แม่ชีวัดรวกบางบำหรุ ถูกฆ่าอย่างทารุณ หัวแตก กรามหัก เบ้าตาปูด ลิ้นจุกปาก เสียชีวิตจมกองเลือดทั้งชุดหน้ากุฏิ ตำรวจรวบชายขายน้ำในวัดอยู่ในอาการเมา สวมกางเกงติดคราบเลือดมาเค้นสอบรับหมั่นไส้แม่ชีชอบมองหน้าหาเรื่อง หลังจากกินเหล้าเล่นไฮโลเสร็จเจอคู่อรินั่งหันหลังซักผ้าจึงปรี่เตะฟาดแข้งลงต้นคอ-ใบหน้า กระหน่ำชกจนแม่ชีหมดสติ ด้านรอง ผกก.พหลโยธิน บอกแม่ชีเป็นอาแท้ๆ ตาพิการแต่กำเนิดบวชมานานไม่ยอมสึก
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น. ร.ต.ท.หญิงเพชรรัตน์ เลิศวานิช ร้อยเวร สน.บางพลัด ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพแม่ชีถูกฆ่าตายภายในวัดรวกบางบำหรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 (แยก 3) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้ากุฏิแม่ชี ใกล้กับห้องน้ำรวมด้านข้างศาลาการเปรียญของทางวัด พบศพ แม่ชีสนม น้อยประเทศ อายุ 68 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 6 ซอยเทอดไท 19 (วัดโพธิ์นิมิตร) แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. สภาพศพนอนสวมชุดแม่ชีสีขาว ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มีบาดแผลถูกทำร้ายเข้าที่เบ้าตาปูดทั้ง 2 ข้าง ศีรษะแตกกรามถูกกระแทกจนหัก ลิ้นจุกปาก แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 12 ชั่วโมง ส่วนภายในกุฏิของผู้ตายพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งว่าพบผู้ต้องสงสัยสวมกางเกงเปื้อนเลือดเดินวนเวียนอยู่ในวัด เจ้าหน้าที่จึงรีบไปควบคุมตัวมาสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีชา หรือ “เปี๊ยก” นิสงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.
นายปรีชาให้การในสภาพเมามายว่า พักอาศัยอยู่ในวัดนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันช่วยภรรยาขายน้ำดื่มอยู่ที่บริเวณหน้าวัด และขับรถแท็กซี่เป็นรายได้เสริม ส่วนคราบเลือดที่เลอะกางเกงนั้นเกิดจากการทะเลาะวิวาทกับภรรยาซึ่งอยู่ระหว่างมีรอบเดือนจึงมีคราบติดกางเกงออกมา จากนั้นฝ่ายสืบสวนได้สอบเค้นอย่างหนัก จนนายปรีชายอมรับเปิดปากรับสารภาพว่าตนเป็นคนฆ่าแม่ชีสนมเอง เนื่องจากหมั่นไส้ที่ชอบมองหน้าตนแบบหาเรื่อง ตนเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ แต่แม่ชีเพิ่งย้ายมาอยู่ได้เพียง 2-3 ปี กลับชอบใช้สายตาดูถูกตน โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนไปกินเหล้าและเล่นไฮโลกับเพื่อนเสียเงินจนหมดจึงเดินเข้าไปฉี่ในห้องน้ำข้างศาลาการเปรียญวัด ปรากฏว่าพบแม่ชีคู่อรินั่งซักผ้าหันหลังให้ตนอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ด้วยความหมั่นไส้ตนจึงปรี่เข้าไปใช้หน้าแข้งหวดเข้าที่ก้านคอ ใบหน้า และใช้หมัดชกต่อยไปหลายครั้งจนแม่ชีล้มฟุบหมดสติ ก่อนที่จะลากร่างไปทิ้งไว้หน้ากุฏิ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 3-4 เมตร แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อหลับพักผ่อนโดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ได้พาตัวนายปรีชา ฆาตกรแข้งโหดรายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านในละแวกนั้น โดยจุดแรกเป็นจุดที่นายปรีชาเดินเข้าไปปัสสาวะในห้องน้ำแล้วเห็นแม่ชีสนมนั่งซักผ้าอยู่ จุดที่สองเป็นจุดที่นายปรีชา ใช้หน้าแข้งเตะก้านคอแม่ชีสนมจากทางด้านหลัง ตามด้วยการใช้หมัดรัวใส่จนหมดสติ จุดที่สามเป็นจุดที่นายปรีชาลากศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้ากุฏิ และจุดสุดท้ายอยู่บริเวณหน้ากุฏิพระซึ่งห่างไปประมาณ 150 เมตร เป็นจุดที่นายปรีชาเปลี่ยนเสื้อและนอนพักอย่างสบายอารมณ์บนเตียงผ้าใบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายปรีชาไปสอบปากคำต่อที่โรงพักท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ด้านนายพิเชษฐ์ แข็งแรง อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่วัดให้การว่า ตนได้รับแจ้งจากพระในวัดว่าชีสนมถูกฆ่าตายเมื่อตอน 06.00 น. จากนั้นตนก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แล้วเห็นนายปรีชาทำทีเดินมาเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อพบหน้าตนนายปรีชาก็รีบหันหลังเดินกลับไปช่วยภรรยาเข็นรถขายน้ำมาจอดบริเวณหน้าวัด ซึ่งระหว่างนั้น ตนเห็นว่าที่กางเกงของนายปรีชามีคราบเลือดติดอยู่ด้วยเลยรีบแจ้งตำรวจให้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวน
จากคำให้การของนายปรีชา ตนไม่เชื่อว่าจะลงมือเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแม่ชีสนมพักอยู่ที่วัดนี้มาได้ 30 ปีแล้วแต่ไม่เคยยุ่งกับใคร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุก็น่าจะเกิดก่อน 03.00 น. เพราะมีผู้พบเห็นนายปรีชานำเงินแบงก์พันเปื้อนเลือดไปซื้อเหล้าดื่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน โดยเจ้าตัวอ้างว่าเงินเลอะเลือดประจำเดือนภรรยาอีกเช่นกัน
สำหรับแม่ชีสนม ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นอาของ พ.ต.ท.อำนวย น้อยประเทศ รอง ผกก.ปป.สน.พหลโยธิน เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามทาง พ.ต.ท.อำนวย ได้ให้ข้อมูลว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานแม่ชีสนมจริง ซึ่งแม่ชีสนม นั้นเป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด หลังจากที่คุณย่าตนเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีก่อน แม่ชีสนมก็ตัดสินใจบวชและไม่ยอมสึกอีกเลยส่วนเรื่องรายละเอียดทางคดีนั้นตนยังไม่ทราบอะไรมาก แต่ตอนนี้ได้ให้หลานเป็นผู้ไปประสานกับตำรวจ สน.บางพลัด เพื่อติดต่อขอรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว
มีรายงานว่า แม่ชีสนมเพิ่งจะได้เงินมาจากการขายที่ดินจำนวนหลายแสนบาท ทำให้มีผู้เข้าไปขอหยิบยืมเงินกันอยู่ประจำ ซึ่งนายปรีชาก็เพิ่งจะเล่นไฮโลเสียจนหมดตัวและอาจจะต้องการเงินไปซื้อเหล้าจึงเข้าไปขอยืมจากแม่ชี แต่เมื่อถูกปฏิเสธจึงลงมือทำร้ายจนเสียชีวิตก่อนรื้อค้นทรัพย์สินในกุฏิแล้วหลบหนีไปดังกล่าว
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น. ร.ต.ท.หญิงเพชรรัตน์ เลิศวานิช ร้อยเวร สน.บางพลัด ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพแม่ชีถูกฆ่าตายภายในวัดรวกบางบำหรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 (แยก 3) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้ากุฏิแม่ชี ใกล้กับห้องน้ำรวมด้านข้างศาลาการเปรียญของทางวัด พบศพ แม่ชีสนม น้อยประเทศ อายุ 68 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 6 ซอยเทอดไท 19 (วัดโพธิ์นิมิตร) แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. สภาพศพนอนสวมชุดแม่ชีสีขาว ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มีบาดแผลถูกทำร้ายเข้าที่เบ้าตาปูดทั้ง 2 ข้าง ศีรษะแตกกรามถูกกระแทกจนหัก ลิ้นจุกปาก แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 12 ชั่วโมง ส่วนภายในกุฏิของผู้ตายพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งว่าพบผู้ต้องสงสัยสวมกางเกงเปื้อนเลือดเดินวนเวียนอยู่ในวัด เจ้าหน้าที่จึงรีบไปควบคุมตัวมาสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีชา หรือ “เปี๊ยก” นิสงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.
นายปรีชาให้การในสภาพเมามายว่า พักอาศัยอยู่ในวัดนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันช่วยภรรยาขายน้ำดื่มอยู่ที่บริเวณหน้าวัด และขับรถแท็กซี่เป็นรายได้เสริม ส่วนคราบเลือดที่เลอะกางเกงนั้นเกิดจากการทะเลาะวิวาทกับภรรยาซึ่งอยู่ระหว่างมีรอบเดือนจึงมีคราบติดกางเกงออกมา จากนั้นฝ่ายสืบสวนได้สอบเค้นอย่างหนัก จนนายปรีชายอมรับเปิดปากรับสารภาพว่าตนเป็นคนฆ่าแม่ชีสนมเอง เนื่องจากหมั่นไส้ที่ชอบมองหน้าตนแบบหาเรื่อง ตนเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ แต่แม่ชีเพิ่งย้ายมาอยู่ได้เพียง 2-3 ปี กลับชอบใช้สายตาดูถูกตน โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนไปกินเหล้าและเล่นไฮโลกับเพื่อนเสียเงินจนหมดจึงเดินเข้าไปฉี่ในห้องน้ำข้างศาลาการเปรียญวัด ปรากฏว่าพบแม่ชีคู่อรินั่งซักผ้าหันหลังให้ตนอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ด้วยความหมั่นไส้ตนจึงปรี่เข้าไปใช้หน้าแข้งหวดเข้าที่ก้านคอ ใบหน้า และใช้หมัดชกต่อยไปหลายครั้งจนแม่ชีล้มฟุบหมดสติ ก่อนที่จะลากร่างไปทิ้งไว้หน้ากุฏิ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 3-4 เมตร แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อหลับพักผ่อนโดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ได้พาตัวนายปรีชา ฆาตกรแข้งโหดรายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านในละแวกนั้น โดยจุดแรกเป็นจุดที่นายปรีชาเดินเข้าไปปัสสาวะในห้องน้ำแล้วเห็นแม่ชีสนมนั่งซักผ้าอยู่ จุดที่สองเป็นจุดที่นายปรีชา ใช้หน้าแข้งเตะก้านคอแม่ชีสนมจากทางด้านหลัง ตามด้วยการใช้หมัดรัวใส่จนหมดสติ จุดที่สามเป็นจุดที่นายปรีชาลากศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้ากุฏิ และจุดสุดท้ายอยู่บริเวณหน้ากุฏิพระซึ่งห่างไปประมาณ 150 เมตร เป็นจุดที่นายปรีชาเปลี่ยนเสื้อและนอนพักอย่างสบายอารมณ์บนเตียงผ้าใบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายปรีชาไปสอบปากคำต่อที่โรงพักท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ด้านนายพิเชษฐ์ แข็งแรง อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่วัดให้การว่า ตนได้รับแจ้งจากพระในวัดว่าชีสนมถูกฆ่าตายเมื่อตอน 06.00 น. จากนั้นตนก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แล้วเห็นนายปรีชาทำทีเดินมาเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อพบหน้าตนนายปรีชาก็รีบหันหลังเดินกลับไปช่วยภรรยาเข็นรถขายน้ำมาจอดบริเวณหน้าวัด ซึ่งระหว่างนั้น ตนเห็นว่าที่กางเกงของนายปรีชามีคราบเลือดติดอยู่ด้วยเลยรีบแจ้งตำรวจให้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวน
จากคำให้การของนายปรีชา ตนไม่เชื่อว่าจะลงมือเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแม่ชีสนมพักอยู่ที่วัดนี้มาได้ 30 ปีแล้วแต่ไม่เคยยุ่งกับใคร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุก็น่าจะเกิดก่อน 03.00 น. เพราะมีผู้พบเห็นนายปรีชานำเงินแบงก์พันเปื้อนเลือดไปซื้อเหล้าดื่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน โดยเจ้าตัวอ้างว่าเงินเลอะเลือดประจำเดือนภรรยาอีกเช่นกัน
สำหรับแม่ชีสนม ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นอาของ พ.ต.ท.อำนวย น้อยประเทศ รอง ผกก.ปป.สน.พหลโยธิน เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามทาง พ.ต.ท.อำนวย ได้ให้ข้อมูลว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานแม่ชีสนมจริง ซึ่งแม่ชีสนม นั้นเป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด หลังจากที่คุณย่าตนเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีก่อน แม่ชีสนมก็ตัดสินใจบวชและไม่ยอมสึกอีกเลยส่วนเรื่องรายละเอียดทางคดีนั้นตนยังไม่ทราบอะไรมาก แต่ตอนนี้ได้ให้หลานเป็นผู้ไปประสานกับตำรวจ สน.บางพลัด เพื่อติดต่อขอรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว
มีรายงานว่า แม่ชีสนมเพิ่งจะได้เงินมาจากการขายที่ดินจำนวนหลายแสนบาท ทำให้มีผู้เข้าไปขอหยิบยืมเงินกันอยู่ประจำ ซึ่งนายปรีชาก็เพิ่งจะเล่นไฮโลเสียจนหมดตัวและอาจจะต้องการเงินไปซื้อเหล้าจึงเข้าไปขอยืมจากแม่ชี แต่เมื่อถูกปฏิเสธจึงลงมือทำร้ายจนเสียชีวิตก่อนรื้อค้นทรัพย์สินในกุฏิแล้วหลบหนีไปดังกล่าว