สาวใหญ่ถูกฆ่าตายมาแล้ว 5 วัน หมกอยู่ใต้ผ้านวมภายในห้องพัก เพื่อนในอพาร์ตเมนต์เล่าว่าเห็นผู้ตายกินเหล้าอยู่กับเพื่อนชายวัยรุ่นส่งเสียงดัง จึงตักเตือน ต่อมาเห็นเพื่อนชายลงมาจากห้องอย่างรีบร้อนและไม่พบผู้ตายอีก จนมาได้กลิ่นเหม็นและพบศพ ตำรวจคาดปมชู้สาว-ชิงทรัพย์-ส่วนตัว เร่งตามเพื่อนชายมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสคนร้ายต่อไป
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.เฉลียว แดงยิ้ม พงส.(สบ 1) สน.ดอนเมือง รับเเจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องพักเลขที่ 1214 อาคาร วีเอส อพาร์ตเมนต์ ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนชั้น 2 ภายในห้องเลขที่ 1214 บริเวณพื้นข้างเตียงนอน พบศพนางลัดดาวรรณ ม่วงคู อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 578/14 ซ.จารุรัตน์ต้นไทร แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีส้ม ถูกห่อด้วยผ้านวม เมื่อเปิดออกพบว่าที่หน้าผากยุบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน บนเตียงนอนมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน จากการตรวจสอบพบเอกสารระบุการรักษาตัวของผู้ตายและบุหรี่ที่สูบแล้วจำนวน 2 มวน เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายทองคำ ผองจันที อายุ 41 ปี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค.52 ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายเข้ามาที่อพาร์ตเมนต์กับเพื่อนชายชื่อนายนุ และได้ดื่มเหล้ากันตั้งแต่เช้า จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงผู้ตายกับนายนุทะเลาะกันเสียงดังจึงขึ้นไปตักเตือน จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.เห็นนายนุเดินลงมาจากห้องผู้ตายด้วยท่าทางรีบร้อน ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่พบหน้าผู้ตายอีกเลย แต่เห็นประตูห้องถูกล๊อคจากด้านนอกจึงคิดว่าผู้ตายไม่อยู่ จนกระทั่งวันนี้แม่บ้านมาทำความสะอาดและได้กลิ่นเหม็นคล้ายศพโชยออกมาจากห้องผู้ตาย เมื่องัดประตูเข้าไปก็พบศพผู้ตายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายฐาปกรณ์ ขุนวิเศษ อายุ 19 ปี ลูกชายผู้ตายให้การว่า แม่ของตนพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้มาประมาณ 6 เดือนแล้ว ซึ่งตนได้แยกออกไปอยู่กับครอบครัวนานแล้วไม่ได้อยู่กับแม่ จะแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนยังคบกับแฟนเก่าชื่อปลาได้พามาให้แม่รู้จักจนแม่เอ็นดู แต่เมื่อเลิกกันไปแม่ก็ยังติดต่อแฟนเก่าตนอยู่ และทราบว่าแฟนเก่าตนได้แนะนำเพื่อนชายชื่อนุอายุประมาณ 24 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แม่รู้จัก แม่จึงคบหากับคนชื่อนุมาได้ 4-5 เดือนแล้วและพักอยู่ที่ห้องดังกล่าวด้วยกัน
“ปกติแม่จะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ผมต้องคอยสังเกตเวลาที่มาเยี่ยมและคอยซักถามอยู่ตลอด เมื่อผมมาเยี่ยมแม่จะสังเกตเห็นว่านายนุเป็นคนอารมณ์ร้อนและมักจะทะเลาะกับแม่บ่อย เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาตนโทรศัพท์หาแม่แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนคิดว่าผิดปกติเพราะแม่ไม่เคยปิดโทรศัพท์ จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.ไปแจ้งว่าแม่เสียชีวิตแล้ว” นายฐาปกรณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ แต่ยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินใดสูญหายไปบ้าง จะต้องให้ญาติผู้ตายเป็นผู้ตรวจสอบยืนยันเสียก่อน จากการสอบปากคำลูกชายและคนใกล้ชิดผู้ตายพบว่ากำลังคบหาอยู่กับเพื่อนชายชื่อนุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ก็ไม่สามารถบันทึกภาพก่อนเกิดเหตุได้ เนื่องจากผ่านมาหลายวันแล้วทำให้ภาพถูกบันทึกทับไป สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายถูกฆ่าสันนิษฐานเอาไว้หลายประเด็น อาจจะเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทส่วนตัว ชู้สาว และชิงทรัพย์ หลังจากนี้จะส่งศพผู้ตายให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวนายนุมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.เฉลียว แดงยิ้ม พงส.(สบ 1) สน.ดอนเมือง รับเเจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องพักเลขที่ 1214 อาคาร วีเอส อพาร์ตเมนต์ ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนชั้น 2 ภายในห้องเลขที่ 1214 บริเวณพื้นข้างเตียงนอน พบศพนางลัดดาวรรณ ม่วงคู อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 578/14 ซ.จารุรัตน์ต้นไทร แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีส้ม ถูกห่อด้วยผ้านวม เมื่อเปิดออกพบว่าที่หน้าผากยุบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน บนเตียงนอนมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน จากการตรวจสอบพบเอกสารระบุการรักษาตัวของผู้ตายและบุหรี่ที่สูบแล้วจำนวน 2 มวน เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายทองคำ ผองจันที อายุ 41 ปี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค.52 ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายเข้ามาที่อพาร์ตเมนต์กับเพื่อนชายชื่อนายนุ และได้ดื่มเหล้ากันตั้งแต่เช้า จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงผู้ตายกับนายนุทะเลาะกันเสียงดังจึงขึ้นไปตักเตือน จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.เห็นนายนุเดินลงมาจากห้องผู้ตายด้วยท่าทางรีบร้อน ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่พบหน้าผู้ตายอีกเลย แต่เห็นประตูห้องถูกล๊อคจากด้านนอกจึงคิดว่าผู้ตายไม่อยู่ จนกระทั่งวันนี้แม่บ้านมาทำความสะอาดและได้กลิ่นเหม็นคล้ายศพโชยออกมาจากห้องผู้ตาย เมื่องัดประตูเข้าไปก็พบศพผู้ตายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายฐาปกรณ์ ขุนวิเศษ อายุ 19 ปี ลูกชายผู้ตายให้การว่า แม่ของตนพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้มาประมาณ 6 เดือนแล้ว ซึ่งตนได้แยกออกไปอยู่กับครอบครัวนานแล้วไม่ได้อยู่กับแม่ จะแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนยังคบกับแฟนเก่าชื่อปลาได้พามาให้แม่รู้จักจนแม่เอ็นดู แต่เมื่อเลิกกันไปแม่ก็ยังติดต่อแฟนเก่าตนอยู่ และทราบว่าแฟนเก่าตนได้แนะนำเพื่อนชายชื่อนุอายุประมาณ 24 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แม่รู้จัก แม่จึงคบหากับคนชื่อนุมาได้ 4-5 เดือนแล้วและพักอยู่ที่ห้องดังกล่าวด้วยกัน
“ปกติแม่จะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ผมต้องคอยสังเกตเวลาที่มาเยี่ยมและคอยซักถามอยู่ตลอด เมื่อผมมาเยี่ยมแม่จะสังเกตเห็นว่านายนุเป็นคนอารมณ์ร้อนและมักจะทะเลาะกับแม่บ่อย เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาตนโทรศัพท์หาแม่แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนคิดว่าผิดปกติเพราะแม่ไม่เคยปิดโทรศัพท์ จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.ไปแจ้งว่าแม่เสียชีวิตแล้ว” นายฐาปกรณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ แต่ยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินใดสูญหายไปบ้าง จะต้องให้ญาติผู้ตายเป็นผู้ตรวจสอบยืนยันเสียก่อน จากการสอบปากคำลูกชายและคนใกล้ชิดผู้ตายพบว่ากำลังคบหาอยู่กับเพื่อนชายชื่อนุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ก็ไม่สามารถบันทึกภาพก่อนเกิดเหตุได้ เนื่องจากผ่านมาหลายวันแล้วทำให้ภาพถูกบันทึกทับไป สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายถูกฆ่าสันนิษฐานเอาไว้หลายประเด็น อาจจะเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทส่วนตัว ชู้สาว และชิงทรัพย์ หลังจากนี้จะส่งศพผู้ตายให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวนายนุมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป