00..เว็บเอเอสทีวีผู้จัดการ ออนไลน์ WWW.MANAGER.CO.TH ยังเกาะติดสถานการณ์ มอนิเตอร์ข้อความ แสดงความคิดเห็นที่ประชาชนเข้ามาโพสต์ไว้ท้ายข่าวอาชญากรรม เพื่อเป็นสื่อกลางนำเผยแพร่ข้อติ ชม ส่งผ่านไปยังนายหัว "พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่จะโบกมือลาตำแหน่งเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ได้นำไปพิจารณาประกอบการบริหารงาน ปรับภาพลักษณ์องค์กร หรือทิ้งทวนผลงานส่งท้ายให้ประชาชนได้ชื่นใจกับการปราบปราบอาชญากรรมของตำรวจไทยได้บ้าง
ไปติดตามประเด็นข่าวเด็ดในรอบ 7 วัน ของสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน กันว่า ประชาชนเข้ามาแวะเวียนอ่านข่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นกันอย่างไร......พาดหัวข่าวแรก...กับ “ปะฉะดะ” จับหญิงค้าประเวณี! ริมถนนเพชรบุรีฯ โดยตำรวจมักกะสันได้ร่วมมือกับชุดจู่โจมปะฉะดะ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว เข้าปิดล้อมจับกุม 29 หญิงสาว อายุประมาณ 20-30 ปี ที่ยืดพื้นที่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่เรียกลูกค้าขายบริการทางเพศ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านละแวกนั้น......ขอปรบมืออีกครั้งกับผลงานชุด ปะ ฉะ ดะ ทุกรอบสัปดาห์ กับผลงานของนครบาลที่สร้างความฮือฮา....เป็นข่าวได้ตลอด ลองเข้าไปตรวจสอบข้อความแสดงความคิดเห็นกันต่อไปว่า....ประชาชนที่ให้ความสำคัญกับการอ่านข่าวให้ภาษีดีกรีการทำงานของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กันอย่างไรบ้าง......
"ปะฉะดะ กับแมงดา ภาพพจน์ตอนนี้ไม่รู้ใครจะดีกว่ากัน
""ผลงานยอดเยี่ยมของตำรวจไทย คือจับกะ..รี่ เสี่ยงชีวิตกันสุดๆ ชื่นชมจริงๆครับ สุดยอดตำรวจไทย"
"ค้าประเวณี กับ หมิ่นเบื้องสูง อันไหนสำคัญกว่าเนี่ย...จับได้แต่อีตัว แล้ว อีเพ็ญล่ะ...สงสัยคดีของ อีเพ็ญ มันเล็กกว่าค้าประเวณีมั้งเนี่ย หา ตำรวจไทย...
"งานที่ตำรวจไทยถนัดที่สุด ก็คงเป็นงานแบบนี้แหละไม่ต้องเหนื่อย แถมรีดไถ่เงินได้อีก จะเอาอะไรกับตำรวจไทยยุค พัชรวาท วงศ์สุวรรณ"
"ปะ ฉะ ดะ จับได้แต่น้องๆ นุ่งสั้น ไอ้พวกวิ่งราว งัดแงะ จี้ปล้น ข่มขืน ไม่เห็นมันจะกลัวตำรวจเลย ยิ่งพวกโจรใส่สูตร มันเขกหัวตำรวจเลยอยู่ทุกวัน"
"ทำไมไม่ไป ปะ ฉะ ดะ ที่ 3 จว. ใต้มั่งล่ะ"
"โห น่าภูมิใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับทุก ๆ ท่านแล้วพวกค้ายา หัวโขมยขึ้นบ้าน ทุบรถ และอื่นๆ..พวกตำรวจเองที่เลวๆ รับส่วย รีดไถ..ไม่เห็นพวกท่านทำอะไรได้ ขำมากๆๆๆๆๆๆ"
"ปะ ฉะ ดะ ที่ตั้งขึ้นมานี้เพื่อทำงานอย่างนี้เหรอ ? เปลืองเงินภาษีจริงๆทำไม ไม่ไปตรวจพวกเด็กดมกาวตรงใต้ทางด่วน ใต้สะพาน งานที่มันอันตรายๆ หน่อยนะ"
""รู้มั๊ย ว่าตำรวจเขาถึงจับ ก็เพราะว่าพวกหนูๆ ไม่มีสังกัดไงค่ะ ถ้าหนูมีสังกัด เขาก็จะไม่จับ เพราะดูแลง่าย พอชนเดือนหัวหน้าหนูก็จะเป็นคนจ่ายค่าส่วยให้ แต่ถ้าหนูบินเดียวแล้วตำรวจที่ไหนจะตามไปเก็บทันจะจ๊ะ"
"ช่วยทำผลงานแมนกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ...แล้วค่อยมาออกข่าว....เดี๋ยวก็มีคดีจับแม่ค้า หาบเร่แผงลอย..ขายพวงมาลัย"
"งานหลักของพี่ท่านก็คือ รับใช้ทรราช แล้วก็คุมบ่อน-ซ่อง ค้ายา หัวหน้าซุ้มมือปืน ยามว่างท่านก็จับมอไซ-แท๊กซี่-ตั้งด่าน เฝ้าร้านทอง สมศักดิ์ศรีจริงๆท่านพี่ ข้าน้อยขอคารวะ"
00...ช็อตเด็ดข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.....ช็อก! "เดวิด คาร์ราดีน" ดาราฮอลลีวูดรุ่นเก๋าฆ่าตัวตายในไทย รายละเอียดของข่าวชี้แจงว่า "เดวิด คาร์ราดีน" นักแสดงชื่อดังรุ่นใหญ่แห่งวงการฮอลลีวูดเสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 352 โรงแรมปาร์กนายเลิศ ถนนวิทยุเหนือ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.จากการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พบศพนายเดวิด คาร์ราดิน (Mr.Davic Carradine) อายุ 73 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นดารานักแสดงหนังกังฟูชื่อดังของฮอลลีวูด สภาพศพเปลือยกายนั่งอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่ลำคอมีเชือกสีเหลืองผูกรัดติดกับราวเหล็กภายในตู้....มีเชือกสีดำผูกต่อกับเชือกเส้นสีเหลืองไปรัดที่บริเวณปลายองคชาติกับถุงอัณฑะของผู้ตายอีกชั้นหนึ่ง ส่วนมือทั้งสองข้างพาดอยู่บนราว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ทรัพย์สินอยู่ครบ....
ต่อมาพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชี้ “เดวิด คาร์ราดีน” ตาย เพราะช่วยตัวเองแบบวิตถาร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลักษณะการตายเข้าข่ายออโต้อีโรติก สำเร็จความใคร่จนไม่รู้สึกตัวว่าเชือกรัดคอ ระบุข้อสันนิษฐานเป็นเพียงการประมวลตามหลักวิชากการทางนิติวิทยาศาสตร์....ประชาชนแสดงความคิดเห็น...ต่อเรื่องนี้ว่า....
"แนะนำให้ผู้จัดการลบข่าวนี้ออกถ้าไม่อยากตกเป็นจำเลยร่วมกับคุณหญิง งานนี้ให้ไทยรัฐ กับ พรทิพย์ โดนฟ้องคนละพันล้านก็พอ"
"โปรดใช้วิจารณญาณ ในการแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนี้ อย่าเอาการเสียชีวิตของผู้อื่น มาพูดคุยกันอย่างไม่ระมัดระวัง"
"คุณหญิงหมอ สรุปทางวิชาการอยู่ในเอกสารได้ แต่ไม่ควรมาออกข่าวเช่นนี้ คุณหญิงหมอเป็นแบบนี้เอง คือไม่ค่อยมีเบรก เวลาที่ถือว่าถูกต้องตามวิชาการ แต่
ไม่ค่อยพิจารณาผลกระทบ คุณหญิงหมอทำตัวคล้ายเครื่องคิดเลข"
"ออโต้อีโรติกศัพท์แบบทางการคือ Erotic asphyxiation คือการบรรลุจุดสุดยอดทางเพศโดยการทำให้สมองขาดออกซิเจนเป็นภาวะชั่วคราว ซึ่งจัดเป็นกามวิตถาร (Paraphilia) ชนิดหนึ่งตาม DSM-IVอัตราการตายใน USA จากวิธีดังกล่าวอยู่ที่ 250-10000 รายต่อปีค่ะ"
"โปรดใช้วิจารณญาณในการรับอ่านและออกความคิดเห็น มิฉะนั้นเข้าข่ายหมิ่นประมาทจะบอกให้"
00...ถัดจากวันเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน....พาดหัว....ผกก.ลุมพินี ยันครึ่งเดือนรู้สาเหตุ “เดวิด คาร์ราดีน” เสียชีวิต พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี เผยว่าตอนนี้กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนการตรวจหาสารพิษในร่างกายของผู้ตายนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ รวมแล้วราวๆ ประมาณครึ่งเดือน หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำผลการตรวจที่ได้มาประชุม เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิตหรือไม่......ประชาชนที่เฝ้าตามติดกับเรื่องนี้ ได้แสดงความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจ และไม่ค่อยเชื่อมั่นตำรวจไทย....ว่า
" ผมว่าครึ่งปีมากกว่า"
"ราคาคุยตำรวจไทย"
"ตั้งครึ่งเดือน ทำไมช้าจัง?"
"ที่บ้านเรียก ขี้โม้"
"ครึ่งเดือนรอให้ศพเน่าก่อน แล้วสืบจากหนอนที่ขึ้นในศพ"
"คดีลอบยิงคุณสนธิบอก 7 วัน ป่านนี้ยังไม่มีวี่แวว แล้วนับปะสาอะไรกับครึ่งเดือน คงรอไปชาติกว่า"
"ทั้งปี คดีคุณสนธิก็เดือน แล้วจะเอาอีกกี่เดือน หรือกี่ชาติดี"
00...เพื่อคอข่าวอาชญากรรม WWW.MANAGER.CO.TH ได้สแกนคัดเลือกความคิดเห็นที่บ่งชี้สะท้อนฝีมือการกวาดล้างปัญหาอาชญากรรมของตำรวจไทย....ที่สำคัญยังไม่หมดเพียงแค่นี้.....ทีมข่าวอาชญากรรม ได้แกะ เกากันไปที่พาดหัว "พบระเบิดหลากชนิดอานุภาพทำลายล้างสูง ซุกในหอพักกลางกรุง!" เนื้อหาข่าวแถลงไขว่า ตำรวจสน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งพบวัตถุระเบิดร้ายแรงมีอานุภาพทำลายล้างสูง ถูกคนร้ายซุกซ่อนในช่องเก็บของใต้บันไดหอพักของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก.....ตรวจพบระเบิดชนิด M-26 (USA) จำนวน 2 ลูก ระเบิด M-26 A2 (อิสราเอล) จำนวน 1 ลูก และระเบิด M-61 (USA) อีกจำนวน 1 ลูก ระะเบิดซีโฟร์ จำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก 1 1/4 ปอนด์ ฝักแคระเบิดสีขาว ยาว 184 เซนติเมตร และฝักแคทางทหารสีเขียว ยาว 2.55 เมตร.......นักท่องโลกอินเตอร์เน็ตอ่านข่าวแล้ววิเคราะห์ตามเนื้อหาข่าวกันว่ายังไง.....เราไปตีแผ่แสดงความคิดเห็นที่คนกระหน่ำโพสต์เข้ามากันหลากหลาย...ว่า....
"ซุกเอง เจอเอง ได้ผลงาน ..."
"ทำไม อาวุธสงครามหาง่ายจังทหารลักเอามาขายหรือปล่าว"
"โหย ตำรวจพวกนี้ทำลายหลักฐาน ลายนิ้วมือ หมดเลยกลัวไม่ได้หน้าหรือไงโผล่ไปหยิบซะแบบนั้นถุงมืออะมีใส่ทำไมไม่ใส่หรือว่าตั้งใจทำลายหลักฐานอยู่แล้ว"
"น่ากลัวอะ ที่นี่กรุงเทพ หรือ อิรัก.... เอามาทำอะไรในกรุงเทพ"
"คนร้ายโง่มากดันซุกไว้ในที่ไม่ปลอดภัย มันน่าจะไปซุกไว้ที่บ้านไอ้เหลี่ยมซึ่งปลอดภัยกว่ามาก โง่จริงจริง"
00...เชื่อไม่เชื่อ ประชาชนสบถผ่านความคิดเห็น กับพาดหัว.....อัยการเชื่อ “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อเดินทางไม่ส่งผลการตามตัว ถั่วเฉลี่ยข้อคิดเห็นเป็นไปในทางเดียวกัน กับการไม่เชื่อฝีมือตำรวจของไทย รายละเอียดข่าวบอกว่า "ศิริศักดิ์ ติยะพรรณ" อธิบดีอัยการต่างประเทศ ยัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีโทษจำคุกในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการประสานติดตามตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิการากัว ซึ่งเป็นถิ่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ เพราะตามหลักการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะดูที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญไม่ได้ดูเพียงชื่อในหนังสือเดินทาง.......ประชาชนที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว รับรู้ข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าที่สุดอืดกับการติดตามไล่ล่าจับกุม "นช.ทักษิณ" มาดำเนินคดี ได้แสดงความคิดเห็น....ว่า.....
"ถ้าอัยการ"เชื่อ" ประชาชนทุกๆคน "อย่าไปเชื่อ" เพราะอัยการชุดนี้ ชอบทำอะไรสวนทางกับความเป็นจริง"
"เชื่อว่าอัยการไม่มีน้ำยา เอ๊ยไม่ใช่ ไม่สามารถต่างหาก"
"ประสิทธิภาพในการทำงานติดตามไอ้ขี้โกงมาติดคุก ของผู้มีหน้าที่ทั้งหมดทุกฝ่ายของไทยห่วยแตกสุดๆ กินเงินเดือนเปลืองภาษีประชาชนเสียเปล่า พอมี
"เรื่องทีก็อ้างสารพัด มันทั้งกลัว ทั้งเกรงใจนักโทษยิ่งกว่าเกรงใจประชาชนผู้ให้เงินเดือนมันกินยาไส้"
"อัยการต่างประเทศ ยัน “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อไม่เป็นอุปสรรคในการติดตามตัว "....แล้วเมื่อไหร่จะเอาตัวมันมาได้ซะที.......พศ นี้ อัยการ เชื่อถือได้แค่ไหน....โปรดแสดงให้ประชาชน ชื่นชมและเชื่อมั่น..."
"เสียดายภาษีว่ะ เมิงลาออกไปขายกล้วยทอดมันทอดเหอะไม่คิดจะจับมันก็บอกมาตรงๆ อย่ามาให้ข่าวโง่ๆคนไทยกินข้าวว่ะ
"ขนาดชื่อเดิม ๆ ยังไม่มีปัญหาเอาตัวมาได้ ดันมาคุยว่าเปลี่ยนชื่อไม่ส่งผลในการตามตัว แหวะ...."
"หัดไปดูการทำงานของอัยการญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บ้าง หรือ ถ้าทำไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพ ก็ลาออกไปซะ
00...ขอแถมท้ายกับข่าว....ห้องขัง ป.เฮี้ยนไม่เลิก! อาจารย์ขืนใจศิษย์ผูกคอฆ่าตัวเป็นรายที่ 3! เนื้อหาของข่าวบอกถึง เหตุนายศักดิ์ชัย อุตตะละ อายุ 50 ปี อาจารย์ 3 ระดับ 8 ผู้ต้องหาข่มขืนลูกศิษย์ที่เพิ่งถูกจับกุมมา ใช้กางเกงผูกคอตายภายในห้องขังของกองปราบปราม ดีที่สิบเวรเห็นก่อน กว่าจะเข้าไปช่วยได้ อาการก็โคม่า โดยที่ผ่านมาพ่อของเด็กไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ แต่ทั้งโรงพักไม่ยอมรับแจ้งความดำเนินคดีในเบื้องต้น จน ปดส.ไปจับกุมตัวผู้ต้องหามา และนับเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 ที่พยายามผูกคอตายในห้องขังกองปราบ ที่ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาในห้องขังดังกล่าว เคยบอกว่ามีวิญญาณร้ายมาเพ่นพ่าน จนผู้การกองปราบฯต้องนิมนต์พระมาทำพิธีไล่ผี......ประชาชนกว่า 4 หมื่นคนเข้ามาอ่านข่าวได้แจ้งผ่านเว็บถึงบทบาทหน้าที่ตำรวจไทย โดยวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น...ว่า...
"ไม่มีกล้องวงจรปิดในห้องขังหรืออย่างไร อย่าบอกนะว่าจะละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง ถ้าอ้างว่าไม่มีงบ ก้อไม่ต้องซื้อ แพงก็ได้ ใช้ webcam ต่อกับคอม ลากสายยาวๆ แล้วให้สิบเวรคอยดูตอนเล่น msn"
"แล้วตำรวจที่ไม่รับแจ้งความ ไม่มีความผิดเลยหรือค่ะ หรือตำรวจ ทำอะไรก้อไม่ผิด"
"ตำรวจไม่รับแจ้งความ ทั้ง ๆ ที่เป็นคดีที่เป็นภัยต่อสังคมแล้วจะให้เชื่อว่าตำรวจดีได้งัย ตำรวจไทย"
"ที่น่ากลัวกว่า "ผี" คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" นี่แหละ และสิ่งที่น่ากลัวกว่า"คน"คือ"คนที่เป็นตำรวจ"
"เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ แต่รับเงินเดือน"
"ดีค่ะ วันหลังจับผู้ร้ายคดีข่มขืนมาขังไว้ที่นี่อีกนะคะ (กฎหมายอ่อนไป... ให้ผีลงโทษแทน)"
สุดแท้!! แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะหยิบยกประเด็นความคิดเห็นใด ที่ประชาชนได้แสดงความจริงใจโพสต์ข้อความผ่านเว็บเอเอสทีวี ผู้จัดการ ออนไลน์ เพื่อเป็นสื่อกลางบอกกล่าวผ่านให้ตำรวจไทย...เร่งฟื้นฟูภาพพจน์องค์กร.....จริงใจกวาดล้างปราบปรามปัญหาอาชญากรรม....และในเบื้องต้นเป็นเพียงบางข้อความที่อาจจะทำให้ตำรวจไทยตื่นตัว หรือจะรู้สึกเพียงแสบ ๆ คัน ๆ หากพิจารณากันดูดี ๆ จะเห็นได้ว่าประชาชนร้อยละ 99.99 เข้ามาอ่านข่าวในต่างที่ ต่างถิ่น ต่างมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง แต่ได้แสดงข้อความคิดเห็นที่มีเนื้อหาสอดคล้อง....มีความหมายที่จะสื่อถึงการทำงานของตำรวจคล้ายคลึงกันราวกับประชาชได้นัดกันไว้! หรือการทำงานของตำรวจไม่ได้มาตรฐานกันแน่...ลองเบิ่งตา...กันดูแล้วกันว่าความทันสมัยของการเข้าจับกุมคนร้ายประเทศอื่นไปถึงไหนแล้ว.......นำมาดัดแปลงใช้ให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทยให้ทำงานเป็นแบบสากล...เป็นที่ยอมรับของประชาชนในประเทศ....อุ่นใจกับชาวโลกที่เข้ามาทำธุรกิจ...ท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ.....หรือจะเป็นตำรวจบ่อท่า ต้องเคาะสนิมหาผลงาน...ก็เลือกเอา...
ชีวิต?? ที่ตามด้วยคำว่า "บัดซบ" กับภัยร้ายใกล้ตัว!
พาดหัวข่าวเด่น! แจ้งเบาะแสจับโจรกับ “คดีเด็ด 7 วัน”
ไปติดตามประเด็นข่าวเด็ดในรอบ 7 วัน ของสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน กันว่า ประชาชนเข้ามาแวะเวียนอ่านข่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นกันอย่างไร......พาดหัวข่าวแรก...กับ “ปะฉะดะ” จับหญิงค้าประเวณี! ริมถนนเพชรบุรีฯ โดยตำรวจมักกะสันได้ร่วมมือกับชุดจู่โจมปะฉะดะ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว เข้าปิดล้อมจับกุม 29 หญิงสาว อายุประมาณ 20-30 ปี ที่ยืดพื้นที่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่เรียกลูกค้าขายบริการทางเพศ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านละแวกนั้น......ขอปรบมืออีกครั้งกับผลงานชุด ปะ ฉะ ดะ ทุกรอบสัปดาห์ กับผลงานของนครบาลที่สร้างความฮือฮา....เป็นข่าวได้ตลอด ลองเข้าไปตรวจสอบข้อความแสดงความคิดเห็นกันต่อไปว่า....ประชาชนที่ให้ความสำคัญกับการอ่านข่าวให้ภาษีดีกรีการทำงานของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กันอย่างไรบ้าง......
"ปะฉะดะ กับแมงดา ภาพพจน์ตอนนี้ไม่รู้ใครจะดีกว่ากัน
""ผลงานยอดเยี่ยมของตำรวจไทย คือจับกะ..รี่ เสี่ยงชีวิตกันสุดๆ ชื่นชมจริงๆครับ สุดยอดตำรวจไทย"
"ค้าประเวณี กับ หมิ่นเบื้องสูง อันไหนสำคัญกว่าเนี่ย...จับได้แต่อีตัว แล้ว อีเพ็ญล่ะ...สงสัยคดีของ อีเพ็ญ มันเล็กกว่าค้าประเวณีมั้งเนี่ย หา ตำรวจไทย...
"งานที่ตำรวจไทยถนัดที่สุด ก็คงเป็นงานแบบนี้แหละไม่ต้องเหนื่อย แถมรีดไถ่เงินได้อีก จะเอาอะไรกับตำรวจไทยยุค พัชรวาท วงศ์สุวรรณ"
"ปะ ฉะ ดะ จับได้แต่น้องๆ นุ่งสั้น ไอ้พวกวิ่งราว งัดแงะ จี้ปล้น ข่มขืน ไม่เห็นมันจะกลัวตำรวจเลย ยิ่งพวกโจรใส่สูตร มันเขกหัวตำรวจเลยอยู่ทุกวัน"
"ทำไมไม่ไป ปะ ฉะ ดะ ที่ 3 จว. ใต้มั่งล่ะ"
"โห น่าภูมิใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับทุก ๆ ท่านแล้วพวกค้ายา หัวโขมยขึ้นบ้าน ทุบรถ และอื่นๆ..พวกตำรวจเองที่เลวๆ รับส่วย รีดไถ..ไม่เห็นพวกท่านทำอะไรได้ ขำมากๆๆๆๆๆๆ"
"ปะ ฉะ ดะ ที่ตั้งขึ้นมานี้เพื่อทำงานอย่างนี้เหรอ ? เปลืองเงินภาษีจริงๆทำไม ไม่ไปตรวจพวกเด็กดมกาวตรงใต้ทางด่วน ใต้สะพาน งานที่มันอันตรายๆ หน่อยนะ"
""รู้มั๊ย ว่าตำรวจเขาถึงจับ ก็เพราะว่าพวกหนูๆ ไม่มีสังกัดไงค่ะ ถ้าหนูมีสังกัด เขาก็จะไม่จับ เพราะดูแลง่าย พอชนเดือนหัวหน้าหนูก็จะเป็นคนจ่ายค่าส่วยให้ แต่ถ้าหนูบินเดียวแล้วตำรวจที่ไหนจะตามไปเก็บทันจะจ๊ะ"
"ช่วยทำผลงานแมนกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ...แล้วค่อยมาออกข่าว....เดี๋ยวก็มีคดีจับแม่ค้า หาบเร่แผงลอย..ขายพวงมาลัย"
"งานหลักของพี่ท่านก็คือ รับใช้ทรราช แล้วก็คุมบ่อน-ซ่อง ค้ายา หัวหน้าซุ้มมือปืน ยามว่างท่านก็จับมอไซ-แท๊กซี่-ตั้งด่าน เฝ้าร้านทอง สมศักดิ์ศรีจริงๆท่านพี่ ข้าน้อยขอคารวะ"
00...ช็อตเด็ดข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.....ช็อก! "เดวิด คาร์ราดีน" ดาราฮอลลีวูดรุ่นเก๋าฆ่าตัวตายในไทย รายละเอียดของข่าวชี้แจงว่า "เดวิด คาร์ราดีน" นักแสดงชื่อดังรุ่นใหญ่แห่งวงการฮอลลีวูดเสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 352 โรงแรมปาร์กนายเลิศ ถนนวิทยุเหนือ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.จากการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พบศพนายเดวิด คาร์ราดิน (Mr.Davic Carradine) อายุ 73 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นดารานักแสดงหนังกังฟูชื่อดังของฮอลลีวูด สภาพศพเปลือยกายนั่งอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่ลำคอมีเชือกสีเหลืองผูกรัดติดกับราวเหล็กภายในตู้....มีเชือกสีดำผูกต่อกับเชือกเส้นสีเหลืองไปรัดที่บริเวณปลายองคชาติกับถุงอัณฑะของผู้ตายอีกชั้นหนึ่ง ส่วนมือทั้งสองข้างพาดอยู่บนราว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ทรัพย์สินอยู่ครบ....
ต่อมาพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชี้ “เดวิด คาร์ราดีน” ตาย เพราะช่วยตัวเองแบบวิตถาร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลักษณะการตายเข้าข่ายออโต้อีโรติก สำเร็จความใคร่จนไม่รู้สึกตัวว่าเชือกรัดคอ ระบุข้อสันนิษฐานเป็นเพียงการประมวลตามหลักวิชากการทางนิติวิทยาศาสตร์....ประชาชนแสดงความคิดเห็น...ต่อเรื่องนี้ว่า....
"แนะนำให้ผู้จัดการลบข่าวนี้ออกถ้าไม่อยากตกเป็นจำเลยร่วมกับคุณหญิง งานนี้ให้ไทยรัฐ กับ พรทิพย์ โดนฟ้องคนละพันล้านก็พอ"
"โปรดใช้วิจารณญาณ ในการแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนี้ อย่าเอาการเสียชีวิตของผู้อื่น มาพูดคุยกันอย่างไม่ระมัดระวัง"
"คุณหญิงหมอ สรุปทางวิชาการอยู่ในเอกสารได้ แต่ไม่ควรมาออกข่าวเช่นนี้ คุณหญิงหมอเป็นแบบนี้เอง คือไม่ค่อยมีเบรก เวลาที่ถือว่าถูกต้องตามวิชาการ แต่
ไม่ค่อยพิจารณาผลกระทบ คุณหญิงหมอทำตัวคล้ายเครื่องคิดเลข"
"ออโต้อีโรติกศัพท์แบบทางการคือ Erotic asphyxiation คือการบรรลุจุดสุดยอดทางเพศโดยการทำให้สมองขาดออกซิเจนเป็นภาวะชั่วคราว ซึ่งจัดเป็นกามวิตถาร (Paraphilia) ชนิดหนึ่งตาม DSM-IVอัตราการตายใน USA จากวิธีดังกล่าวอยู่ที่ 250-10000 รายต่อปีค่ะ"
"โปรดใช้วิจารณญาณในการรับอ่านและออกความคิดเห็น มิฉะนั้นเข้าข่ายหมิ่นประมาทจะบอกให้"
00...ถัดจากวันเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน....พาดหัว....ผกก.ลุมพินี ยันครึ่งเดือนรู้สาเหตุ “เดวิด คาร์ราดีน” เสียชีวิต พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี เผยว่าตอนนี้กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนการตรวจหาสารพิษในร่างกายของผู้ตายนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ รวมแล้วราวๆ ประมาณครึ่งเดือน หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำผลการตรวจที่ได้มาประชุม เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิตหรือไม่......ประชาชนที่เฝ้าตามติดกับเรื่องนี้ ได้แสดงความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจ และไม่ค่อยเชื่อมั่นตำรวจไทย....ว่า
" ผมว่าครึ่งปีมากกว่า"
"ราคาคุยตำรวจไทย"
"ตั้งครึ่งเดือน ทำไมช้าจัง?"
"ที่บ้านเรียก ขี้โม้"
"ครึ่งเดือนรอให้ศพเน่าก่อน แล้วสืบจากหนอนที่ขึ้นในศพ"
"คดีลอบยิงคุณสนธิบอก 7 วัน ป่านนี้ยังไม่มีวี่แวว แล้วนับปะสาอะไรกับครึ่งเดือน คงรอไปชาติกว่า"
"ทั้งปี คดีคุณสนธิก็เดือน แล้วจะเอาอีกกี่เดือน หรือกี่ชาติดี"
00...เพื่อคอข่าวอาชญากรรม WWW.MANAGER.CO.TH ได้สแกนคัดเลือกความคิดเห็นที่บ่งชี้สะท้อนฝีมือการกวาดล้างปัญหาอาชญากรรมของตำรวจไทย....ที่สำคัญยังไม่หมดเพียงแค่นี้.....ทีมข่าวอาชญากรรม ได้แกะ เกากันไปที่พาดหัว "พบระเบิดหลากชนิดอานุภาพทำลายล้างสูง ซุกในหอพักกลางกรุง!" เนื้อหาข่าวแถลงไขว่า ตำรวจสน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งพบวัตถุระเบิดร้ายแรงมีอานุภาพทำลายล้างสูง ถูกคนร้ายซุกซ่อนในช่องเก็บของใต้บันไดหอพักของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก.....ตรวจพบระเบิดชนิด M-26 (USA) จำนวน 2 ลูก ระเบิด M-26 A2 (อิสราเอล) จำนวน 1 ลูก และระเบิด M-61 (USA) อีกจำนวน 1 ลูก ระะเบิดซีโฟร์ จำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก 1 1/4 ปอนด์ ฝักแคระเบิดสีขาว ยาว 184 เซนติเมตร และฝักแคทางทหารสีเขียว ยาว 2.55 เมตร.......นักท่องโลกอินเตอร์เน็ตอ่านข่าวแล้ววิเคราะห์ตามเนื้อหาข่าวกันว่ายังไง.....เราไปตีแผ่แสดงความคิดเห็นที่คนกระหน่ำโพสต์เข้ามากันหลากหลาย...ว่า....
"ซุกเอง เจอเอง ได้ผลงาน ..."
"ทำไม อาวุธสงครามหาง่ายจังทหารลักเอามาขายหรือปล่าว"
"โหย ตำรวจพวกนี้ทำลายหลักฐาน ลายนิ้วมือ หมดเลยกลัวไม่ได้หน้าหรือไงโผล่ไปหยิบซะแบบนั้นถุงมืออะมีใส่ทำไมไม่ใส่หรือว่าตั้งใจทำลายหลักฐานอยู่แล้ว"
"น่ากลัวอะ ที่นี่กรุงเทพ หรือ อิรัก.... เอามาทำอะไรในกรุงเทพ"
"คนร้ายโง่มากดันซุกไว้ในที่ไม่ปลอดภัย มันน่าจะไปซุกไว้ที่บ้านไอ้เหลี่ยมซึ่งปลอดภัยกว่ามาก โง่จริงจริง"
00...เชื่อไม่เชื่อ ประชาชนสบถผ่านความคิดเห็น กับพาดหัว.....อัยการเชื่อ “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อเดินทางไม่ส่งผลการตามตัว ถั่วเฉลี่ยข้อคิดเห็นเป็นไปในทางเดียวกัน กับการไม่เชื่อฝีมือตำรวจของไทย รายละเอียดข่าวบอกว่า "ศิริศักดิ์ ติยะพรรณ" อธิบดีอัยการต่างประเทศ ยัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีโทษจำคุกในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการประสานติดตามตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิการากัว ซึ่งเป็นถิ่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ เพราะตามหลักการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะดูที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญไม่ได้ดูเพียงชื่อในหนังสือเดินทาง.......ประชาชนที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว รับรู้ข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าที่สุดอืดกับการติดตามไล่ล่าจับกุม "นช.ทักษิณ" มาดำเนินคดี ได้แสดงความคิดเห็น....ว่า.....
"ถ้าอัยการ"เชื่อ" ประชาชนทุกๆคน "อย่าไปเชื่อ" เพราะอัยการชุดนี้ ชอบทำอะไรสวนทางกับความเป็นจริง"
"เชื่อว่าอัยการไม่มีน้ำยา เอ๊ยไม่ใช่ ไม่สามารถต่างหาก"
"ประสิทธิภาพในการทำงานติดตามไอ้ขี้โกงมาติดคุก ของผู้มีหน้าที่ทั้งหมดทุกฝ่ายของไทยห่วยแตกสุดๆ กินเงินเดือนเปลืองภาษีประชาชนเสียเปล่า พอมี
"เรื่องทีก็อ้างสารพัด มันทั้งกลัว ทั้งเกรงใจนักโทษยิ่งกว่าเกรงใจประชาชนผู้ให้เงินเดือนมันกินยาไส้"
"อัยการต่างประเทศ ยัน “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อไม่เป็นอุปสรรคในการติดตามตัว "....แล้วเมื่อไหร่จะเอาตัวมันมาได้ซะที.......พศ นี้ อัยการ เชื่อถือได้แค่ไหน....โปรดแสดงให้ประชาชน ชื่นชมและเชื่อมั่น..."
"เสียดายภาษีว่ะ เมิงลาออกไปขายกล้วยทอดมันทอดเหอะไม่คิดจะจับมันก็บอกมาตรงๆ อย่ามาให้ข่าวโง่ๆคนไทยกินข้าวว่ะ
"ขนาดชื่อเดิม ๆ ยังไม่มีปัญหาเอาตัวมาได้ ดันมาคุยว่าเปลี่ยนชื่อไม่ส่งผลในการตามตัว แหวะ...."
"หัดไปดูการทำงานของอัยการญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บ้าง หรือ ถ้าทำไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพ ก็ลาออกไปซะ
00...ขอแถมท้ายกับข่าว....ห้องขัง ป.เฮี้ยนไม่เลิก! อาจารย์ขืนใจศิษย์ผูกคอฆ่าตัวเป็นรายที่ 3! เนื้อหาของข่าวบอกถึง เหตุนายศักดิ์ชัย อุตตะละ อายุ 50 ปี อาจารย์ 3 ระดับ 8 ผู้ต้องหาข่มขืนลูกศิษย์ที่เพิ่งถูกจับกุมมา ใช้กางเกงผูกคอตายภายในห้องขังของกองปราบปราม ดีที่สิบเวรเห็นก่อน กว่าจะเข้าไปช่วยได้ อาการก็โคม่า โดยที่ผ่านมาพ่อของเด็กไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ แต่ทั้งโรงพักไม่ยอมรับแจ้งความดำเนินคดีในเบื้องต้น จน ปดส.ไปจับกุมตัวผู้ต้องหามา และนับเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 ที่พยายามผูกคอตายในห้องขังกองปราบ ที่ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาในห้องขังดังกล่าว เคยบอกว่ามีวิญญาณร้ายมาเพ่นพ่าน จนผู้การกองปราบฯต้องนิมนต์พระมาทำพิธีไล่ผี......ประชาชนกว่า 4 หมื่นคนเข้ามาอ่านข่าวได้แจ้งผ่านเว็บถึงบทบาทหน้าที่ตำรวจไทย โดยวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น...ว่า...
"ไม่มีกล้องวงจรปิดในห้องขังหรืออย่างไร อย่าบอกนะว่าจะละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง ถ้าอ้างว่าไม่มีงบ ก้อไม่ต้องซื้อ แพงก็ได้ ใช้ webcam ต่อกับคอม ลากสายยาวๆ แล้วให้สิบเวรคอยดูตอนเล่น msn"
"แล้วตำรวจที่ไม่รับแจ้งความ ไม่มีความผิดเลยหรือค่ะ หรือตำรวจ ทำอะไรก้อไม่ผิด"
"ตำรวจไม่รับแจ้งความ ทั้ง ๆ ที่เป็นคดีที่เป็นภัยต่อสังคมแล้วจะให้เชื่อว่าตำรวจดีได้งัย ตำรวจไทย"
"ที่น่ากลัวกว่า "ผี" คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" นี่แหละ และสิ่งที่น่ากลัวกว่า"คน"คือ"คนที่เป็นตำรวจ"
"เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ แต่รับเงินเดือน"
"ดีค่ะ วันหลังจับผู้ร้ายคดีข่มขืนมาขังไว้ที่นี่อีกนะคะ (กฎหมายอ่อนไป... ให้ผีลงโทษแทน)"
สุดแท้!! แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะหยิบยกประเด็นความคิดเห็นใด ที่ประชาชนได้แสดงความจริงใจโพสต์ข้อความผ่านเว็บเอเอสทีวี ผู้จัดการ ออนไลน์ เพื่อเป็นสื่อกลางบอกกล่าวผ่านให้ตำรวจไทย...เร่งฟื้นฟูภาพพจน์องค์กร.....จริงใจกวาดล้างปราบปรามปัญหาอาชญากรรม....และในเบื้องต้นเป็นเพียงบางข้อความที่อาจจะทำให้ตำรวจไทยตื่นตัว หรือจะรู้สึกเพียงแสบ ๆ คัน ๆ หากพิจารณากันดูดี ๆ จะเห็นได้ว่าประชาชนร้อยละ 99.99 เข้ามาอ่านข่าวในต่างที่ ต่างถิ่น ต่างมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง แต่ได้แสดงข้อความคิดเห็นที่มีเนื้อหาสอดคล้อง....มีความหมายที่จะสื่อถึงการทำงานของตำรวจคล้ายคลึงกันราวกับประชาชได้นัดกันไว้! หรือการทำงานของตำรวจไม่ได้มาตรฐานกันแน่...ลองเบิ่งตา...กันดูแล้วกันว่าความทันสมัยของการเข้าจับกุมคนร้ายประเทศอื่นไปถึงไหนแล้ว.......นำมาดัดแปลงใช้ให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทยให้ทำงานเป็นแบบสากล...เป็นที่ยอมรับของประชาชนในประเทศ....อุ่นใจกับชาวโลกที่เข้ามาทำธุรกิจ...ท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ.....หรือจะเป็นตำรวจบ่อท่า ต้องเคาะสนิมหาผลงาน...ก็เลือกเอา...
ชีวิต?? ที่ตามด้วยคำว่า "บัดซบ" กับภัยร้ายใกล้ตัว!
พาดหัวข่าวเด่น! แจ้งเบาะแสจับโจรกับ “คดีเด็ด 7 วัน”