รวบ 2 โจรลวงสาวพริตตี้รับงานในโรงแรม จับมัดบังคับสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนเอาไปขังในห้องน้ำชิงทรัพย์สินและกุญแจรถยนต์หนี อ้างทำครั้งแรกหวังชิงทรัพย์ แต่เห็นเหยื่อสวยจึงฉวยโอกาส ตำรวจตั้งข้อหาเพียงชิงทรัพย์
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายฐปนัช หรือ “ทัด” ปลูกทรัพย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267/1 หมู่ 1 ต.บ้านบุ่ง อ.เมือง จ.พิจิตร และ นายชาตสุเกติ์ หรือ “โอม” สุยะนันทน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/15 หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเชือกมัดกล่องไปรษณีย์ คัตเตอร์สีชมพู 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือโนเกีย 4 เครื่อง และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌป 3969 กทม.โดยจับกุม นายธปนัช ได้ที่บริเวณหน้าร้านคิวบาร์ อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 3 และ 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา และจับกุม นายชาตสุเกติ์ ได้ที่ สินศิริแมนชั่น 1 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
พ.ต.อ.สมประสงค์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมพีบี ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท ว่ามีแขกของโรงแรมถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบ น.ส.กบ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้เสียหายอยู่ในสภาพถูกมัดมือ-มัดเท้า มีอาการหวาดผวาและได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้า และตามร่างกายหลายแห่ง จึงนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบปากคำ น.ส.กบ ให้การว่า ตนทำงานเป็นพริตตี้โชว์ตัวตามงานต่างๆ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปงานโชว์ตัวงานหนึ่ง และได้รู้จักกับ นายชาตสุเกติ์ ที่งานดังกล่าว โดย นายชาตสุเกติ์ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ เนื่องจากจะหางานให้ จนกระทั่งวานนี้ (17 ก.ค.) นายชาตสุเกติ์ ก็ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า มีแขกผู้ใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จะให้ตนมาทำหน้าที่ต้อนรับ และดูแลแขกโรงแรมดังกล่าว เมื่อมาถึงตนก็เริ่มเอะใจ ว่า เหตุใดต้องนัดที่ห้องในโรงแรมดังกล่าว และเมื่อเข้าไปภายในห้องหมายเลข 17 ที่นัดหมายก็พบ นายฐปนัช นั่งรออยู่
“แต่แล้วจู่ๆ ทั้ง 2 คนก็จับฉันมัดมือ แล้ว นายฐปนัช ก็บังคับให้ฉันช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนจะจับฉันมัดเท้าแล้วจับฉันไปขังไว้ในห้องน้ำ จากนั้นก็ขโมยเอาทรัพย์สินและกุญแจรถยนต์หนีไป ตนไม่รู้จะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร จนกระทั่งมีพนักงานเข้ามาทำความสะอาด เนื่องจากทั้ง 2 คนไปเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม ฉันจึงขอให้พนักงานช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ” น.ส.กบ กล่าว
พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุได้สอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและวิทยุให้สายตรวจสกัดจับรถของผู้เสียหาย จนกระทั่งไปพบรถคันดังกล่าวจอดติดไฟแดงอยู่ที่หน้าร้านคิวบาร์ มี นายฐปนัช เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวมาสอบสวน ก่อนขยายผลจับกุม นายชาตสุเกติ์ ได้ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว
จากการสอบสวน นายฐปนัช ให้การรับสารภาพว่า ตน และนายชาตสุเกติ์ รู้จักกับผู้เสียหายที่งานอีเวนต์งานหนึ่ง และเพิ่งจะก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะต้องการทรัพย์สิน แต่เห็นว่าผู้เสียหายรูปร่างหน้าตาดี จึงให้ช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนที่จะเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ส่วนรถยนต์ของผู้เสียหายก็คิดว่าจะเอาไปขายเพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ ก่อนควบคุมตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายฐปนัช หรือ “ทัด” ปลูกทรัพย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267/1 หมู่ 1 ต.บ้านบุ่ง อ.เมือง จ.พิจิตร และ นายชาตสุเกติ์ หรือ “โอม” สุยะนันทน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/15 หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเชือกมัดกล่องไปรษณีย์ คัตเตอร์สีชมพู 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือโนเกีย 4 เครื่อง และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌป 3969 กทม.โดยจับกุม นายธปนัช ได้ที่บริเวณหน้าร้านคิวบาร์ อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 3 และ 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา และจับกุม นายชาตสุเกติ์ ได้ที่ สินศิริแมนชั่น 1 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
พ.ต.อ.สมประสงค์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมพีบี ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท ว่ามีแขกของโรงแรมถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบ น.ส.กบ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้เสียหายอยู่ในสภาพถูกมัดมือ-มัดเท้า มีอาการหวาดผวาและได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้า และตามร่างกายหลายแห่ง จึงนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบปากคำ น.ส.กบ ให้การว่า ตนทำงานเป็นพริตตี้โชว์ตัวตามงานต่างๆ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปงานโชว์ตัวงานหนึ่ง และได้รู้จักกับ นายชาตสุเกติ์ ที่งานดังกล่าว โดย นายชาตสุเกติ์ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ เนื่องจากจะหางานให้ จนกระทั่งวานนี้ (17 ก.ค.) นายชาตสุเกติ์ ก็ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า มีแขกผู้ใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จะให้ตนมาทำหน้าที่ต้อนรับ และดูแลแขกโรงแรมดังกล่าว เมื่อมาถึงตนก็เริ่มเอะใจ ว่า เหตุใดต้องนัดที่ห้องในโรงแรมดังกล่าว และเมื่อเข้าไปภายในห้องหมายเลข 17 ที่นัดหมายก็พบ นายฐปนัช นั่งรออยู่
“แต่แล้วจู่ๆ ทั้ง 2 คนก็จับฉันมัดมือ แล้ว นายฐปนัช ก็บังคับให้ฉันช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนจะจับฉันมัดเท้าแล้วจับฉันไปขังไว้ในห้องน้ำ จากนั้นก็ขโมยเอาทรัพย์สินและกุญแจรถยนต์หนีไป ตนไม่รู้จะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร จนกระทั่งมีพนักงานเข้ามาทำความสะอาด เนื่องจากทั้ง 2 คนไปเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม ฉันจึงขอให้พนักงานช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ” น.ส.กบ กล่าว
พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุได้สอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและวิทยุให้สายตรวจสกัดจับรถของผู้เสียหาย จนกระทั่งไปพบรถคันดังกล่าวจอดติดไฟแดงอยู่ที่หน้าร้านคิวบาร์ มี นายฐปนัช เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวมาสอบสวน ก่อนขยายผลจับกุม นายชาตสุเกติ์ ได้ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว
จากการสอบสวน นายฐปนัช ให้การรับสารภาพว่า ตน และนายชาตสุเกติ์ รู้จักกับผู้เสียหายที่งานอีเวนต์งานหนึ่ง และเพิ่งจะก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะต้องการทรัพย์สิน แต่เห็นว่าผู้เสียหายรูปร่างหน้าตาดี จึงให้ช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนที่จะเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ส่วนรถยนต์ของผู้เสียหายก็คิดว่าจะเอาไปขายเพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ ก่อนควบคุมตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป