ผบช.น.เป็นคนกลางประชุมกับ “ลีเกิ้ล-พ่อค้าแม่ค้าตลาดเก่า” เพื่อสางปัญหาสัมปทานตลาดคลองเตยไม่ให้เกิดความรุนแรงยืดเยื้อ เบื้องต้นได้ข้อสรุปเรื่องการเข็นผักให้รถบรรทุกเลือกใช้แรงงานจากบริษัทเก่า-ใหม่เอง ส่วนทางบ.ลีเกิ้ลฯ จะไม่ส่งการ์ดเข้าไปดูแลในตลาด ขณะที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ายังยืนยันให้บ.ลีเกิ้ลฯ ถอนตัวจากสัมปทานเช่นเดิม
เมื่อเวลา 13.15 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สน.ท่าเรือ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต. โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ. วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ท่าเรือ นายธรรมนัส พรหมเผ่า กรรมการบริหารบริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชันแนล และตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าตลาดคลองเตย จำนวน 12 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อเจรจาหาข้อยุติถึงปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าตลาดคลองเตยและการ์ดบริษัทลีเกิ้ลที่ผ่านมาโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้บริหารบริษัทลีเกิ้ล กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวแทนทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเจรจาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในตลาดคลองเตยครั้งล่าสุด ซึ่งเกิดจากการกระทบกระทั่งกันเรื่องการแย่งการเข็นผัก โดยได้ข้อตกลงว่า ในการใช้บริการเข็นผักนั้น จะให้รถบรรทุกที่ขนผักมานั้นเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า จะเลือกใช้บริการจากบริษัทลีเกิ้ล หรือบริษัทเก่า ส่วนเรื่องการกระทบกระทั่งกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เจรจาว่าหลังจากนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้กำลังปะทะกัน โดยเจ้าหน้าที่จะส่งกำลังเข้าไป
นายธรรมนัส กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งวันนี้การที่เจ้าหน้าที่ได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันสามารถแก้ปัญหาได้เพียงบางเรื่องเท่านั้น หากผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออกมาเจรจาด้วยตัวเอง คาดว่าปํญหาน่าจะยุติลงได้ ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น หากทำได้อย่างเข้มงวดก็จะทำให้ปัญหายุติลงได้เช่นกัน
ด้านตัวแทนกลุ่มแม่ค้าตลาดคลองเตย กล่าวว่า การค้าขายในตอนนี้เป็นไปด้วยความกลัวและหวาดระแวง เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนประสงค์ร้ายอยู่ตลอดเวลา โดยทางบริษัทลีเกิ้ลต้องถอนตัวออกไป และให้การท่าเรือทำประชาภิจารณ์ โดยให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าร่วมประมูลด้วย เพราะการประมูลจะได้เป็นไปอย่างโปร่งใส ส่วนเรื่องการกระทบกระทั่งกันนั้น ทางแม่ค้าจะยอมหยุดการทะเลาะวิวาทด้วย หากทางบริษัทจะหยุดส่งคนมาทำร้าย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจตราความสงบเรียบร้อยภายในตลาดคลองเตย ทางการท่าเรือกับบริษัทลีเกิ้ลนั้นรู้กัน เพราะตั้งแต่ขายของมา 20 ปีไม่เคยเกิดเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเปลี่ยนผู้บริหารการท่าเรือคนใหม่จึงเกิดเรื่องขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย โดยให้บริษัทลีเกิ้ลยกเลิกการให้การ์ดเข้าไปดูแลในตลาด และขอให้ทางแม่ค้าไม่รบกวนสิทธิ์ของกันและกัน ส่วนเรื่องรถเข็นผักในตลาด ให้รถบรรทุกแจ้งความประสงค์การเลือกใช้แรงงานจากบริษัทเก่าหรือใหม่เอง ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมานั้นได้ทำงานอย่างสุดความสามารถ ซึ่งแม้จะส่งกำลังเข้าไปดูแลความเรียบร้อยในตลาด แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการเจรจากันอย่างจริงจัง โดยหลังจากวันนี้ได้มีการเจรจากันได้ข้อสรุปต่างๆแล้ว คาดว่าเรื่องทุกอย่างก็จะสามารถยุติได้ อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกียวข้องเข้าไปดูแลความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสบายใจ
หลังจากนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้ตรวจสอบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ลร 7777 กทม. ซึ่งทำการยึดรถมาจากลานจอดรถที่บริษัทลีเกิ้ล ในวันที่เกิดเหตุปะทะกันเมื่อ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกช่างมาเปิดรถ จากการตรวจสอบภายในรถค้นพบ ปืนลูกกรด.22 ทะเบียน ภก 014450075 พร้อมแม็กกาซีนบรรจุกระสุน 25 นัด จำนวน 2 แม็ก และยังพบแม็กกาซีนบรรจุกระสุน 9 มม. จำนวน 30 นัด อีก 2 แม็ก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ชื่อผู้ครอบครองรถกระบะคือ นายธนากร ประจำค่าย บ้านเลขที่ 3 /48 ถ.หน้าสถานี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา ซึ่งพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบว่า นายธนากร มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถคันดังกล่าวหรือไม่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องจะออกหมายเรียกมาสอบ ส่วนอาวุธปืนจะส่งให้พนักงานสอบสวนหาเจ้าของ ก่อนออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาพกอาวุธปืนในที่สาธารณะ