“วรพงษ์" เป็นปลื้ม! ระบบเอสเอ็มเอส โชว์จับโจรเป็นผลดีต่องานนครบาล โดยล่าสุดพบผู้ต้องหาท่าทีพิรุธ สวมหมวกอำพรางใบหน้า ขอบัตรประชาชนตรวจสอบกับเอสเอ็มเอส ปรากฏหมายจับ รวบตัวทันทีหนุ่มขายเสื้อผ้าย่านสะพานพุทธ ร่วมกับพวกลักแอร์ สารภาพเลือกขโมยเครื่องปรับอากาศเพราะมีแหล่งปล่อยขาย พร้อมจับผู้ต้องหาตามปฏิทินโจร 1 ราย
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลการจับกุม นายธนากร บุญเฉลิมศักดิ์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ โดยจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยวัดชัยฉิมพลี แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ใช้ระบบ SMS ในการตรวจสอบหมายจับ หลังพบผู้ต้องหามีท่าทีพิรุธ สวมหมวกอำพรางใบหน้า จึงแสดงตัวขอตรวจสอบบัตรประชาชน โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ตรวจสอบกับระบบ SMS และปรากฏหมายจับดังกล่าวจึงได้ทำการควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเองมีอาชีพขายเสื้อผ้าย่านสะพานพุทธ ได้ร่วมกับเพื่อนที่ยังหลบหนี ก่อเหตุขโมยเครื่องปรับอากาศ จากอาคารย่านพระราม 9 ท้องที่ สน.มักกะสัน ซึ่งเหตุผลที่เลือกขโมยเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากรู้จักแหล่งจำหน่ายเป็นอย่างดี
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การใช้ระบบ SMS ตรวจสอบหมายจับ และรถที่ถูกโจรกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ สำนักงานสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) เป็นแม่งานหลักในการนำระบบไปใช้ในภาพรวมทั้งประเทศ ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากยิ่งขึ้น และนับตั้งแต่ บช.น. ได้นำระบบ SMS มาใช้จริงตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.-1 มิ.ย.2552 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 18 ราย ซึ่งเห็นได้ว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้การทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวใช้ได้เฉพาะข้าราชการตำรวจที่ได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ประชาชนทั่วไปยังไม่สามารถใช้ได้ แต่หากผู้ประกอบการรายใดประสงค์ที่จะใช้ระบบดังกล่าวในการตรวจสอบประวัติบุคคล สามารถขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงทะเบียนไว้ตรวจสอบให้ได้” ผบช.น.กล่าว
นอกจากนี้ ได้จับกุมผู้ต้องตามปฏิทินหมายจับปี 2552 ลำดับที่ 4 นายสายชล ดีนิสัยกุล อายุ 40 ปี อาชีพช่างทาสี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ จ./2546 ลงวันที่ 30 ต.ค.2546 ในท้องที่ สน.เพชรเกษม จับกุมได้บริเวณหน้าห้องเลขที่ 203 โรงแรมฟลอราอินน์ อ.สามพรานจ.นครปฐม
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลต้องสงสัยคล้ายภาพตามปฏิทินโจรของตำรวจนครบาล จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ดังนั้น เมื่อพบผู้ต้องหาและตรวจสอบผู้ต้องหายอมรับว่า ชื่อ นายสายชล ดีนิสัยกุล ตามหมายจับจริง
จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือฆ่าผู้ตายตามที่ถูกออกหมายจับ แต่ในวันเกิดเหตุระหว่างกลุ่มของตนได้เข้าไปเที่ยวภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม และได้เกิดการเขม่นกับข้างโต๊ะข้างๆ แต่ตนได้พยายามห้ามปรามเพื่อนไม่ให้มีเรื่อง ก่อนที่ตนจะเดินออกมานอกร้าน แต่ปรากฏว่าเพื่อนภายในร้านได้ทะเลาะกันแล้ว และมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกบดานและสมัครเป็นพ่อครัวอยู่ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นานกว่า 5 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีต่อไป