ไกล่เกลี่ย “โกโก้” อดีตผู้จัดการ ฟ้อง “มาริโอ้-เอ ศุภชัย” ส่อเค้าจูบปาก หลังตกลงกันได้แล้ว 1 คดี ศาลนัดเจรจาอีกครั้ง 28 ก.ค.นี้
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องไกล่เกลี่ย 104 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อไกล่เกลี่ยคดีที่ นายนิรุณ หรือ โกโก้ ลิ้มสมวงศ์ อาชีพผู้จัดการส่วนตัวนักแสดง เป็นโจทก์ฟ้อง นายมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดัง เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งต่อมา นายมาริโอ้ ได้ฟ้องแย้ง นายนิรุณ ในคดีเดียวกัน เรียกค่าเสียหายจำนวน 4,100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และในคดีที่ นายนิรุณ ฟ้อง นายมาริโอ้ และ นายศุภชัย หรือ เอ ศรีวิจิตติ์ ผู้จัดการส่วนตัวของ มาริโอ้ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยที่ มาริโอ้ ฟ้องแย้งในคดีนี้เรียกค่าเสียหายจำนวน 980,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยวันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายต่างมาศาล ใช้เวลาไกล่เกลี่ยราว 2 ชั่วโมง ภายหลัง นายมาริโอ้ เปิดเผยว่า การเจรจาเป็นไปด้วยดี แต่ยังติดขัดในเงื่อนไขเรื่องเงินอยู่ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ซึ่งตนอยากให้จบลงด้วยดี แต่เป็นเรื่องของอนาคตว่าสามารถตกลงได้หรือไม่
ด้าน นายโกศล ใสสุวรรณ ทนายความของ นายมาริโอ้ กล่าวว่า ระหว่างการไกล่เกลี่ยมีการปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี และหากในวันที่ 28 ก.ค.นี้ สามารถเจรจาตกลงกันได้ คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะยื่นคำร้องขอถอนฟ้องซึ่งกันและกัน สำหรับวันนี้การเจรจามีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก คาดว่า คดีน่าจะจบลงได้ ซึ่งหากมีการปรับความเข้าใจกันได้ ภาพที่ออกมาจะดีกับทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ นายศุภชัย ผู้จัดการนายมาริโอ้ เปิดเผยว่า ในส่วนคดีของตนนั้นถือว่าเจรจาจบลงแล้ว ซึ่งในวันนัดไกล่เกลี่ยครั้งต่อไป ตนจึงไม่จำเป็นต้องมาศาล แต่อาจจะเดินทางมาให้กำลังใจ มาริโอ้ เรื่องคดีนั้นอย่างให้ทุกเรื่องจบลงด้วยดี ส่วนเรื่องการจับ มาริโอ้ เซ็นสัญญานั้น ขอยืนยันว่า ไม่มี เป็นสัญญาใจมากกว่า แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยได้พูดคุยกับ นายนิรุณ คู่กรณีเป็นส่วนตัวเลย
ด้าน นายนิรุณ เปิดเผยว่า การเจรจาในคดีที่ฟ้อง นายศุภชัย เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 630,000 บาท นั้น สามารถตกลงกันได้แล้ว เมื่อคู่กรณียินยอมชดใช้เงินให้ ส่วนการเจรจาในคดีละเมิด ค่าเสียหายจำนวน 6 ล้านบาทนั้น ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้ ตนยอมถอยออกมาแล้ว เพื่อให้การเจรจาจบลงได้ง่ายขึ้น ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่ เชื่อว่าการเจรจาในนัดต่อไปน่าจะเป็นไปด้วยดี