เชียงราย - “ผู้ว่าฯ-ผบก.เชียงราย” นำทีมโชว์ผลงานจับยาบ้านับแสนเม็ด จากเครือข่ายชาวเขาเผ่าม้งที่อาศัยอยู่ใน 3 พื้นที่ ทั้งเชียงของ-พบพระ-เขาค้อ เตรียมลักลอบขนผ่านไทยเข้าลาว ก่อนส่งเข้าตลอดอีกทอดหนึ่ง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (24 ก.ค.) นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ,พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย และ พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบไปด้วย นายนิคม ขวัญไกรคีรี อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 13 ต.เวียง อ.เชียงของ นายวิสิทธิ์ แซ่ลี อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 1 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และนายศรรตวรรษ อาชาวัฒนกุล อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 161 หมู่ 1 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด บรรจุในห่อพลาสติกแน่นจำนวน 16 ห่อ รถยนต์ของกลางจำนวน 2 คัน เป็นกระบะสีเขียวยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บน-3115 เพชรบูรณ์ และกระบะยสีบรอนซ์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บต 3379 พิจิตร และจักรยานยนต์อีก 1 คัน ยี่ห้อฮอนด้าสีขาว-แดง หมายเลขทะเบียน คงฉ 916 เชียงราย
โดยการจับกุมมีขึ้นเมื่อตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าจากชายแดนไทย-พม่า บนเส้นทางหมู่บ้านม้งเก้าหลัง ต.เทอดไทย ไปยังหมู่บ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย จึงนำกำลังไปสกัดอยู่บริเวณหมู่บ้านหินแตกในติดกับถนนสายดังกล่าว ต่อมาพบนายนิคมขับขี่จักรยานยนต์ของกลางไปถึงจุดสกัด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ ต่อมามีรถยนต์โตโยต้าสีเขียวขับตามมาโดยมีนายวิสิทธิ์เป็นคนขับจึงสกัดเอาไว้อีกค
ตรวจสอบที่กระบะหลังรถพบกระเป๋าเป้าสะพายจำนวน 2 กระเป๋า ภายในซุกซ่อนยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ดดังกล่าว จึงได้จับกุมตัวเอาไว้สอบถามก็สารภาพว่ามาด้วยกัน รวมทั้งให้การซัดทอดว่าจะนำยาบ้าไปส่งให้กับนายศตวรรษที่โรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเทอดไทย เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวนายศตวรรษได้พร้อมรถยนต์ของกลางสีบรอนด์ดังกล่าว
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนส่งยาบ้ากันเป็นทอดๆ โดยสองคนแรกจะนำยาบ้าไปส่งให้กับนายศตวรรษ และให้นายศตวรรษนำยาบ้าไปส่งให้กับชายอีกคนชื่อนายไสว ลีปรีชา ซึ่งเป็นเพื่อนกันและพักอยู่ที่โรงแรมบ้านเพื่อน อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว จากนั้นนายไสว จะรับยาบ้าไปส่งให้กับนายโก๊ะ ไม่ทราบนามสกุล ที่อยู่ในฝั่งแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตามไปจับกุมตัวนายไสว ที่ยังอยู่ในฝั่งไทย แต่พบว่าได้ไหวตัวทันและหลบหนีไปแล้ว จึงแจ้งข้อกล่าวหา 3 คนแรกว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นนำตัวส่ง สภ.แม่ฟ้าหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสุเมธกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นผลงานของตำรวจเชียงรายที่สามารถสกัดจับยาบ้าได้เป็นจำนวนมากไม่เช่นนั้นคงจะทะลักสู่ผู้หลงผิดนำไปเสพต่อไป อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตและน่าแปลกใจว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ต่างให้การว่าจะนำยาบ้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านผ่าน อ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อนำเข้าไปส่งที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยมีบ่อยครั้งนัก เพราะส่วนใหญ่ขบวนการค้ายาเสพติดนำเข้าสู่ชั้นในของประเทศเป็นหลักมากกว่าการนำออกไปนอกประเทศดังนั้นคงจะต้องมีการหาข่าวขยายผลในเรื่องนี้กันต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับพื้นที่ที่จับกุมดังกล่าวอยู่ใกล้กับหมู่บ้านม้งเก้าหลัง ซึ่งเป็นจุดที่มีเอกชนไทย คือ บริษัท สระบุรีถ่านหิน จำกัด ได้ขออนุญาตจากกรมศุลกากรให้เป็นจุดนำเข้าชั่วคราว เนื่องจากไปได้สัมปทานขุดถ่านหินลิกไนต์คุณภาพดีที่เมืองก๊ก จ.เมืองสาด ในเขตประเทศพม่าตรงกันข้ามหมู่บ้านม้งเก้าหลัง
