“เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล” แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางเข้ามอบตัว ตำรวจกองปราบ รับทราบข้อกล่าวหาใช้เครื่องวิทยุคมนาคม และตั้งสถานีวิทยุ โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวคุย อุปกรณ์ที่ยึดไปไม่เสียดาย ท้าหากมายึดอีกจะไม่อดทน โวย ตร.เลือกปฏิบัติไม่ยอมออกหมายเรียก แต่ออกหมายจับ ก่อน ส.ส.เพื่อไทย จ.ลำพูน ใช้ตำแหน่งประกันตัวออกไป
วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ กองปราบปราม นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภัทดีนฤนาถ พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ และ พ.ต.อ.สาธิต ต ชยภพ รอง ผบก.ป.เพื่อรับทราบข้อหา ร่วมกันมีใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมี น.ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือ ดีเจอ้อม และสมาชิกของกลุ่มประมาณ 500 คน เดินทางด้วยรถทัวร์ จากเชียงใหม่มาให้กำลังใจอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.เวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ แสงภูวงษ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังตำรวจ สภ.เมือง นปพ.สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และเจ้าหน้าที่สถานีตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุ จ.เชียงใหม่ กว่า 50 นาย นำหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ ค.260/2552 ลงวันที่ 15 เม.ย.2552 ตามกฎหมายอาญา ม.116 เพื่อพบและยึดสิ่งของพยานหลักฐานเอกสารที่ใช้ในการปลุกระดมเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมต่อต้านรัฐบาล เข้าตรวจค้นที่โรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ บริเวณชั้น 4 เลขที่ 64 ซ.1 ถ.อินทวโรรส ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชน คลื่นเอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิรตซ์ ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51
โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดอุปกรณ์การออกอากาศจำนวน 5 รายการ คือ 1.เครื่องส่งวิทยุ กำลังส่ง 450 วัตต์ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ไม่มียี่ห้อพร้อมอุปกรณ์ 1 ชุด ลิมิตเตอร์ ยี่ห้อ Alesis รุ่น 3630 จำนวน 1 เครื่อง และ เครื่อง Mixer รุ่น Me winsons รุ่น LM 1 12DSP แบบ 12 ช่อง อีกจำนวน 1 เครื่อง และเสาอากาศสูง 18 เมตร จากดาดฟ้า พร้อมสายอากาศแบบโพลเอ็ดไดโพล พร้อมสายนำสัญญาณ แฮร์แอ็กซ์ 1 นิ้ว ความยาว 40 เมตร จำนวน 1 ชุด รวมมูลค่า 6 แสนบาท
นายเพชรวรรต กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมามอบตัวที่กองปราบปราม ซึ่งให้มอบตัวที่ภาค 5 ก็ได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางและเสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ดี ยังสงสัยก่อนหน้านี้ยังไม่มีหมายเรียกมาถึงตน แต่พนักงานสอบสวนกลับออกหมายจับทันที พฤติกรรมอย่างนี้เป็นการเลือกปฏิบัติ หรือเปล่า
“ผมไม่เสียดายอุปกรณ์ที่ถูกยึดหรอก หากอยากได้ก็เอาไปแต่ตำรวจภาค 5 ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ว่าพวกตนผิดฏกหมายข้อไหน ทำไมวิทยุชุมชนมีตั้ง 6,000 กว่าสถานีทั่วประเทศที่ไม่มีใบอนุญาตถึงไม่ไปจับกุม ทำไมต้องมาจับแต่ของคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตามหลังถูกยึดอุปณกรณ์ ชาวบ้านก็บริจาคเงินซื้ออุปกรณ์เครื่องส่งวิทยุมาใหม่อีก กว่า 6 แสนบาท หากวันนี้จะมายึดอีกเราจะไม่อดทนอีกแล้ว” แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายเพชรวรรต ไม่ได้ประสานมา ว่า จะเข้ามอบตัว ซึ่งหากประสานมาก่อน ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางมาที่นี่ ทางเราจะส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำที่เชียงใหม่ให้ได้ ซึ่งตามระเบียบแล้วผู้ถูกกล่าวหาจะประสงค์มอบตัวที่โรงพักไหนก็ได้ทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวนั้นพนักงานสอบสวนโรงพักจะสอบปากคำและส่งสำนวนพร้อมผู้ถูกกล่าวหามาให้เอง
“ผมขอยืนยันว่า ตำรวจกองปราบไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เราทำตามหน้าที่ ซึ่งเมื่อ กทช.นำตำรวจภาค 5 จับกุม พร้อมทั้งโอนคดีมาให้และส่งสำนวนมาเราก็ต้องทำคดีไป ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน” รอง ผบก.ป.กล่าว
จากนั้น นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาให้กำลังใจ นายเพชรวรรต ก่อนใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวผู้ต้องหาออกไป