รถกระบะพุ่งชนรถแก๊สหวิดบึ้ม!

รถบรรทุกแก๊สแอลพีจี 6 ล้อ กำลังจะเลี้ยวเข้าปั๊มไปส่งแก๊ส เจอกระบะพุ่งชนอย่างจังจนไฟลุกไหม้ โชคดีวาล์วนิรภัยในถังไม่ได้รับความเสียหาย แก๊สในถังจึงไม่รั่วไหล

วานนี้ (29 มิ.ย.) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พงส.(สบ 2) สน.สายใหม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถ 6 ล้อบรรทุกแก๊สแอลพีจี เฉี่ยวชนกับรถกระบะจนเกิดพลิงลุกไหม้บริเวณหน้าปั๊มแก๊สปากซอยสายใหม 62 ถนนสายใหม แขวงและเขตสายใหม จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย

ที่เกิดเหตุเป็นปั๊มแก๊สของ บ.วีพีเอ็น ปิโตรเลี่ยมจำกัด ซึ่งมีบริการทั้งแก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวี พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 74-2729 กทม. ของบริษัท ฟ้าใส จำกัด บรรทุกถังแก๊ส แอลพีจี ขนาด 5 ตัน สภาพรถจอดขวางถนนอยู่ 2 เลน มีนายอภิเดช บุญกู้ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.6 ต.ห้วยใต๊ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ บริเวณกลางตัวรถด้านซ้ายมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเขียว ทะเบียน ถก 9060 กทม. สภาพรถด้านหน้าขวาชนติดอยู่กับข้างรถบรรทุกแก๊ส จนล้อรถและช่วงล่างหน้าพังยับเยิน มีนายทวี ศรีสุวรรณ อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/112 ซ.สายใหม 29 แขวงและเขตสายไหม เป็นคนขับ

นอกจากนี้ยังได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นตรงจุดที่ชนเนื่องจากจุดที่ชนเป็นบริเวณที่มีท่อสำหรับถ่ายแก๊สอยู่พอดี ทำให้แก๊สส่วนที่ค้างอยู่ในท่อรั่วไหลออกมา และเกิดเพลิงไหม้ พนักงานในปั้มได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงฉีดจนไฟดับ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดถนนบริเวณที่เกิดเหตุและใช้น้ำฉีดเลี้ยงเอาไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเกรงว่าจะมีแก๊สรั่วออกมาอีก ก่อนจะประสานไปทาง บริษัท ฟ้าใส ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวน นายอภิเดชให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ไปรับแก๊สแอลพีจี ที่คลังจ่ายแก๊ส ของ บ.เวิลด์แก๊ส ที่ อ.บางประกง จากนั้นก็ขับนำแก๊สมาส่งที่ปั๊มที่เกิดเหตุดังกล่าว เมื่อมาถึงขณะที่กำลังเลี้ยวตีวงจากเลนขวาเพื่อเข้าปั๊ม รถกระบะคู่กรณีขับพุ่งขึ้นมาทางเลนซ้ายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งชนด้านข้างรถบรรทุกอย่างแรงจนเกิดแก๊สรั่วและเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว โชคยังดีที่วาล์วนิรภัยในถังไม่ได้รับความเสียหาย แก๊สในถังจึงไม่รั่วไหลออกมา ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดระเบิดขึ้นได้

ด้าน พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหากับฝ่ายใด จะต้องนำตัวคนขับรถทั้ง 2 คนไปสอบปากคำที่ สน.สายไหม อย่างละเอียดเสียก่อน หากพบว่าใครเป็นฝ่ายผิดก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไป