รวบแก๊งชาวลาว ลอบขนยาบ้า 30,000 เม็ด จากฝั่งลาวเข้าไทยแลกค่าจ้าง 2 หมื่นบาท จากพ่อค้าคนไทย โดยยาบ้าจะทำเป็นมัด เขียนแหล่งที่จะส่งพร้อมเบอร์โทร.เป็นภาษาลาว ด้าน รอง ผบช.ก.สั่งตรวจเข้มตามแนวชายแดนทั่วประเทศ สกัดกั้นยาเสพติดทะลักเข้าไทย
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.ก.พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญสืบ ไพรเถื่อน รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ. เอกราช ลิ้มสังกาศ ผกก.1 บก.ทล. และชุดเฉพาะกิจของ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสมัย แก้วมณี อายุ 45 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี นายทองดี แก้วมณี อายุ 35 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี นายแสง แก้วมณีวงษ์ อายุ 30 ปี ชาวลาว นางสม อินทิจักร อายุ 38 ชาวลาว และ นางวร ทะนงสัก อายุ 25 ปี ชาวลาว พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 30,000 เม็ด เงินสด30,000 บาท รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บบ 3130 อุบลราชธานี โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย จำนวน 4 เคริ่อง
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางได้บริเวณ ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ระหว่าง กม.ที่ 92-93 ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ทล.ดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหานายสมัยและนายทองดี ร่วมกันกระทำความผิดนำเข้า และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายแสง นางสม และนางวร แจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้า และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า )ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก นโยบายกวดขันของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางลำเลียงจากชายแดนทุกด้าน และสั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศเพิ่มความเข้มในจุดตรวจทุกจุด และสืบสวนหาข่าวสกัดกั้นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กระทั่งชุดเฉพาะกิจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ ว่า มีกลุ่มลักลอบขนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวมากับรถยนต์กระบะสีเทา ใช้เส้นทางจาก จ.อุบลฯ มุ่งหน้าเข้า กทม.จนกระทั่งเวลา 05.30 น.วันนี้ (19 พ.ค.) ได้มีรถยนต์กระบะสีเทา ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผฉ 3130 อุบลราชธานี วิ่งมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นยาบ้าซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางจำนวน 5 ใบ วางอยู่ในห้องโดยสาร (แค็บ) รวม 3 หมื่นเม็ด
จากการสอบสวน นายสมัย แก้วมณี ให้การปฏิเสธ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การรับสารภาพ โดยบอกว่าเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก และมีนายทุนคนไทยอยู่เบื้องหลังว่าจ้างให้ชาวลาวทั้ง3 คน ขนยาบ้าข้ามจากฝั่งลาวที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เข้ามาส่งให้กับลูกค้า ใน กทม. และปริมณฑล โดยให้ค่าจ้างคนละ 2 หมื่นบาท ก่อนจะว่าจ้างผู้ต้องหาคนไทยเป็นผู้ขับรถพาชาวลาวไปส่งยาบ้าตามจุดนัดหมายต่างๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ และจะทำการสอบสวนขยายผลไปถึงต้นตอที่เป็นรายใหญ่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห่อของยาบ้าซึ่งทำไว้เป็นมัดๆ นั้น มีการเขียนแหล่งที่จะนำไปส่งพร้อมเบอร์โทรศัพท์เป็นภาษาลาว ระบุที่ห่อยาบ้าแต่ละห่อว่า อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 ห่อ จ.สิงห์บุรี 1 ห่อ และบางนา กทม.อีก 1 ห่อ