จนท.การรถไฟฯ เข้าแจกเอกสารบอกเลิกสัญญาผู้เช่าพื้นที่ทำกินในจตุจักร ขณะที่ผู้บริหาร “เจริญพลาซ่า” ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แจงที่ผ่านมาต่อสัญญาเช่ากับการรถไฟฯไม่มีปัญหา แต่ล่าสุดขอต่อสัญญาอีก การรถไฟฯก็โอเค เมื่อนำเงินไปจ่ายค่าเช่ากลับบอกยกเลิกสัญญาแล้ว ด้านทนายเตรียมแจ้งความข้อหาบุกรุก หมิ่นประมาท และจะเดินหน้าฟ้องร้องต่อไป
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กว่า 20 คน พร้อมกำลังตำรวจจาก บก.ตปพ.และ สน.นพวงศ์ กว่า 10 นาย เดินทางมาภายในศูนย์การค้าจตุจักรพลาซ่า แขวงและเขตบางซื่อ เพื่อแจกจ่ายเอกสารการบอกยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ภายในจตุจักร พลาซ่า กับบริษัท เจริญพลาซ่า จำกัด ให้กับกลุ่มผู้ค้าภายในโซน A-E
โดยภายในเอกสารมีข้อความ ระบุว่า ต้องการให้กลุ่มผู้ค้าย้ายข้าวของจากพื้นที่ เนื่องจากทางการรถไฟฯได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัท เจริญพลาซ่า แล้ว และจะมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาครอบครอง หากผู้ค้ารายใดต้องการเช่าพื้นที่ขายของต่อก็ให้เซ็นหนังสือลงนามพร้อมกับหลักฐานการจ่ายค่าเช่า แล้วส่งคืนภายในวันที่ 20 ก.ค.2552 ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้กลุ่มผู้ค้าต่างพากันแตกตื่น ตระหนกตกใจ และล้อมวงวิพากษ์วิจารณ์กัน
ด้าน นายทัศนัย วันคง กรรมการผู้บริหารบริษัท เจริญพลาซ่า กล่าวว่า บริษัทของตนได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี โดยแบ่งทำสัญญา 1 ปีแรก 1 ครั้ง และครั้งละ 3 ปี อีก 3 ครั้ง โดยสัญญา 1 ปีแรก ทางบริษัทก็ได้เข้ามาบูรณะปรับปรุงก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นพื้นที่เช่าขายของ จากนั้นทางการรถไฟฯ ก็ได้ให้บริษัทไปทำสัญญาเช่าระยะเวลาครั้งละ 3 ปี อีก 3 ครั้ง โดยการทำสัญญาเช่า 2 ครั้งแรก ก็ไม่มีปัญหาอะไร
นายทัศนัย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งใกล้หมดสัญญาเช่าในครั้งที่ 2 คือ เมื่อเดือน ต.ค.2551 ทางบริษัทก็ได้ไปทำเรื่องต่อสัญญา และจะขอเช่าพื้นที่เพิ่มไปเป็นระยะเวลา 30 ปี ทางการรถไฟฯ ก็ตอบตกลง และทำหนังสือตอบกลับมา และมีเงื่อนไขต่างๆ พร้อมกับให้ตอบกลับไปยังการรถไฟฯ ภายใน 15 วัน ซึ่งระหว่างที่รออยู่นั้น ทางการถไฟฯ ก็มีหนังสือแจ้งมาที่บริษัทว่า ให้ไปต่อสัญญาเช่าอีก 3 ปี สุดท้ายทางบริษัทจึงได้นำเงินไปชำระสัญญาเช่าจำนวน 3 ปี ตามที่มีหนังสือแจ้งมา แต่ทางการรถไฟฯ กลับไม่รับ พร้อมกับแจ้งมาว่าได้ยกเลิกสัญญาแล้ว
นายทัศนัย กล่าวต่อไปว่า จากนั้นทางบริษัทจึงขอทำสัญญาเช่า 30 ปี พร้อมกับนำเงินจำนวน 140,497,370 บาท ซึ่งเป็นเงินค่าเช่าพื้นที่ ไปวางแจ้งชำระกับสำนักงานวางทรัพย์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทางการรถไฟฯทราบเรื่อง ก็แสดงท่าทีไม่พอใจ เนื่องจากไม่ต้องการให้เช่า 30 ปี แต่จะให้ต่อสัญญาเช่าอีกแค่ 3 ปี เท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อทางบริษัทจะทำสัญญาเช่าจำนวน 3 ปี ทางการรถไฟฯก็ปฏิเสธ พอจะทำสัญญาเช่าเวลา 30 ปี แทน ก็กลับปฏิเสธอีก เหมือนกับต้องการเปลี่ยนบริษัทที่เข้ามาเช่าพื้นที่แห่งนี้
ด้าน นายสุเมะ สอนสุทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะเป็นตัวแทนบริษัท เจริญพลาซ่า เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางซื่อ ในข้อหาบุกรุก และหมิ่นประมาท เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดระยะเลิกเช่า แต่ทางการรถไฟฯ กลับยกเลิกสัญญา และเข้ามาแจกจ่ายเอกสารเพื่อให้กลุ่มผู้ค้า เชื่อว่า ได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ โดยมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายและหนังสือสัญญาพร้อมกับเอกสารการวางทรัพย์ไปประกอบ
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กว่า 20 คน พร้อมกำลังตำรวจจาก บก.ตปพ.และ สน.นพวงศ์ กว่า 10 นาย เดินทางมาภายในศูนย์การค้าจตุจักรพลาซ่า แขวงและเขตบางซื่อ เพื่อแจกจ่ายเอกสารการบอกยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ภายในจตุจักร พลาซ่า กับบริษัท เจริญพลาซ่า จำกัด ให้กับกลุ่มผู้ค้าภายในโซน A-E
โดยภายในเอกสารมีข้อความ ระบุว่า ต้องการให้กลุ่มผู้ค้าย้ายข้าวของจากพื้นที่ เนื่องจากทางการรถไฟฯได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัท เจริญพลาซ่า แล้ว และจะมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาครอบครอง หากผู้ค้ารายใดต้องการเช่าพื้นที่ขายของต่อก็ให้เซ็นหนังสือลงนามพร้อมกับหลักฐานการจ่ายค่าเช่า แล้วส่งคืนภายในวันที่ 20 ก.ค.2552 ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้กลุ่มผู้ค้าต่างพากันแตกตื่น ตระหนกตกใจ และล้อมวงวิพากษ์วิจารณ์กัน
ด้าน นายทัศนัย วันคง กรรมการผู้บริหารบริษัท เจริญพลาซ่า กล่าวว่า บริษัทของตนได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี โดยแบ่งทำสัญญา 1 ปีแรก 1 ครั้ง และครั้งละ 3 ปี อีก 3 ครั้ง โดยสัญญา 1 ปีแรก ทางบริษัทก็ได้เข้ามาบูรณะปรับปรุงก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นพื้นที่เช่าขายของ จากนั้นทางการรถไฟฯ ก็ได้ให้บริษัทไปทำสัญญาเช่าระยะเวลาครั้งละ 3 ปี อีก 3 ครั้ง โดยการทำสัญญาเช่า 2 ครั้งแรก ก็ไม่มีปัญหาอะไร
นายทัศนัย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งใกล้หมดสัญญาเช่าในครั้งที่ 2 คือ เมื่อเดือน ต.ค.2551 ทางบริษัทก็ได้ไปทำเรื่องต่อสัญญา และจะขอเช่าพื้นที่เพิ่มไปเป็นระยะเวลา 30 ปี ทางการรถไฟฯ ก็ตอบตกลง และทำหนังสือตอบกลับมา และมีเงื่อนไขต่างๆ พร้อมกับให้ตอบกลับไปยังการรถไฟฯ ภายใน 15 วัน ซึ่งระหว่างที่รออยู่นั้น ทางการถไฟฯ ก็มีหนังสือแจ้งมาที่บริษัทว่า ให้ไปต่อสัญญาเช่าอีก 3 ปี สุดท้ายทางบริษัทจึงได้นำเงินไปชำระสัญญาเช่าจำนวน 3 ปี ตามที่มีหนังสือแจ้งมา แต่ทางการรถไฟฯ กลับไม่รับ พร้อมกับแจ้งมาว่าได้ยกเลิกสัญญาแล้ว
นายทัศนัย กล่าวต่อไปว่า จากนั้นทางบริษัทจึงขอทำสัญญาเช่า 30 ปี พร้อมกับนำเงินจำนวน 140,497,370 บาท ซึ่งเป็นเงินค่าเช่าพื้นที่ ไปวางแจ้งชำระกับสำนักงานวางทรัพย์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทางการรถไฟฯทราบเรื่อง ก็แสดงท่าทีไม่พอใจ เนื่องจากไม่ต้องการให้เช่า 30 ปี แต่จะให้ต่อสัญญาเช่าอีกแค่ 3 ปี เท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อทางบริษัทจะทำสัญญาเช่าจำนวน 3 ปี ทางการรถไฟฯก็ปฏิเสธ พอจะทำสัญญาเช่าเวลา 30 ปี แทน ก็กลับปฏิเสธอีก เหมือนกับต้องการเปลี่ยนบริษัทที่เข้ามาเช่าพื้นที่แห่งนี้
ด้าน นายสุเมะ สอนสุทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะเป็นตัวแทนบริษัท เจริญพลาซ่า เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางซื่อ ในข้อหาบุกรุก และหมิ่นประมาท เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดระยะเลิกเช่า แต่ทางการรถไฟฯ กลับยกเลิกสัญญา และเข้ามาแจกจ่ายเอกสารเพื่อให้กลุ่มผู้ค้า เชื่อว่า ได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ โดยมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายและหนังสือสัญญาพร้อมกับเอกสารการวางทรัพย์ไปประกอบ