xs
xsm
sm
md
lg

"เอ ศุภชัย" ตีมึน ไม่รู้เรื่อง "มาริโอ้" โดนค่ายหนังฟ้อง บอกเป็นแค่พี่เลี้ยงไม่ใช่ผู้จัดการ ก่อนโต้ "สหฯ" แบนมาริโอ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอ ศุภชัย” ปัด ไม่รู้รายละเอียดที่ “มาริโอ้” โดนค่ายหนัง “โมโนฟิล์ม” ฟ้องเรียกค่าเสียหาย เพราะขณะนั้นยังไม่ได้รู้จักกัน ฉะนั้นคงต้องปล่อยให้ทางผู้ใหญ่ของเจ้าตัวเป็นคนจัดการเอง เผย เป็นแค่พี่เลี้ยงไม่ใช่ผู้จัดการส่วนตัว พร้อมโต้ข่าว “สหมงคลฯ” ไม่ปลื้ม “มาริโอ้” ถึงขั้นจะไม่เอาเล่นหนังอีกนั้น ไม่เป็นความจริง

ดูเหมือนว่าตั้งแต่พระเอกหนุ่มสุดฮอต “มาริโอ้ เมาเร่อ” ย้ายมาซบอกผู้จัดการดาราคนดัง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ก็ดูจะมีเรื่องมีราวให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ไม่หยุดหย่อน ล่าสุดก็เพิ่งโดนค่ายหนัง “โมโนฟิล์ม” ฟ้องร้องค่าเสียหายทั้งตัว “มาริโอ้” เองกับอดีตผู้จัดการส่วนตัวในขณะนั้นอย่าง “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์” แต่เรื่องนี้ “เอ” เผยว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้รับรู้รายละเอียดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะรู้จักกับพระเอกหนุ่มคนนี้

“เรื่องนี้เอไม่ทราบเรื่องเลยครับ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เอจะได้รู้จักกับโอ้อีก ก็ปรึกษากับคุณแม่ของน้องนะครับว่าจะยังไงได้บ้าง แต่ขั้นตอนคงเป็นทางผู้ใหญ่ของโอ้เป็นคนคุยครับ เอก็คอยฟังและก็คอยแนะนำบ้างนิดหน่อยครับ เอไม่รู้เรื่องรายละเอียดอะไรทั้งสิ้นเลยครับ เรื่องรายได้เรื่องอะไรของเขา อันนี้ต้องถามทางโอ้และผู้ใหญ่ของโอ้ครับ งานของโอ้เอไม่ได้เข้าไปดูเลยครับ”

พร้อมอธิบายว่าตนไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ “มาริโอ้” เป็นแค่พี่เลี้ยงเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรื่องงานตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พร้อมโต้เรื่องที่ว่าค่ายหนังยักษ์ใหญ่ “สหมงคลฟิล์ม” ไม่ปลื้มพระเอกหนุ่มจนนอกจากหนังเรื่อง “บุปผาราตรี 3.1-3.2” ที่พระเอกหนุ่มได้เล่นแล้ว ก็จะไม่มีเรื่องไหนต่ออีกว่าไม่เป็นความจริง เพราะกำลังจะมีโปรเจ็กใหม่ร่วมกันอยู่

“อันดับแรกต้องขอแจงก่อน เอไม่เคยเข้าไปยุ่งในเรื่องงานของโอ้เลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ แล้วก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายแม้กระทั่งการเรียกค่าตัวอะไร เพราะเราก็ยืนยันว่าเราเป็นแค่พี่เลี้ยงไม่ใช่ผู้จัดการ อันนี้ก็ต้องขอแก้ตัวเลยครับ”

“เรื่องข่าวนี้โอ้ไม่ได้มีการปรึกษาครับ แต่ถ้าสมมติว่าถ้าเสี่ยเจียงให้โอกาสน้อง น้องก็เข้าไปคุยกับเสี่ยเจียงด้วยตัวน้องเองเลย เพราะว่าน้องกับเสี่ยเจียงได้รู้จักเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันอยู่แล้วนะครับ แล้วตอนนี้ที่เห็นงานโอ้กับสหฯ ที่ทราบมาก็ถ่ายแต่บุปผาฯ อยู่เรื่องเดียว แล้วก็รู้สึกว่าเสี่ยจะเรียกเข้าไปคุยโปรเจ็คใหม่กับน้องอีกสักเรื่องที่โอ้ได้โทรมาปรึกษาอยู่นะครับ”

เผยว่าตนไม่ได้เป็นผู้จัดการที่ลำเอียง ให้งานเด็กไม่เท่ากัน เพราะเศรษฐกิจอย่างนี้ งานไม่ได้เท่ากันทุกคนอยู่แล้ว

“มันไม่จริงเลยครับ แต่ละคนก็ทำงานกันทุกวันเลย ไม่มีใครว่างงานเลย เหมือนวันนี้เอก็มาดูอั้มด้วย แล้วเดี๋ยวตอนเย็นก็วิ่งรอกอีกงานนึง คือช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังโชคดีที่ว่าน้องๆ ของเรายังมีงานเยอะมากอยู่ แต่ต้องเข้าใจว่าสำหรับเด็กใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักก็อาจจะไม่มีงานเหมือนกับคนที่รู้จักกันอยู่แล้วนะครับ เราก็เป็นเหมือนเซลล์คนนึงนะครับ ก็โทรไปหาลูกค้า เราดูว่าทาร์เก็ตกรุ๊ปของลูกค้าอันนี้น่าจะตรงกับเด็กของเราคนไหน เราก็ขายไป ก็เหมือนกับเป็นเซลล์ก็ขายให้เขา”


กำลังโหลดความคิดเห็น