กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเหตุสลายชุมนุมที่ตากใบ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา ในคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 78 ราย เพราะไม่มีคำสั่งถึงพฤติการณ์ที่ตายอย่างแท้จริง มีเพียงคำสั่งใครตาย ตายที่ไหน เมื่อใด ขณะที่ศาลไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากไม่ปรากฏสำนวนคดีดังกล่าวมีการยื่นฟ้องในศาลมาก่อน หากญาติผู้เสียชีวิตจะยื่นคัดค้านต้องไปยื่นที่ศาลจังหวัดสงขลาผู้ทำสำนวน
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต 78 ศพจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กว่า 10 คน เดินทางมาพร้อมกับนายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา ที่มีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 78 ศพเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เรื่องสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 เรื่องการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ที่ศาลต้องทำการไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และเหตุแห่งพฤติการณ์ที่ตาย และถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็นคนกระทำเท่าที่จะทราบได้ ซึ่งการไต่สวนคดีนี้มีนายพิเชต สุนทรพิพิธ ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมที่หน้าที่ สภ.ตากใบ ที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมาธิการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา, พล.ต.อ.ประทิน สันติภาพ ประธานกรรมาธิการสอบสวนข้อเท็จจริง วุฒิสภา, นายสานูสี แจ๊ะแม ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวหลังสลายการชุมนุม และพยานอีกหลายปาก เบิกความสรุปได้ว่า ในการขนย้ายผู้ร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่จับผู้ร่วมชุมนุมมัดมือไพล่หลัง ให้นอนคว่ำหน้าและทับซ้อนกันมาท้ายรถบรรทุก โดยเมื่อขนย้ายผู้ชุมนุมมาถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร พบว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น แต่คำสั่งศาลจังหวัดสงขลาทำคำสั่งเพียงว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด พร้อมระบุว่าผู้ตายทั้ง 78 คนขาดอากาศหายใจเท่านั้น แต่ไม่ได้มีคำสั่งถึงพฤติการณ์ที่ตายที่แท้จริง ซึ่งการขนย้ายผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้มัดมือไขว้หลัง นอนคว่ำหน้า และทับซ้อนกัน รวมทั้งไม่ได้มีคำสั่งถึงคนทำร้ายให้ตาย คือเจ้าหน้าที่ในการขนย้าย และเจ้าหน้าที่ควบคุมรถยนต์ และคำสั่งก็ยังไม่กล่าวถึงการเคลื่อนย้ายศพ ที่พบว่าเสียชีวิตบนรถบรรทุก แต่เคลื่อนย้ายศพออกจากรถบรรทุก นำไปวางที่พื้นนอกอาคาร ดังนั้นผู้ร้องจึงขอให้ศาลอาญา เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา และให้ศาลจังหวัดสงขลาทำคำสั่งชันสูตรพลิกศพใหม่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวน
โดยนายรัษฎา ทนายความ กล่าวว่า ศาลพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีดังกล่าวมีการยื่นฟ้องในศาลอาญามาก่อน ซึ่งหากญาติผู้เสียชีวิตจะยื่นคัดค้านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ต้องไปยื่นที่ศาลจังหวัดสงขลาผู้ทำสำนวน ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตก็จะดำเนินการต่อไป
ขณะที่ นายสมชาย หอมละออ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า จากหลักฐานที่ปรากกฏทั้งพยานภาพวิดีโอ และภาพบอกเล่าพบว่า ทั้ง 78 คนถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วพาขึ้นรถบรรทุก นอนทับซ้อนกันอยู่หลายชั้นโดยเคลื่อนย้ายจาก จ.นราธิวาส ไปยัง จ.ปัตตานี ใช้เวลาร่วม 12 ชั่วโมงแล้วพบว่าเสียชีวิต จากเหตุดังกล่าวจึงต้องมีผู้รับผิดชอบ และเมื่อกลุ่มญาติเห็นว่าคำสั่งศาลยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งระบุเพียงว่าขาดอากาศหายใจ จึงได้มายื่นคำร้องเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
“เราจะขอต่อสู้ตามกฎหมายเพื่อขอความยุติธรรม แต่ไม่เห็นด้วยและขอต่อต้านผู้ที่แอบอ้าง ข่มขู่ที่จะทำร้ายผู้พิพากษาในพื้นที่” นายสมชายกล่าว
กต.ไม่ย้าย 2 ผู้พิพากษาคดีตากใบ ลาพักผ่อนได้-สั่ง รปภ.เข้ม!
ก.ต.นัดถกวาระพิเศษ! โจรใต้ปองร้าย 2 ผู้พิพากษาคดีตากใบ
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต 78 ศพจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กว่า 10 คน เดินทางมาพร้อมกับนายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา ที่มีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 78 ศพเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เรื่องสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 เรื่องการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ที่ศาลต้องทำการไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และเหตุแห่งพฤติการณ์ที่ตาย และถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็นคนกระทำเท่าที่จะทราบได้ ซึ่งการไต่สวนคดีนี้มีนายพิเชต สุนทรพิพิธ ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมที่หน้าที่ สภ.ตากใบ ที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมาธิการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา, พล.ต.อ.ประทิน สันติภาพ ประธานกรรมาธิการสอบสวนข้อเท็จจริง วุฒิสภา, นายสานูสี แจ๊ะแม ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวหลังสลายการชุมนุม และพยานอีกหลายปาก เบิกความสรุปได้ว่า ในการขนย้ายผู้ร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่จับผู้ร่วมชุมนุมมัดมือไพล่หลัง ให้นอนคว่ำหน้าและทับซ้อนกันมาท้ายรถบรรทุก โดยเมื่อขนย้ายผู้ชุมนุมมาถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร พบว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น แต่คำสั่งศาลจังหวัดสงขลาทำคำสั่งเพียงว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด พร้อมระบุว่าผู้ตายทั้ง 78 คนขาดอากาศหายใจเท่านั้น แต่ไม่ได้มีคำสั่งถึงพฤติการณ์ที่ตายที่แท้จริง ซึ่งการขนย้ายผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้มัดมือไขว้หลัง นอนคว่ำหน้า และทับซ้อนกัน รวมทั้งไม่ได้มีคำสั่งถึงคนทำร้ายให้ตาย คือเจ้าหน้าที่ในการขนย้าย และเจ้าหน้าที่ควบคุมรถยนต์ และคำสั่งก็ยังไม่กล่าวถึงการเคลื่อนย้ายศพ ที่พบว่าเสียชีวิตบนรถบรรทุก แต่เคลื่อนย้ายศพออกจากรถบรรทุก นำไปวางที่พื้นนอกอาคาร ดังนั้นผู้ร้องจึงขอให้ศาลอาญา เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา และให้ศาลจังหวัดสงขลาทำคำสั่งชันสูตรพลิกศพใหม่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวน
โดยนายรัษฎา ทนายความ กล่าวว่า ศาลพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีดังกล่าวมีการยื่นฟ้องในศาลอาญามาก่อน ซึ่งหากญาติผู้เสียชีวิตจะยื่นคัดค้านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ต้องไปยื่นที่ศาลจังหวัดสงขลาผู้ทำสำนวน ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตก็จะดำเนินการต่อไป
ขณะที่ นายสมชาย หอมละออ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า จากหลักฐานที่ปรากกฏทั้งพยานภาพวิดีโอ และภาพบอกเล่าพบว่า ทั้ง 78 คนถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วพาขึ้นรถบรรทุก นอนทับซ้อนกันอยู่หลายชั้นโดยเคลื่อนย้ายจาก จ.นราธิวาส ไปยัง จ.ปัตตานี ใช้เวลาร่วม 12 ชั่วโมงแล้วพบว่าเสียชีวิต จากเหตุดังกล่าวจึงต้องมีผู้รับผิดชอบ และเมื่อกลุ่มญาติเห็นว่าคำสั่งศาลยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งระบุเพียงว่าขาดอากาศหายใจ จึงได้มายื่นคำร้องเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
“เราจะขอต่อสู้ตามกฎหมายเพื่อขอความยุติธรรม แต่ไม่เห็นด้วยและขอต่อต้านผู้ที่แอบอ้าง ข่มขู่ที่จะทำร้ายผู้พิพากษาในพื้นที่” นายสมชายกล่าว
กต.ไม่ย้าย 2 ผู้พิพากษาคดีตากใบ ลาพักผ่อนได้-สั่ง รปภ.เข้ม!
ก.ต.นัดถกวาระพิเศษ! โจรใต้ปองร้าย 2 ผู้พิพากษาคดีตากใบ