ตำรวจขอหมายจับคนร้ายที่วางกลอุบายหลอกภรรยาเจ้าของอู่รถแท็กซี่ที่พบกันในม็อบเสื้อแดงเชิดเงินสดไป 3 ล้านบาท หลังจากผู้เสียหายอีกราย ฟังข่าวจากวิทยุ พบคนร้ายมีพฤติกรรมเหมือนกัน จึงนำหมายจับพร้อมภาพถ่ายมาให้เเหยื่อรายล่าสุดดู ปรากฏเป็นคนเดียวกัน สายสืบกำลังเร่งไล่ล่าตัวอยู่
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.ท.สุรพงษ์ สาขากร พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย ร้อยเวรเจ้าของคดีที่คนร้ายลวง น.ส.อริยาภรณ์ ทิมนาค อายุ 48 ปี ภรรยาเจ้าของอู่รถแท็กซี่ ให้เบิกเงินสด จำนวน 3 ล้านบาาท เป็นค่าค้ำประกันไปยืมเงินกู้ 50 ล้านบาท ทว่าคนร้ายวางอุบายลวงให้ น.ส.อริยาภรณ์ ลงไปซื้อของในห้าง แล้วเชิดเอาเงินสดหลบหนีไป โดย ร.ต.ท.สุรพงษ์ เดินทางไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายวุฒิพงษ์ เรบุตร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 4 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ผู้ต้องหาในคดีนี้ ในข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 1329/2552 ลงวันที่ 15 พ.ค.2552
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวว่า วานนี้ (14 พ.ค.) ขณะกำลังสอบปากคำ น.ส.อริยาภรณ์ อย่างละเอียดอยู่นั้น มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ทราบข่าวดังกล่าวจากการฟังวิทยุ แล้วเกิดความสงสัยว่า คนร้ายรายนี้ น่าจะเป็นคนรายเดียวกับที่ได้ก่อเหตุลวงผู้เสียหายรายดังกล่าว เนื่องจากคนร้ายมีพฤติกรรมในการหลอกลวงเหมือนกัน จึงเดินทางมายัง สน.โชคชัย พร้อมทั้งนำหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา และภาพถ่ายตามหมายจับ มาให้ น.ส.อริยาภรณ์ ดูว่า เป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ ซึ่งภายหลังจาก น.ส.อริยาภรณ์ เห็นภาพคนร้ายแล้ว ยืนยันแน่ชัดว่า เป็นคนร้ายรายเดียวกัน
ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายรายดังกล่าวที่นำหมายจับและภาพคนร้ายมาให้ดู ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันกับที่ น.ส.อริยาภรณ์ ถูกหลอกลวง โดยคนร้ายหลอกลวงว่า จะสามารถหาแหล่งเงินกู้ให้ได้ แต่ต้องขอเงินค้ำประกันก่อน และระหว่างทางคนร้ายได้ให้ผู้เสียหายลงไปซื้อของ โดยทิ้งเงินไว้ 700,000 บาท จากนั้นคนร้ายจึงเชิดเงินหลบหนีไป ซึ่งคดีดังกล่าวศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว
“หลังจากผู้เสียหายยืนยันว่า คนร้ายรายนี้เป็นคนคนเดียวกัน คือนายวุฒิพงษ์ เรบุตร จึงเดินทางมาขออนุมัติหมายจับ และจะประสานให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามจับกุมตัว นายวุฒิพงษ์ มาดำเนินคดีต่อไป” ร.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส.สน.โชคชัย กล่าวภายหลังการประชุมชุดสืบสวนว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่า เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในท้องที่ สภ.เมืองพัทยา จนถูกออกหมายจับไว้ในข้อหาเดียวกัน นอกจาากนี้ คาดว่า นายวุฒิพงษ์ น่าจะเคยหลอกลวงผู้เสียหายอีก 1 รายที่มีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน ในท้องที่ สน.โคกคราม แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดและข้อมูลให้แน่ชัดก่อน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กระจายกำลังกันลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อจับกุมคนร้ายแล้ว
“สาวกแม้ว” วางอุบายตุ๋น “สาวเสื้อแดง” เชิดเงินสด 3 ล้านลอยนวล!
