แจ้งจับ กกต.ปล่อย “เนวิน-ทักษิณ” ยุ่งการเมือง

“บรรณวิทย์-ไชยวัฒน์” ควงขึ้นโรงพัก แจ้งจับ กกต. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อย “เนวิน” ยุ่งเกี่ยวการเมือง จัดกิจกรรมสนับสนุนเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร

วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

นายไชยวัฒน์เปิดเผยว่า ที่เดินทางเข้ามาแจ้งความในวันนี้ก็สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ทำให้มีนักการเมืองถูกตัดสิทธิไปหลายคน แต่ก็ยังมีนักการเมืองบางคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปจับมือกับนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งล่าสุดนายเนวินได้ไปจัดกิจกรรมสนับสนุนการเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร มีการนำคณะรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยไปร่วมด้วยหรือกรณีพรรคเพื่อไทยที่แปลงร่างมาจากพลังประชาชน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงนั้น

นายไชยวัฒน์กล่าวต่อว่า ทางสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยมีการพิจารณาสรุปพฤติกรรมต่างกรรมต่างวาระกันแล้วมีความเห็นโดยสุจริตใจว่า กลุ่มบุคคลทั้งสองกลุ่มการเมืองที่ถูกตัดสิทธิไปนั้น ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงถือว่า กกต.นั้นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ประพฤติมิชอบตามอำนาจหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่ ตามกฎหมายการเลือกตั้งและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทางสมัชชาฯ ในฐานะประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย มาร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งเป็นท้องที่ที่สำนักงาน กกต.ตั้งอยู่ ในข้อหาดังกล่าว

นายไชยวัฒน์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จากคำให้สัมภาษณ์ของ 3 ใน 5 กกต.นั้น ยืนยันว่าพฤติกรรมของนายเนวินนั้นสามารถทำได้ไม่ผิดอะไร แต่ทางสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยไม่เห็นด้วย จึงต้องใช้สิทธิตามอำนาจอธิปไตย เพราะมิฉะนั้นหากปล่อยแล้วจะกระทบต่อความมั่นคงแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเชิญกกต.มาสอบสวน ส่วน กกต.จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของท่าน

“เราไม่ใช่คู่กรณีของนายเนวิน ชิดชอบ ไม่ใช่คู่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ใช้สิทธิของประชาชน กล่าวหาบุคลากรในกลไกของรัฐที่ได้ชื่อว่า กกต.ซึ่งกินเงินเดือนจากประชาชนอยู่ แต่ไม่ทำตามหน้าที่ตามเจตนารมย์ที่กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทุกวันนี้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการตามเจตนารมย์ของกฎหมาย บ้านเมืองก็อาจจะไม่วุ่นวายแบบนี้ แต่นี่กลับปล่อยให้กลุ่มบุคคลสองกลุ่มที่ถูกตัดสิทธิโดยฝ่ายตุลาการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แล้วยังปล่อยเลยเถิดไม่ทำอะไรเลยอีก” นายไชยวัฒน์กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.สุชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งสอบปากคำผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ก่อนจะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป