“วุฒิ พัวเวส” เปิดใจแจงสีเหลือง-สีแดง ออกมาเรียกร้องทางสังคมถือเป็นการก่อการดี ส่วนผลเป็นเช่นไรอีกเรื่อง ยันทำงานตามหน้าที่เป็นหลัก ส่วนพันธมิตรฯ ขอเปลี่ยนข้อกล่าวหา ถือเป็นตำราที่ต้องศึกษา ฝากขอโทษ “มาร์ค” ทำให้กังวลเหตุขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ยันไม่มีใครมากดดัน
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดสนามบิน กล่าวถึงกรณีขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าไม่เหมาะสม ว่า ก่อนขึ้นเวที ทนายพันธมิตรฯ ได้มาพบตน และชวนขึ้นเวที เพื่อชี้แจง เนื่องจากประชาชนมีความเห็นต่าง และไม่เข้าใจการทำงานตำรวจ จึงตัดสินใจขึ้นไปพูดด้วยตนเอง ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงผู้ชุมนุมว่าเป็น “ผู้ก่อการดี” นั้น ที่ผ่านมา การทำงานของตน มองว่า ผู้ที่ออกมาเรียกร้องทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ทั้งเหลือง หรือแดง เห็นว่า เป็นการก่อการดี ส่วนผลการกระทำจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อมารับผิดชอบในการทำคดีก็ต้องสอบสวนไปตามพยานหลักฐาน ถึงแม้จะรู้สึกอย่างไรก็ต้องทำงานตามหน้าที่เป็นหลัก เพียงต้องการสื่อความจริงใจในการทำงาน ซึ่งอาจเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะตอนพูดก็ประหม่าตื่นเต้น
ส่วนจะส่งผลถึงการทำคดี หรือการเปลี่ยนข้อกล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า ก่อนเที่ยงที่ผ่านมาก็ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งหมด พิจารณาเรื่องนี้ในเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากผู้ต้องหายื่นเรื่องไม่เห็นชอบในการทำคดีของพนักงานสืบสวนสอบสวน ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่เฉพาะตนพิจารณาต้องเป็นความเห็นจากคณะกรรมการที่ตั้งมาพิจารณาร่วมกัน ที่ผ่านมา ได้ออกหมายเรียกครั้งแรกไปแล้ว ถ้าต่อไปก็ต้องออกหมายเรียกอีก หากไม่มาก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยการขอหมายจับจากศาล ส่วนจะเปลี่ยนข้อกล่าวหาหรือไม่ คณะกรรมการต้องพิจารณาร่วมกันต้องทำตามกฎหมายอย่างยุติธรรม เพราะปกติที่ผ่านมายังไม่เคยมีกรณีที่ผู้ถูกตั้งข้อหาขอเปลี่ยนข้อกล่าวหา กรณีนี้ก็เหมือนตำราที่ต้องศึกษา
ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวว่า กังวลกรณีที่ตนไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ นั้น พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า ก็กราบขอโทษนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ที่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากตนก็เป็นข้าราชการ แต่ยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาไม่มีผู้บังคับบัญชามากดดัน แต่ที่ผ่านมา หากการพูดของตนพิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำให้คนอื่นเข้าใจได้ คิดว่าต่อไปนี้ก็จะตั้งโฆษกคณะทำงานขึ้นมาพูดแทน