“จุมพล มั่นหมาย” แคนดิเดต ผบ.ตร.โชว์รายวัน สั่งเข้มงวดกวดขันร้านอาหาร สถานบริการที่ใช้หญิงสาวแต่งตัวล่อแหลมนั่งเชียร์ลูกค้าหน้าร้านด้าน “วรพงษ์” พยักหน้าขานรับไปดำเนินการ ไฟเขียวหากพบผู้ประกอบการรายใดเข้าข่ายทำผิดกฎหมายจับกุมได้ทันที
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการมายัง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้นายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนนครบาล และศูนย์ปราบการการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี เข้มงวดกวดขันร้านอาหาร สถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่ที่จัดให้มีหญิงสาวแต่งกายวาบหวิวไม่เหมาะสมมานั่งเชียร์ลูกค้าบริเวณหน้าร้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเป็นที่อุจาดตาต่อผู้พบเห็น
สืบเนื่องจากต้นเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.จุมพล ประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางการปราบปรามสื่อไม่เหมาะสม ครั้งที่ 1/2552 กำหนดแนวทางการทำงานวางกรอบปฏิบัติงานในทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยที่ประชุมมีความเห็นให้แต่ละหน่วยจัดทำแผนการปราบปรามสื่อที่ไม่เหมาะสมของแต่ละหน่วยเสนอต่อคณะอนุกรรมการสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ประกอบเป็นแนวทางพิจารณาและจัดทำร่างแผนการปราบปรามสื่อไม่เหมาะสมนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป
พร้อมยกกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.น. โดย พล.ต.อ.จุมพล ให้ตรวจสอบดำเนินการตามหน้าที่ร้านอาหารและสถานบริการที่มีหญิงสาวแต่งกายไม่เหมาะสมบริเวณหน้าร้าน 2 แห่ง คือ ร้านอาหารไม่ทราบชื่อบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม พื้นที่ สน.หลักสอง และร้านอาหารไม่ทราบชื่อจำนวนหลายร้านบนถนนลาดพร้าว ช่วงบริเวณห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีลาดพร้าวใน บก.น.4 ว่า การที่มีหญิงสาวแต่งกายไม่เหมาะสมนั่งบริเวณหน้าร้านเป็นวิธีการที่ผิดระเบียบปฏิบัติอนุญาตประกอบการหรือไม่ และให้ บช.น.ศึกษาอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่รองรับตามความเหมาะสมด้วย
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับคำสั่งดังกล่าวได้สั่งการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบในทันที พร้อมตักเตือนสถานบริการที่ดำเนินการลักษณะที่ไม่เหมาะสมให้อยู่ในกรอบระเบียบอย่างเคร่งครัด และมอบหมายผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้านกฎหมายว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ และสามารถเอาผิดกับสถานบริการที่กระทำการดังกล่าวได้หรือไม่อย่างไร หากพบเข้าข่ายผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการจับกุมทันที และในทางปฏิบัติขณะนี้ได้สั่งการให้ท้องที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว และกวดขันให้ดูแลให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงนี้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ได้แถลงข่าวโชว์ผลงานต่อเนื่อง โดยวานนี้ (22 ก.ค.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน และไต้หวัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ กับ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. และได้ร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศปจร.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ถึงการเปิดอบรมการฝึกสืบสวนปราบปรามการโจรกรรมรถ กับตำรวจชั้นสัญญาบัตรและประทวน ในฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายจราจรของทุกกองบังคับการ จำนวน 720 นาย ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนถึงฤดูกาลโยกย้ายและเกษียณอายุราชการของระดับบิ๊กในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ถือเป็นแคนดิเดตชิงดำที่จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือน ก.ย.นี้
ความเป็นไปได้ต่ออายุ “ธานี” คุมคดี “สนธิ”
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการมายัง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้นายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนนครบาล และศูนย์ปราบการการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี เข้มงวดกวดขันร้านอาหาร สถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่ที่จัดให้มีหญิงสาวแต่งกายวาบหวิวไม่เหมาะสมมานั่งเชียร์ลูกค้าบริเวณหน้าร้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเป็นที่อุจาดตาต่อผู้พบเห็น
สืบเนื่องจากต้นเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.จุมพล ประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางการปราบปรามสื่อไม่เหมาะสม ครั้งที่ 1/2552 กำหนดแนวทางการทำงานวางกรอบปฏิบัติงานในทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยที่ประชุมมีความเห็นให้แต่ละหน่วยจัดทำแผนการปราบปรามสื่อที่ไม่เหมาะสมของแต่ละหน่วยเสนอต่อคณะอนุกรรมการสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ประกอบเป็นแนวทางพิจารณาและจัดทำร่างแผนการปราบปรามสื่อไม่เหมาะสมนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป
พร้อมยกกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.น. โดย พล.ต.อ.จุมพล ให้ตรวจสอบดำเนินการตามหน้าที่ร้านอาหารและสถานบริการที่มีหญิงสาวแต่งกายไม่เหมาะสมบริเวณหน้าร้าน 2 แห่ง คือ ร้านอาหารไม่ทราบชื่อบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม พื้นที่ สน.หลักสอง และร้านอาหารไม่ทราบชื่อจำนวนหลายร้านบนถนนลาดพร้าว ช่วงบริเวณห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีลาดพร้าวใน บก.น.4 ว่า การที่มีหญิงสาวแต่งกายไม่เหมาะสมนั่งบริเวณหน้าร้านเป็นวิธีการที่ผิดระเบียบปฏิบัติอนุญาตประกอบการหรือไม่ และให้ บช.น.ศึกษาอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่รองรับตามความเหมาะสมด้วย
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับคำสั่งดังกล่าวได้สั่งการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบในทันที พร้อมตักเตือนสถานบริการที่ดำเนินการลักษณะที่ไม่เหมาะสมให้อยู่ในกรอบระเบียบอย่างเคร่งครัด และมอบหมายผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้านกฎหมายว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ และสามารถเอาผิดกับสถานบริการที่กระทำการดังกล่าวได้หรือไม่อย่างไร หากพบเข้าข่ายผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการจับกุมทันที และในทางปฏิบัติขณะนี้ได้สั่งการให้ท้องที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว และกวดขันให้ดูแลให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงนี้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ได้แถลงข่าวโชว์ผลงานต่อเนื่อง โดยวานนี้ (22 ก.ค.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน และไต้หวัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ กับ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. และได้ร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศปจร.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ถึงการเปิดอบรมการฝึกสืบสวนปราบปรามการโจรกรรมรถ กับตำรวจชั้นสัญญาบัตรและประทวน ในฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายจราจรของทุกกองบังคับการ จำนวน 720 นาย ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนถึงฤดูกาลโยกย้ายและเกษียณอายุราชการของระดับบิ๊กในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ถือเป็นแคนดิเดตชิงดำที่จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือน ก.ย.นี้
ความเป็นไปได้ต่ออายุ “ธานี” คุมคดี “สนธิ”