“ทีมทนายพันธมิตรฯ” นัดประชุมวางแนวทางต่อสู้คดี “ก่อการร้าย” เล็งฟ้องตำรวจเจ้าของสำนวนยัดข้อกล่าวหาแรงเกินจริง ส่วนคดี “สนธิ” หมิ่น “นพดล” ทรยศทุนหลวง เจ้าตัวเตรียมขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เหตุยังต้องรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
วันนี้ (8 ก.ค.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดีของแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันก่อการร้าย กรณีบุกเข้าไปชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ ในท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ช่วงเดือน ส.ค.51 ที่ผ่านมาว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เวลา 16.00 น. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 36 คน นัดประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อศึกษาข้อกฎหมาย และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการต่อสู้คดี เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้ตำรวจตั้งกล่าวข้อหาเลื่อนลอย และรุนแรงเกินกว่าความเป็นจริง ทั้งที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นไปตามกรอบแห่งรัฐธรรมนูญ
“ขอเวลาให้ทีมทนาย และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 36 คนหารือกันในวันพรุ่งนี้ก่อน เชื่อว่าน่าจะมีความชัดเจนถึงแนวทางการต่อสู้คดี ซึ่งอาจรวมถึงการยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนที่ตั้งข้อกล่าวหาเราอย่างเลื่อนลอย และรุนแรงเกินจริงด้วย” นายสุวัตร กล่าว
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้รับติดต่อจากนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้เป็นทนายความต่อสู้คดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีบุกปิดล้อมสนามบินแล้ว ในวันพรุ่งนี้ ( 9 ก.ค.) เวลา 16.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ จะเข้าร่วมประชุมกับทนายความกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเพื่อวางแนวทางต่อสู้คดี ซึ่งนายกษิตจะไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุมด้วย โดยตนจะรายงานผลการประชุมวางแนวทางต่อสู้คดีให้นายกษิตทราบต่อไปหลังที่เข้าร่วมประชุมแล้ว
ส่วนคดีที่ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และ ASTV กับพวกรวม 8 คน เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีร่วมกันจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ออกอากาศ และตีพิมพ์เผยแพร่ทำนองว่านายนพดลทรยศต่อทุนหลวงไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) นั้น นายสุวัตรกล่าวว่าเนื่องจากนายสนธิยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวจากการผ่าตัดสมองหลังถูกลอบยิง ฝ่ายจำเลยจึงเตรียมยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดออกไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนจะมีการอ่านคำพิพากษาเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล