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.สุรพงศ์ ศิริภักดี ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รอง ผบก.รฟ.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายจักรี เกิดทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181/1 ถนนคลองภาษี ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลางยาบ้า 14,300 เม็ด กระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน 1 ใบ ตั๋วรถไฟชั้น 2 ขบวนด่วนพิเศษที่ 43 (กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี) ระบุเดินทางจากสถานีบางซื่อ 2-สุราษฎร์ธานี จำนวน 1 ใบ ตั๋วรถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 ตรัง-กรุงเทพฯ จำนวน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พล.ต.ท.ไถง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีชายวัยรุ่นลักลอบลำเลียงยาบ้าขึ้นรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี เพื่อลงไปจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.กันตพิชญ์ กฤตวงศ์วิมาน ผกก.2 บก.รฟ. จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 (สปรินเตอร์) กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี

จนกระทั่งรถกำลังวิ่งระหว่างสถานีรถไฟบางบำหรุ-ตลิ่งชัน แขวงและเขตตลิ่งชัน ก็พบผู้ต้องหาซึ่งมีลักษณะตรงกับที่สายแจ้งไว้นั่งอยู่ในขบวนรถดังกล่าวจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 14,000 เม็ด ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย และอีก 300 เม็ดอยู่ในกล่องขนม จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบปากคำ นายจักรีให้การว่า ปกติตนจะขายเสื้อผ้าอยู่ย่านรามคำแหง แต่เงินไม่พอใช้ก็เลยมารับจ้างขนยาบ้าลงไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ลองขนยาบ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้นขนไปแค่ 6,000 เม็ด ได้ค่าจ้างขนมา 10,000 บาท ครั้งนี้เลยลองรับจ้างขนอีกครั้งหนึ่ง

โดยตนนั่งรถทัวร์มาจากบ้านเกิดใน อ.กันตัง จ.ตรัง ในวันที่ 22 ก.ค. มาถึงสายใต้ใหม่ช่วง 06.00 น.เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) จากนั้นก็นั่งรถต่อมาที่สถานีรถไฟบางซื่อเพื่อมารับยาบ้าจากนายไก่ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ที่ให้คนนำมาวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็ตีตั๋วขึ้นรถด่วนสปรินเตอร์เพื่อขนยาบ้ากลับไปให้ลูกค้าที่ จ.สุราษฎร์ทันที แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ด้าน พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า สำหรับรถด่วนสปรินเตอร์นี้จะไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำอยู่ในขบวน ทำให้กลุ่มผู้ค้ายาบ้าลักลอบขนยากับผ่านรถไฟขบวนดังกล่าวได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มกำลังโดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการ เพื่อคอยตรวจตราบนขบวนรถด่วนต่อไป ส่วนนายจักรี ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป