ปิดถนนเกษตร-นวมินทร์รวบแก๊งรถซิ่ง รวบได้กว่าครึ่งร้อย บางคันไม่กลัวตายแต่กลัวถูกจับ แหกด่านชนรองสารวัตรจราจรอาการสาหัส ถูกส่งเข้าห้องไอซียู แต่ตัวเองก็ไม่รอดถูกรวบไว้ได้ ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก พร้อมนำ พ.ร.บ.เยาวชน ใช้ร่วมเอาผิดผู้ปกครองฐานปล่อยปละละเลย
วันนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.ต.นิพนธ์ จันสุมาวงศ์ สว.จร.สน.โคกคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.โครกคราม ตั้งจุดตรวจรถจักรยานยนต์ซิ่งบริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ ตัดถนนเลียบคลองลำเจียก หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามักจะมีแก๊งซิ่งเด็กแว้นใช้เส้นทางดังกล่าวแข่งขันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยการปิดล้อมครั้งนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ สน.โคกคราม 50 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ทำการกระจายกำลังวางแผนจับกุม เมื่อถึงเวลาหัวหน้าชุดได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำจุด โดยใช้รถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 2 คัน และบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 3 คันปิดหัวท้ายถนนเกษตร-นวมินทร์ ด้านขาเข้า กลุ่มนักแข่งรถซิ่งเกิดความแตกตื่น เมื่อเห็นตำรวจพยายามขับรถจักรยานยนต์ฝ่าด่าน
จังหวะนั้น นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ได้ขี่รถพุ่งชน ร.ต.อ.สุรพล ดาวแจ้ง รอง สว.จร.สน.โคกคราม ได้รับบาดเจ็บกระดูกคอเคลื่อน กระดูกหัวเข่าแตก บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ และถูกนำตัวส่งห้องไอซียูเป็นการด่วน ส่วนนายเอ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้ และสามารถจับกุมนักซิ่งได้จำนวน 47 คน อายุระหว่าง 15-20 ปี เป็นชาย 44 คน และหญิง 3 คน โดยเยาวชนที่ถูกจับกุมได้มีอายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ได้จำนวน 51 คัน และควบคุมตัวทั้งหมดมาทำประวัติที่ สน.โคกคราม และประสานผู้ปกครองมารับตัว พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ของกลางที่ตรวจยึดได้ไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันขี่รถโดยประมาทโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย ส่วนนายเอ แจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และหากพบว่ามีความผิดมูลฐานอื่นก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนบรรยากาศ ที่ สน.โคกคราม หลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเยาวชนทั้งหมดที่จับกุมได้อยู่ในห้องขัง และยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว ผู้ปกครองที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาที่ สน. ซึ่งผู้ปกครองบางคนตะโกนโวยวายว่าบุตรหลานของตนไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งเด็กแว้น และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวบุตรหลานของตนเอง ขณะที่บรรยากาศทั่วไปมีกลุ่มผู้ปกครองจำนวนมาก นำอาหาร เครื่องดื่ม ส่งให้แก๊งเด็กแว้นในห้องขังกันอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้ผู้ปกครองและญาติเข้าเยี่ยมในห้องควบคุมเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องและจะมีการนำ พ.ร.บ.เยาวชนเข้ามาใช้ร่วม เพื่อดำเนินการกับผู้ปกครองให้รับผิดชอบร่วมกับบุตรหลานด้วย
