xs
xsm
sm
md
lg

รพ.วชิระ เสียใจ “แม่-ลูก” เสียชีวิต! ยันรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ C.P.G.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รพ.วชิระ แสดงความเสียใจ แม่-ลูกเสียชีวิตขณะทำคลอด ยัน รพ.รักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ C.P.G. ส่วนที่ รพ.รามาฯ ชันสูตร ก็เป็นไปตามที่ รพ.วชิระคาดการณ์ คือเกิดจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ย้ำครั้งสุดท้ายที่คนไข้มาตรวจร่างกาย วันที่ 3 มิ.ย. ผลการตรวจทั้งแม่และเด็ก แข็งแรงและอยู่ในภาวะปกติทุกอย่าง พร้อมตั้งข้อสังเกต ก่อนที่จะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ไม่ทราบว่าคนไข้ไปทำกิจกรรมอะไรที่เป็นการกระทบกระเทือนมาหรือไม่

วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 รพ.วชิรพยาบาล นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการวชิรพยาบาล นพ.พงษ์ธร วิโรจน์ชัยวงษ์ หัวหน้าภาควิชาสูตินารีเวช วชิรพยาบาล พร้อมด้วยคณะแพทย์ รพ.วชิรพยาบาล ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ น.ส.วิไลพร บุตรพงษ์ และทารกที่อยู่ในครรภ์เสียชีวิตขณะที่ไปทำการคลอดว่า ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางโรงพยาบาลได้ให้การรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ C.P.G ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ออกโดยราชวิทยาลัย ใช้กันในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ

นพ.ชัยวัน กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นคนไข้ คือ น.ส.วิไลพร ได้เดินทางมาถึงโรงพยาบาลเวลาประมาณ 02.45 น.ของวันที่ 17 มิ.ย. คนไข้มีอาการปวดท้องคลอด แพทย์จึงได้ทำการตรวจ แต่ไม่พบเสียงหัวใจเต้นของเด็กในท้องเนื่องจากเด็กไม่หายใจ จึงได้ทำการอัลตราซาวนด์ก็พบว่าหนังศีรษะของเด็กมีอาการบวม คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 วัน ประกอบกับบริเวณรกเด็กมีลักษณะที่หนาขึ้น คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการลอกตัวของรกเร็วกว่าปกติ แพทย์จึงได้เจาะเลือดของคนไข้ไปตรวจหาสาเหตุของอาการต่างๆ โดยปกติเมื่อเกิดเหตุเช่นนื้ทางแพทย์จะให้คลอดเองตามธรรมชาติ โดยไม่ใช้วิธีการผ่าตัด เนื่องจากสภาพร่างกายของคนไข้ต้องอยู่ในภาวะที่พร้อมรับการผ่าตัด และขั้นตอนค่อนข้างมีความเสี่ยง เพราะถ้าวางยาสลบอาจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

“เมื่อผลตรวจเลือดออกมา ปรากฏว่าพบสิ่งผิดปกติหลายอย่างเกี่ยวกับตัวแม่และเด็ก ทางโรงพยาบาลจึงได้หารือกันเพื่อช่วยชีวิตของแม่เด็ก โดยทีมแพทย์ได้เตรียมเกล็ดเลือด และอุปกรณ์การช่วยชีวิตทุกอย่าง แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิด เพราะอาการของคนไข้เข้าขั้นวิกฤต เพราะร่างกายสูญเสียองค์ประกอบที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว รกของเด็กหนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีเลือดออกในช่องท้องถึง 2 ลิตร แม้คณะแพทย์จะพยามยามเติมเกล็ดเลือดเข้าไปก็ไม่เพียงพอและไม่ทันกับการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้จะทำการปั๊มหัวใจอยู่หลายครั้งก็ไม่เป็นผล โดยแพทย์ได้ยื้อชีวิตเป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง และทำตามมาตรฐานการรักษาอย่างดีที่สุดแล้ว” นพ.ชัยวัน กล่าว

นพ.ชัยวัน กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่แพทย์ยังไม่สามารถให้คำตอบเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตได้ทันทีในขณะนั้น เป็นเพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก และต้องใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยการผ่าชันสูตรศพจากนิติเวชหลังจากที่แจ้งให้ทางญาติคนไข้ทราบแล้วว่าคนไข้เสียชีวิต ทางญาติก็ยินดีที่จะให้ แพทย์นิติเวชจาก รพ.วชิระเป็นผู้ผ่าชันสูตร แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนใจ แต่คณะแพทย์ก็เคารพการตัดสินใจ เพราะเป็นสิทธิ์ของคนไข้ ซึ่งการที่ทางญาติคนไข้เคลื่อนย้ายศพไปให้ทาง รพ.รามาธิบดี เป็นผู้ผ่าชันสูตรถือเป็นความโชคดีของ รพ.วชิระด้วย เนื่องจาก รพ.รามาฯ เป็นศูนย์กลางในการผ่า และเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นกลาง จะได้ไม่เกิดข้อกังขาและข้อสงสัยต่างๆตามมา

ด้าน นพ.พงษ์ธร กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตของคนไข้ที่ รพ.รามาฯ ชันสูตร ก็เป็นไปตามที่ รพ.วชิระคาดการณ์เอาไว้ คือเกิดจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ก่อนหน้านี้ที่คนไข้มาฝากครรภ์ แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายเป็นระยะๆ ครั้งสุดท้ายที่คนไข้มาตรวจร่างกาย คือ วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจทั้งแม่และเด็กมีร่างกายที่แข็งแรงและอยู่ในภาวะปกติทุกอย่าง มีการเจาะเลือดเพื่อคัดกรองน้ำตาลว่ามีอาการของโรคเบาหวานหรือไม่ และมีอาการอื่นๆที่จะทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษหรือเปล่า ซึ่งก็ไม่พบแต่อย่างใด

นพ.พงษ์ธร กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ไม่ทราบว่าคนไข้ไปทำกิจกรรมอะไรที่เป็นการกระทบกระเทือนมาหรือไม่ แต่เท่าที่ตรวจก็ปกติดีส่วนสาเหตุการลอกตัวของรกเด็กเกิดได้จากสาเหตุดังนี้ คือ ได้รับอุบัติเหตุบริเวณหน้าท้องอย่างรุนแรง หรือแม่เด็กมีภาวะเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง หรือเป็นโรคเบาหวาน ส่วนใหญ่จากการรักษาจะพบภาวะครรภ์เป็นพิษไม่เกิด 5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคณะแพทย์ตรวจพบก่อนก็จะมีวิธีการรักษา โดยการให้ยาป้องกันเพื่อลดความดันและน้ำตาลในเลือด ให้งดอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และงดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อแม่และเด็ก

“ถ้าหากรักษาตามวิธีการเหล่านี้แล้วยังไม่ดีขึ้นก็จะพิจารณายุติการตั้งครรภ์ของเด็ก หรือการทำแท้ง เพราะถ้าเอาเด็กไว้อาจจะทำให้ต้องเสียชีวิตทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ผมและคณะแพทย์ยืนยันว่าได้ทำการรักษาอย่างเต็มความสามารถแล้ว ในรอบ 1 ปี จะพบประมาณ 10 ราย มีการเสียชีวิตน้อยมาก แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงก็เสียชีวิต ถ้าไม่รุนแรงแพทย์ก็สามารถทำการรักษาช่วยชีวิตเอาไว้ได้” นพ.พงษ์ธร กล่าว

ผอ.วชิระ ยันทำคลอด “แม่-ลูก” ตาย! ได้ดำเนินการสุดความสามารถแล้ว
สลด! รพ.ทำคลอด “แม่-ลูก” ตาย อ้างกรณี 1 ในล้าน “ครรภ์เป็นพิษ”
นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการวชิระพยาบาล
น.ส.วิไลพร บุตรพงษ์ และทารกที่อยู่ในครรภ์ เสียชีวิต
กำลังโหลดความคิดเห็น