xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบคลองเตยระอุอีก! ปิดพระราม 4 ขวางลีเกิ้ลตั้งร้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ชุมนุมประท้วงเริ่มขัดขวางการตั้งเต๊นท์
ม็อบคลองเตยเดือด ปะทะ บ.ลีเกิ้ล อีก ขัดขวางเจ้าหน้าที่บริษัทตั้งเต็นท์ค้าขายชั่วคราวให้พ่อค้าแม่ค้าที่ร่วมทำสัญญาบริเวณตลาดที่ 3 โห่ไล่ ข้าวของปาสารพัด ร้อนถึง ตร.ระดมชุดปราบจลาจลเข้าระงับ บานปลายม็อบรวมตัวปิดถนนแยกพระราม 4 ตั้งเต็นท์ปักหลักชุมนุม โดยมี ตร.ตรึงกำลังดูสถานการณ์ ส่งผลจราจรแยกพระราม 4 อัมพาตหนัก

วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณตลาดคลองเตย ทางบริษัท ลีเกิ้ล ได้เริ่มโครงการพัฒนาตลาดท่าเรือคลองเตยภายใต้สโลแกน “พัฒนาตลาดใหม่ ร่วมใจกับลีเกิ้ล” โดยเริ่มทำบริเวณตลาดที่ 3 ก่อนเป็นจุดแรก โดยมีผู้บริหารของบริษัท ลีเกิ้ล เจ้าหน้าที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ท่าเรือ ได้เข้ามาคอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบริษัท ลีเกิ้ล กำลังจะกางเต็นท์ลงบนบริเวณถนนสายกลางในตลาด 3 เพื่อทำเป็นที่ค้าขายชั่วคราวให้แก่พ่อค้าแม่ค้านั้น ก็มีกลุ่มผู้ประท้วงขัดขวางไม่ยอมให้ทำการตั้งเต็นท์ โดยทำการส่งเสียงโห่ และขว้างปาสิ่งของ จำพวกขวดน้ำใส่พนักงานที่กำลังตั้งเต็นท์เป็นระยะ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น.วันเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามผลักดันให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจออกนอกพื้นที่อีก โดยใช้วิธีนำแม่ค้าที่เป็นผู้หญิงตั้งเป็นแถวหน้าสลับกับการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้นำน้ำปลาร้าบรรจุถุง ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา และมีสื่อมวลชนบางรายโดนลูกหลงไปด้วย

หลังเหตุการณ์มีท่าทีจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสริมชุดปราบจลาจลเพิ่มอีก 1 กองร้อย (150 นาย) ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานกรรมการ บริษัท ลีเกิ้ล ได้ลงมาพบ และให้กำลังใจแก่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ตลาด 3 ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับจากกลุ่ม พ่อค้าแม่ค้า ที่อยากได้ตลาดใหม่สำหรับค้าขาย

จากสอบถาม นางอุ่นเรือน (ขอสงวนนามสกุล) แม่ค้าตลาด 3 กล่าวว่า อยากให้ทำตลาดใหม่โดยเร็ว เพราะตลาดเก่าทุกวันนี้สกปรกมาก หลังจากเห็นรูปแบบจำลองโครงสร้างของตลาดใหม่แล้ว ก็คิดว่า จะทำให้ขายของได้ดีมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันนี้จ่ายค่าเช่าแผงเพียงปีละ 60,000 บาท ต่างจากเดิมที่ต้องจ่ายให้เจ๊ต้อยถึงปีละ 200,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า บริษัท ลีเกิ้ล เป็นผู้ที่ประมูลได้อย่างถูกต้อง ได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย พร้อมชุดจู่โจมปราบจลาจลของ บก.น.5 ให้มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการย้ายผู้ค้าเพื่อสร้างตลาดใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะกันขึ้น และเหตุจลาจลก็เกิดขึ้นจริงตามความคาดหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำคู่กรณีทั้ง 3 ฝ่าย คือ บริษัท ลีเกิ้ล, การท่าเรือฯ และแกนนำกลุ่มประท้วงมาพูดคุยกันแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตามหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมทันที

ขณะที่ นายกิจจา มันวงศ์ ตัวแทนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่มาในวันนี้ เพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าครอบครอง และสามารถที่จะปรับปรุงและพัฒนาตลาดท่าเรือคลองเตยของ บริษัท ลีเกิ้ล ว่า ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างตามกฎเกณฑ์ และสามารถที่จะกระทำได้ภายในพื้นที่ทั้งหมดของตลาดท่าเรือคลองเตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงไม่สามารถขัดขวางการตั้งเต็นท์ได้สำเร็จ ในเวลา 14.00 น.ทางกลุ่มผู้ประท้วงกว่า 100 คน ได้เคลื่อนตัวไปปิดการจราจรบริเวณสี่แยกถนนพระราม 4 ได้ปิดถนนทั้ง 4 ด้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวเพื่อเตรียมสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเนื่องจากทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จากนั้นได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสุวิทย์ งามเถื่อน อายุ 38 ปี พ่อค้าขายหมู ข้อหาก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนำตัวไปดำเนินคดีที่ สน.ท่าเรือ ปรากฏว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงวิ่งกรูไปปิดล้อมรถควบคุมผู้ต้องหา บางรายก็ไปนอนขวาง เพื่อไม่ให้รถเคลื่อนออกไปได้ ก่อนจะมีการยื้อกันไปมาระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้น ด.ญ.วิรัญญา งามเถื่อน หรือ น้องบีม อายุ 10 ปี ลูกสาวของ นายสุวิทย์ พร้อมด้วยนางพนิตอนงค์ งามเถื่อน อายุ 40 ปี แม่ค้าขายหมู และภรรยาของ นายสุวิทย์ ก็ร้องห่มร้องไห้ และอ้อนวอนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายสุวิทย์ ไปดำเนินคดี โดยน้องบีมเข้าไปกราบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับขอร้องว่า ไม่ให้นำตัวพ่อของตนไปดำเนินคดี ระหว่างนั้น พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร และ พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบก.น.5 ได้เข้ามาทำความเข้าใจกับลูกสาวและภรรยาของ นายสุวิทย์ ว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องควบคุมตัวนายสุวิทย์ไปส่งที่ สน.ท่าเรือ เพื่อดำเนินคดีนั้น เนื่องจากนายสุวิทย์ได้ก่อความวุ่นวาย ทำร้ายร่างกายและขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แต่ ด.ญ.วิรัญญา กับ นางพนิตอนงค์ ก็ยังร้องห่มร้องไห้ และคุกเข้าอ้อนวอนต่อไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเตรียมประชุม เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงเริ่มมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าทยอยเดินทางมาร่วมประท้วงอยู่เรื่อยๆ

ด้าน นางพนิตอนงค์ กล่าวว่า ครอบครัวของตนทำอาชีพขายหมูอยู่ที่ตลาดคลองเตย โดยตนกับ นายสุวิทย์ สามี มีลูกสาว 1 คน คือ น้องบีม ปกติถ้าหากมีเวลาว่างก็จะมาเข้าร่วมประท้วงกับกลุ่มผู้ค้าคลองเตย แต่ในวันนี้ตนยังไม่ทราบว่า สามีถูกจับข้อหาอะไร ส่วนตัวคิดว่าสามีไม่ผิด ถ้าหากสามีของตนผิดก็ต้องผิดด้วยกันทั้งหมด

กระทั่งเวลา 15.50 น.เหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงได้ประชุมกันเสร็จสิ้นแล้ว และให้นำตัว นายสุวิทย์ ลงจากรถควบคุมผู้ต้องขังลงมาขึ้นรถกระบะตราโล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ สน.ท่าเรือ แทน ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงพอใจ เพราะอย่างน้อย นายสุวิทย์ ก็ขึ้นรถกระบะของตำรวจ แทนรถควบคุมผู้ต้องขัง 6 ล้อ เนื่องจากดูคล้ายห้องขังเคลื่อนที่

จากนั้นกลุ่มผู้ประท้วงกว่า 300 คน ก็ได้ไปรวมตัวกันปิดถนนพระราม 4 พร้อมนำเต็นท์มาตั้งที่กลางสี่แยกพระราม 4 จำนวน 3 หลัง ก่อนจะนำเชือกรวมทั้งถังขยะมาปิดกั้นทุกด้านของถนนพระราม 4 ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังตรึงกำลังอยู่ที่ตั้งรอคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เข้าจับกุมนายสุวิทย์ งามเถื่อน
ผู้ประท้วงฮือเข้าขวางไม่ให้นำตัวนายสุวิทย์ไปดำเนินคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น