วัดราชบุรณะฯ ร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดพาหุรัด ตกลงร่วมพัฒนาตลาด โดยไม่มีเหตุการณ์บานปลาย ต่างฝ่ายต่างเข้าใจในจุดยืนซึ่งกันและกัน โดยมีผลประโยชน์ร่วมกันเป็นหลัก
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ว่าที่ ร.ต.สุทิน สุขสุเดช อดีตรองอธิบดีอัยการเขต 1 ประธานคณะทำงานโครงการพัฒนาตลาดพาหุรัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผกก.พธ.2 เลขาฯ คณะทำงานโครงการฯ นำประชาชนผู้ประกอบการค้าในตลาดพาหุรัด จำนวน 457 แผง เข้ากราบนมัสการพระเทพโสภณ เจ้าอาวาสวัดราชบุรณราชวรวิหาร และคณะสงฆ์ เพื่อถวายพื้นที่แผงค้าในตลาดพาหุรัดคืนให้แก่ทางวัด เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเสื่อมโทรมมาก ประกอบกับผู้ค้าต้องการให้ทางวัดเร่งพัฒนาพื้นที่ใหม่ขึ้นมาไว้ให้ประกอบกิจการกันต่อไป
พระเทพโสภณ กล่าวว่า ทางวัดอยากปรับปรุงพื้นที่ตลาดมานานแล้ว เพราะมองเห็นผลกระทบต่อส่วนรวมทั้งเรื่องน้ำเน่าเสีย ขยะ สายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ที่ระโยงระยางเต็มไปหมด หากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาอีกจะลำบาก เพราะที่ผ่านมารถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ โดยหลังจากนี้ใครมีข้อคับข้องใจก็ให้เข้ามาคุยกัน ซึ่งยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีผลประโยชน์แทรกแซงอย่างแน่นอน ทางวัดดำเนินการเองทั้งหมด ญาติโยมสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้
พ.ต.อ.ไพศาล เปิดเผยว่า ทางวัดริเริ่มโครงการพัฒนาตลาดมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว ซึ่งเวลานั้นคณะทำงานก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบกัน และยกเว้นไม่เก็บค่าแผงมานานตลอด 3 ปี โชคดีที่ผู้ค้าส่วนใหญ่เข้าใจและให้ความร่วมมือ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยประมาณ 40 แผงที่ยังไม่เข้าใจพยายามเรียกเงินเวนคืนจากวัด บางรายเรียกมากถึง 10 ล้าน ซึ่งก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาให้ ทั้งที่โครงการเป็นการพัฒนาเพื่อสังคมส่วนรวมก็คงจะต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป
“การพัฒนาตลาดพาหุรัดนี้ คาดว่าไม่เกิน 2 ปีก็จะแล้วเสร็จ โดยทางวัดจะก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มีพื้นที่จอดรถใต้ดิน และมีแผงค้าโครงการมากถึง 571 คูหา ซึ่งผู้ค้าเก่าจะได้สิทธิ์ในการจับจองก่อนใครในราคายุติธรรม อีกทั้งเจ้าอาวาสก็มีนโยบายช่วยให้คนจนเข้ามาจับจองหาแผงประกอบอาชีพอยู่แล้ว ขอยืนยันว่าไม่มีการหากำไรแน่นอน” พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว
ด้าน นางลัดดา โล่ห์เงิน อายุ 53 ปี ผู้ประกอบการค้าอาหารในตลาดพาหุรัด กล่าวว่า รู้สึกเสียดายความเก่าแก่ของตลาดโบราณที่ควรอนุรักษ์ แต่ก็ต้องทำใจเพราะสภาพอาคารทรุดโทรมมากแล้ว ถูกไฟไหม้ก็หลายครั้งไม่รู้จะถล่มลงมาเมื่อไหร่ จึงอยากให้ทางวัดรีบพัฒนาขึ้นมาไวๆ เพื่อจะได้จับจองพื้นที่ทำกิน มีทำเลประกอบอาชีพเลี้ยงปากท้องและครอบครัวกันต่อไป
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ว่าที่ ร.ต.สุทิน สุขสุเดช อดีตรองอธิบดีอัยการเขต 1 ประธานคณะทำงานโครงการพัฒนาตลาดพาหุรัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผกก.พธ.2 เลขาฯ คณะทำงานโครงการฯ นำประชาชนผู้ประกอบการค้าในตลาดพาหุรัด จำนวน 457 แผง เข้ากราบนมัสการพระเทพโสภณ เจ้าอาวาสวัดราชบุรณราชวรวิหาร และคณะสงฆ์ เพื่อถวายพื้นที่แผงค้าในตลาดพาหุรัดคืนให้แก่ทางวัด เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเสื่อมโทรมมาก ประกอบกับผู้ค้าต้องการให้ทางวัดเร่งพัฒนาพื้นที่ใหม่ขึ้นมาไว้ให้ประกอบกิจการกันต่อไป
พระเทพโสภณ กล่าวว่า ทางวัดอยากปรับปรุงพื้นที่ตลาดมานานแล้ว เพราะมองเห็นผลกระทบต่อส่วนรวมทั้งเรื่องน้ำเน่าเสีย ขยะ สายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ที่ระโยงระยางเต็มไปหมด หากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาอีกจะลำบาก เพราะที่ผ่านมารถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ โดยหลังจากนี้ใครมีข้อคับข้องใจก็ให้เข้ามาคุยกัน ซึ่งยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีผลประโยชน์แทรกแซงอย่างแน่นอน ทางวัดดำเนินการเองทั้งหมด ญาติโยมสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้
พ.ต.อ.ไพศาล เปิดเผยว่า ทางวัดริเริ่มโครงการพัฒนาตลาดมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว ซึ่งเวลานั้นคณะทำงานก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบกัน และยกเว้นไม่เก็บค่าแผงมานานตลอด 3 ปี โชคดีที่ผู้ค้าส่วนใหญ่เข้าใจและให้ความร่วมมือ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยประมาณ 40 แผงที่ยังไม่เข้าใจพยายามเรียกเงินเวนคืนจากวัด บางรายเรียกมากถึง 10 ล้าน ซึ่งก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาให้ ทั้งที่โครงการเป็นการพัฒนาเพื่อสังคมส่วนรวมก็คงจะต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป
“การพัฒนาตลาดพาหุรัดนี้ คาดว่าไม่เกิน 2 ปีก็จะแล้วเสร็จ โดยทางวัดจะก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มีพื้นที่จอดรถใต้ดิน และมีแผงค้าโครงการมากถึง 571 คูหา ซึ่งผู้ค้าเก่าจะได้สิทธิ์ในการจับจองก่อนใครในราคายุติธรรม อีกทั้งเจ้าอาวาสก็มีนโยบายช่วยให้คนจนเข้ามาจับจองหาแผงประกอบอาชีพอยู่แล้ว ขอยืนยันว่าไม่มีการหากำไรแน่นอน” พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว
ด้าน นางลัดดา โล่ห์เงิน อายุ 53 ปี ผู้ประกอบการค้าอาหารในตลาดพาหุรัด กล่าวว่า รู้สึกเสียดายความเก่าแก่ของตลาดโบราณที่ควรอนุรักษ์ แต่ก็ต้องทำใจเพราะสภาพอาคารทรุดโทรมมากแล้ว ถูกไฟไหม้ก็หลายครั้งไม่รู้จะถล่มลงมาเมื่อไหร่ จึงอยากให้ทางวัดรีบพัฒนาขึ้นมาไวๆ เพื่อจะได้จับจองพื้นที่ทำกิน มีทำเลประกอบอาชีพเลี้ยงปากท้องและครอบครัวกันต่อไป