ตำรวจหัวหมากคุมตัวพ่อค้าขายหอยแครง บุกเดี่ยวควงปืนปลอมจี้ 108 ช็อป เจอหญิงใจเด็ดคว้ามีดดาบต่อกรหนีกระเจิงทำแผน ผู้ต้องหายอมรับรู้สึกกลัวช่วงที่หญิงสาวฟันดาบสู้เช่นกัน เหตุที่เลือกร้านนี้เพราะเคยมีแฟนทำงานอยู่สาขาอื่นรู้ทิศทางระบบงานดี ส่วนหญิงกล้าได้รับโล่-ทุนการศึกษาจากม.รามฯ เจ้าตัวยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์อยู่
จากกรณีที่คนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนปลอมบุกเข้าจี้ร้าน 108 ช็อปมินิมาร์ท สาขารามคำแหง 60 ชั้นล่างอาคารพฤกษาแมนชั่น เลขที่ 305/1 ปากซอยรามคำแหง 60 แยก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จน น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี พนักงานประจำร้าน ชักมีดดาบขึ้นมาสู้ทำให้คนร้ายต้องหนีกระเจิง เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หลังหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิดย่านจังหวัดสุโขทัยและควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สน.หัวหมากเมื่อวานที่ผ่านมา 2 มิ.ย.52
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.พชร บุญสิทธิ์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงดำรงสกุล รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสิทธิพล พุ่มพวง อายุ 24 ปี พ่อค้าขายหอยแครง อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์ร้าน 108 ช็อป พร้อมของกลางหมวกกาปิเยาะ สีเขียว 1 ใบ ลูกกระสุนปืนแบบเหล็ก จำนวน 2 ถุง แบบพลาสติกสีแดงและสีขาว จำนวน 2 ถุง กระเป๋าสะพายสีเขียวขี้ม้า 1 ใบ เศษขี้เถ้าคล้ายหมวกแก็ปถูกไฟไหม้ เศษปืนพลาสติก และเศษขี้เถ้าคล้ายเสื้อถูกไฟไหม้ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดของผู้ต้องหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการแถลงข่าว น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นพนักงานประจำร้านที่ใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันคนร้ายจนกระเจิง ได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.หัวหมาก จากนั้น รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เดินทางมามอบทุนการศึกษาให้แก่ น.ส.อัญชลี ขณะที่ ผบก.น.4 ได้มอบโล่และเงินรางวัลให้แก่น.ส.อัญชลี เพื่อเป็นรางวัลด้วย
ขณะที่ นายสิทธิพลให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ น.ส.อัญชลี ว่าไม่ได้ตั้งใจ โดยสาเหตุที่ทำลงไปเพราะต้องการเงินไปเที่ยว และซื้อยาบ้ามาเสพ โดยทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นเงินประมาณ 1,000 บาท ส่วนที่เลือกก่อเหตุร้าน 108 ช็อป เพราะที่ผ่านมาเคยมีแฟนทำงานร้าน 108 ช็อปสาขาอื่น และรู้ว่าร้านดังกล่าวจะมีพนักงานอยู่เวรกะละ 1 คน จึงคิดว่าน่าจะง่ายในการก่อเหตุ และก่อนที่จะก่อเหตุก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน อีกทั้งไม่คิดว่าพนักงานในร้านจะพกมีดด้วยเลยใช้ร่มตีไปเพื่อป้องกันตัว ส่วนปืนที่เอามาใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม ซื้อมาในราคา 500 บาท เนื่องจากไม่มีเงินซื้อปืนจริงและยิงใส่พนักงานไป 3 นัด เพื่อให้เจ็บเท่านั้น
“จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกกลัวช่วงที่พนักงานหยิบมีดขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าจะวิ่งออกจากร้านแล้ว แต่เห็นว่าไหนๆ ก็เข้ามาแล้วจึงหยิบเอากล่องบริจาคเงินติดมือไปด้วย หลังจากนั้นก็หลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิด ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้” นายสิทธิพล กล่าว
ขณะที่ น.ส.อัญชลี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุเวลาไปทำงานก็รู้สึกระแวง และไม่อยากให้ลูกค้าใส่หมวกเดินเข้ามาในร้านเลย เพราะรู้สึกกลัว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเวลาอยู่ในร้านก็จะมีเพื่อนอยู่ด้วย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ยังหวาดผวา แต่เมื่อรู้ว่าเป็นปืนปลอมก็พยายามต่อสู้เพื่อไม่ให้คนร้านเอาทรัพย์สินใดๆ ในร้านไป เนื่องจากคนร้านรายนี้เคยเข้ามาชิงทรัพย์ครั้งหนึ่งแล้วได้เงินไปประมาณ 10,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า อยากจะให้ร้านสะดวกซื้อมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล เพราะที่ผ่านมาคนร้ายจะก่อเหตุช่วงที่ตำรวจตรวจท้องที่ผ่านไปแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้คนร้ายรู้ว่ามีพนักงานอยู่ในร้านเพียงคนเดียวจึงเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก หลังจากนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจสอดส่องดูแลตรวจท้องที่ให้บ่อยขึ้น
สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. และ 28 พ.ค. โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ส่วนเศษขี้เถ้าที่ตรวจพบหลังบ้านพักของผู้ต้องหานั้นเป็นเศษเสื้อผ้าและปืนพลาสติกปลอมที่ผู้ต้องหาให้ภรรยานำไปเผาเพื่อทำลายหลักฐาน
ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรงวจ สน.หัวหมาก ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ 108 ช็อปมินิมาร์ท สาขารามคำแหง 60 ชั้นล่างอาคารพฤกษาแมนชั่น เลขที่ 305/1 ปาก ซ.รามคำแหง 60 แยก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยมีประชาชนมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยการทำแผนครั้งนี้เริ่มจากที่ผู้ต้องหาเดินทาเข้ามาในร้านและทำทีซื้อน้ำอัดลม ก่อนจะชักอาวุธปืนปลอมออกมาขู่พนักงานเพื่อจะชิงทรัพย์ แต่ น.ส.อัญชลี พนักงานที่อยู่ในร้านวันเกิดเหุตได้หยิบอาวุธมีดขึ้นมาฟันคนร้ายเพื่อป้องกันตัว จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ร่มป้องกันตัวก่อนจะหยิบเอากล่องรับบริจาคเงินวิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
“หญิงกล้า 108 ช็อป” ชักอีดาบต่อกรโจ๋ปืนปลอมเข้าจี้กระเจิง!
จากกรณีที่คนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนปลอมบุกเข้าจี้ร้าน 108 ช็อปมินิมาร์ท สาขารามคำแหง 60 ชั้นล่างอาคารพฤกษาแมนชั่น เลขที่ 305/1 ปากซอยรามคำแหง 60 แยก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จน น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี พนักงานประจำร้าน ชักมีดดาบขึ้นมาสู้ทำให้คนร้ายต้องหนีกระเจิง เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หลังหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิดย่านจังหวัดสุโขทัยและควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สน.หัวหมากเมื่อวานที่ผ่านมา 2 มิ.ย.52
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.พชร บุญสิทธิ์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงดำรงสกุล รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสิทธิพล พุ่มพวง อายุ 24 ปี พ่อค้าขายหอยแครง อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์ร้าน 108 ช็อป พร้อมของกลางหมวกกาปิเยาะ สีเขียว 1 ใบ ลูกกระสุนปืนแบบเหล็ก จำนวน 2 ถุง แบบพลาสติกสีแดงและสีขาว จำนวน 2 ถุง กระเป๋าสะพายสีเขียวขี้ม้า 1 ใบ เศษขี้เถ้าคล้ายหมวกแก็ปถูกไฟไหม้ เศษปืนพลาสติก และเศษขี้เถ้าคล้ายเสื้อถูกไฟไหม้ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดของผู้ต้องหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการแถลงข่าว น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นพนักงานประจำร้านที่ใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันคนร้ายจนกระเจิง ได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.หัวหมาก จากนั้น รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เดินทางมามอบทุนการศึกษาให้แก่ น.ส.อัญชลี ขณะที่ ผบก.น.4 ได้มอบโล่และเงินรางวัลให้แก่น.ส.อัญชลี เพื่อเป็นรางวัลด้วย
ขณะที่ นายสิทธิพลให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ น.ส.อัญชลี ว่าไม่ได้ตั้งใจ โดยสาเหตุที่ทำลงไปเพราะต้องการเงินไปเที่ยว และซื้อยาบ้ามาเสพ โดยทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นเงินประมาณ 1,000 บาท ส่วนที่เลือกก่อเหตุร้าน 108 ช็อป เพราะที่ผ่านมาเคยมีแฟนทำงานร้าน 108 ช็อปสาขาอื่น และรู้ว่าร้านดังกล่าวจะมีพนักงานอยู่เวรกะละ 1 คน จึงคิดว่าน่าจะง่ายในการก่อเหตุ และก่อนที่จะก่อเหตุก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน อีกทั้งไม่คิดว่าพนักงานในร้านจะพกมีดด้วยเลยใช้ร่มตีไปเพื่อป้องกันตัว ส่วนปืนที่เอามาใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม ซื้อมาในราคา 500 บาท เนื่องจากไม่มีเงินซื้อปืนจริงและยิงใส่พนักงานไป 3 นัด เพื่อให้เจ็บเท่านั้น
“จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกกลัวช่วงที่พนักงานหยิบมีดขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าจะวิ่งออกจากร้านแล้ว แต่เห็นว่าไหนๆ ก็เข้ามาแล้วจึงหยิบเอากล่องบริจาคเงินติดมือไปด้วย หลังจากนั้นก็หลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิด ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้” นายสิทธิพล กล่าว
ขณะที่ น.ส.อัญชลี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุเวลาไปทำงานก็รู้สึกระแวง และไม่อยากให้ลูกค้าใส่หมวกเดินเข้ามาในร้านเลย เพราะรู้สึกกลัว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเวลาอยู่ในร้านก็จะมีเพื่อนอยู่ด้วย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ยังหวาดผวา แต่เมื่อรู้ว่าเป็นปืนปลอมก็พยายามต่อสู้เพื่อไม่ให้คนร้านเอาทรัพย์สินใดๆ ในร้านไป เนื่องจากคนร้านรายนี้เคยเข้ามาชิงทรัพย์ครั้งหนึ่งแล้วได้เงินไปประมาณ 10,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า อยากจะให้ร้านสะดวกซื้อมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล เพราะที่ผ่านมาคนร้ายจะก่อเหตุช่วงที่ตำรวจตรวจท้องที่ผ่านไปแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้คนร้ายรู้ว่ามีพนักงานอยู่ในร้านเพียงคนเดียวจึงเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก หลังจากนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจสอดส่องดูแลตรวจท้องที่ให้บ่อยขึ้น
สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. และ 28 พ.ค. โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ส่วนเศษขี้เถ้าที่ตรวจพบหลังบ้านพักของผู้ต้องหานั้นเป็นเศษเสื้อผ้าและปืนพลาสติกปลอมที่ผู้ต้องหาให้ภรรยานำไปเผาเพื่อทำลายหลักฐาน
ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรงวจ สน.หัวหมาก ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ 108 ช็อปมินิมาร์ท สาขารามคำแหง 60 ชั้นล่างอาคารพฤกษาแมนชั่น เลขที่ 305/1 ปาก ซ.รามคำแหง 60 แยก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยมีประชาชนมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยการทำแผนครั้งนี้เริ่มจากที่ผู้ต้องหาเดินทาเข้ามาในร้านและทำทีซื้อน้ำอัดลม ก่อนจะชักอาวุธปืนปลอมออกมาขู่พนักงานเพื่อจะชิงทรัพย์ แต่ น.ส.อัญชลี พนักงานที่อยู่ในร้านวันเกิดเหุตได้หยิบอาวุธมีดขึ้นมาฟันคนร้ายเพื่อป้องกันตัว จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ร่มป้องกันตัวก่อนจะหยิบเอากล่องรับบริจาคเงินวิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
“หญิงกล้า 108 ช็อป” ชักอีดาบต่อกรโจ๋ปืนปลอมเข้าจี้กระเจิง!