สาวนิรนามดิ่งสยองกลางห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ถ.รัชดาภิเษก หน้ายุบ สมองไหล นักชอปแตกกระเจิง วงจรปิดจับภาพผู้ตายโดดจากชั้น 3 ลงมา ตร.โวยทางห้างเคลื่อนย้ายศพออกที่เกิดเหตุ แถมเช็ดคราบเลือดทำลายหลักฐานทางคดี ด้านผู้บริหารห้างอ้างจุดเกิดเหตุผู้คนพลุกพล่านจึงเคลื่อนย้ายร่างผู้ตายมาไว้บริเวณที่จอดรถแทน
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.10 น. ร.ต.ท.จิรชัย ศุภวิรัชบัญชา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุหญิงตกจากที่สูงเสียชีวิตภายในห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6 ชั้น บริเวณลานจัดกิจกรรมชั้น G ซึ่งมีการจำหน่ายเสื้อผ้าลดราคา พบประชาชนยืนดูจุดเกิดเหตุ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยคราบเลือด เนื่องจากหลังเกิดเหตุ พนักงานทำความสะอาดของทางห้างได้ทำการเช็ดคราบเลือดออกทั้งหมด ส่วนศพถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างในทันที ส่วนจุดที่ผู้ตายพลัดตกลงมานั้น จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ตายตกลงมาจากชั้น 3 ผ่านทางช่องวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตร ซึ่งทะลุผ่านตั้งแต่ชั้น 3 จนถึงชั้น G โดยช่องวงกลมแต่ละช่องจะมีราวเหล็กสูงประมาณ 70 ซม.กั้นไว้
จากการตรวจสอบผู้ตายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45-50 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายเสือ กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า มีบาดแผลบริเวณใบหน้า และศีรษะซีกขวายุบไปทั้งแถบ กะโหลกเปิด จนมันสมองไหลออกมา ตรวจสอบในตัวไม่พบเอกสารสำคัญ พบเพียงกระเป๋าถือสตรีสีดำ ภายในมีนามบัตรร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางห้างพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาเดินวนเวียนอยู่บริเวณชั้น 3 เดินวนอยู่ที่ช่องวงกลมดังกล่าวอยู่ 5-6 รอบ ก่อนที่จะปีนขึ้นเหยียบราวเหล็ก และที่จะทิ้งตัวลงมา แต่ขาได้ไปฟาดกับราวเหล็กชั้น ทำให้พลิกตัวเอาศีรษะลงสู่พื้นชั้นล่าง จนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะคิดสั้นกระโดดลงมาเอง อย่างไรก็ตามจะเชิญผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมติดต่อญาติมาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนศพผู้ตายเบื้องต้นได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งแผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี เพื่อรอญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุได้แสดงความไม่พอใจกับการที่ทางห้างได้เคลื่อนย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุโดยพลการ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชจะมาถึง มิหนำซ้ำยังให้พนักงานทำความสะอาดเช็ดคราบเลือดในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายพยานหลักฐานทางคดี ซึ่งทางผู้บริหารของห้างอ้างว่าหลังเกิดเหตุผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกัน จุดเกิดเหตุมีคนพลุกพล่านจึงเคลื่อนร่างของผู้ตายมารอเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่บริเวณลานจอดรถ
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.10 น. ร.ต.ท.จิรชัย ศุภวิรัชบัญชา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุหญิงตกจากที่สูงเสียชีวิตภายในห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6 ชั้น บริเวณลานจัดกิจกรรมชั้น G ซึ่งมีการจำหน่ายเสื้อผ้าลดราคา พบประชาชนยืนดูจุดเกิดเหตุ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยคราบเลือด เนื่องจากหลังเกิดเหตุ พนักงานทำความสะอาดของทางห้างได้ทำการเช็ดคราบเลือดออกทั้งหมด ส่วนศพถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างในทันที ส่วนจุดที่ผู้ตายพลัดตกลงมานั้น จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ตายตกลงมาจากชั้น 3 ผ่านทางช่องวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตร ซึ่งทะลุผ่านตั้งแต่ชั้น 3 จนถึงชั้น G โดยช่องวงกลมแต่ละช่องจะมีราวเหล็กสูงประมาณ 70 ซม.กั้นไว้
จากการตรวจสอบผู้ตายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45-50 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายเสือ กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า มีบาดแผลบริเวณใบหน้า และศีรษะซีกขวายุบไปทั้งแถบ กะโหลกเปิด จนมันสมองไหลออกมา ตรวจสอบในตัวไม่พบเอกสารสำคัญ พบเพียงกระเป๋าถือสตรีสีดำ ภายในมีนามบัตรร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางห้างพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาเดินวนเวียนอยู่บริเวณชั้น 3 เดินวนอยู่ที่ช่องวงกลมดังกล่าวอยู่ 5-6 รอบ ก่อนที่จะปีนขึ้นเหยียบราวเหล็ก และที่จะทิ้งตัวลงมา แต่ขาได้ไปฟาดกับราวเหล็กชั้น ทำให้พลิกตัวเอาศีรษะลงสู่พื้นชั้นล่าง จนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะคิดสั้นกระโดดลงมาเอง อย่างไรก็ตามจะเชิญผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมติดต่อญาติมาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนศพผู้ตายเบื้องต้นได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งแผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี เพื่อรอญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุได้แสดงความไม่พอใจกับการที่ทางห้างได้เคลื่อนย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุโดยพลการ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชจะมาถึง มิหนำซ้ำยังให้พนักงานทำความสะอาดเช็ดคราบเลือดในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายพยานหลักฐานทางคดี ซึ่งทางผู้บริหารของห้างอ้างว่าหลังเกิดเหตุผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกัน จุดเกิดเหตุมีคนพลุกพล่านจึงเคลื่อนร่างของผู้ตายมารอเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่บริเวณลานจอดรถ
