“ปิยะพันธ์ จำปาสุต” ประธานบอร์ด ขสมก.ฟ้องหมิ่น “ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ส.ส.ปชป. แถลงข่าวกล่าวหาไม่เคารพสภา เลี่ยงชี้แจงกรรมาธิการสภา โครงการรถเอ็นจีวี 4 พันคัน แถมฟันธงร่วมทุจริต ทั้งที่ส่ง ผอ.ขสมก.เป็นตัวแทนแจง ย้ำทำโครงการตรงไปตรงมา หวังฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ยันหากชนะคดีอาญาต้องฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายด้วย ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 3 ส.ค.นี้
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายปิยะพันธ์ จำปาสุต ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) พร้อมด้วยนายกิ่งแก้ว โยมเมือง ทนายความ ยื่นฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
ตามฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.52 รัฐสภาได้มีการประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาเรื่องตรวจสอบการเช่ารถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี ขสมก.จำนวน 4,000 คัน โดยเชิญโจทก์ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายชัยรัตน์ สงวนซื่อ รักษาการ ผอ.ขสมก.เข้าชี้แจงแทน แต่ภายหลังเลิกประชุมแล้วจำเลยแถลงข่าวต่อหน้าคณะกรรมาธิการฯ คนอื่นๆ ที่รัฐสภา และสื่อมวลชน ทำนองว่า โจทก์ไม่เป็นข้าราชการที่ดี ไม่ให้เกียรติสภา และจำเลยยังพูดว่ามีหลักฐานว่าโจทก์มีส่วนร่วมทุจริตด้วย
ซึ่งข้อความที่จำเลยกล่าวถึงโจทก์ถูกเผยแพร่ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 มิ.ย. ซึ่งการที่จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ทุจริต แล้วยังยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือโดยระบุว่าจำเลยมีหลักฐานด้วย ทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังยิ่งเชื่อมั่นว่าโจทก์เป็นคนทุจริต การกระทำของจำเลยจึงทำให้โจทก์ต้องได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ทั้งๆ ที่โครงการดังกล่าว ขสมก.มีนโยบายจัดทำโครงการรถเมล์ปรับอากาศโดยใช้ก๊าซธรรมชาติมาก่อนที่โจทก์จะเข้ามาเป็นประธานบอร์ด ขสมก. ขณะที่โครงการนี้ยังอยู่ระหว่างรอมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติ จึงไม่มีการทุจริตแต่อย่างใด จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย
ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1944/2552 โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
ภายหลัง นายปิยะพันธ์ชี้แจงว่า แม้ตนจะไม่ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ ด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้ ผอ.ขสมก.เข้าชี้แจงแทน ส่วนที่ยังมีการออกข่าวอีกว่าตนไม่กล้าสู้หน้าชี้แจงนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อวันอังคารที่ 2 มิ.ย.ที่คณะกรรมาธิการฯ เรียกเข้าชี้แจง ตนมีนัดหมายบันทึกเทปสัมภาษณ์รายการของสถานีโทรทัศน์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งการทำรายการโทรทัศน์เมื่อกำหนดนัดไว้แล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงเวลา อย่างไรก็ดี หากคณะกรรมาธิการฯ ต้องการให้ตนเข้าชี้แจงด้วยตัวเองก็พร้อม ซึ่งตนขอแจ้งวันว่างไว้ล่วงหน้าเลยว่าวันจันทร์ช่วงบ่าย วันพุธ-พฤหัสบดี ช่วงเช้า
“โครงการรถเอ็นจีวี เป็นแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ซึ่งเราต้องทำ และทำอย่างตรงไปตรงมา เพราะ ขสมก.มีปัญหา อย่างไรก็ตาม เรื่องคดีนั้นผมจะเข้าเบิกความด้วยตัวเองในนัดไต่สวนมูลฟ้อง และหากชนะคดีอาญาก็จะยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อไป” นายปิยะพันธ์ กล่าว
