ตำรวจบ้านหึงโหด!! ยิงโชเฟอร์แท็กซี่กิ๊กเมียดับ มอบตัวแล้ว

ตำรวจบ้าน สน.โคกคราม เข้ามอบตัวแล้ว อ้างบันดาลโทสะก่อเหตุยิงโชเฟอร์แท็กซี่ที่มาติดพันภรรยา ก่อนยิงเมียบาดเจ็บแล้วหลบหนี ทนายยื่นสด 4 แสนประกันตัวออกไป

จากกรณีที่ นายอัศนี เปสะนันทน์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/555 หมู่บ้านกิตตินิเวศน์ ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. อาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.โคกคราม หึงโหดจนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายอฏิพัฒน์ หอมพันธ์ อายุ 40 โชเฟอร์ขับแท็กซี่ จนเสียชีวิต และนางลิศรา เปสะนันทน์ อายุ 46 ปี ภรรยาได้รับบาดเจ็บภายในบ้านเลขที่ 251 ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

ล่าสุด วันนี้ ( 21 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายอัศนี ผู้ต้องหาพร้อมด้วยนายราวิน เปสะนันท์ ทนายความได้เดินทางเข้ามามอบตัวต่อ พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. โดยได้นำหลักฐานเป็นอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ และปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วจำนวน 3 นัด มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงที่ สน.หัวหมาก และทันทีที่ผู้ต้องหาพบกับกองทัพสื่อมวลชนก็หลบเลี่ยงออกไป จากนั้นผู้ต้องหาได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เพื่อขอเข้ามอบตัวนอกสถานที่

พ.ต.ท.โชติวัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความซึ่งเป็นน้องชายของผู้ต้องหา เพื่อติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งผู้ต้องหาได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้พนักงานสอบสวน พร้อมกับให้การว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเป็นเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากผู้ตายมาเฝ้าภรรยาของผู้ต้องหาตั้งแต่เช้าวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหายังให้การอีกว่าสงสัยในพฤติกรรมของภรรยาและผู้ตายมานานแล้ว เพราะมีความสนิทสนมกันมากจนเกินกว่าคนรู้จักกัน อีกทั้งระยะหลังก็มีปากเสียงกับภรรยาบ่อยครั้ง และเห็นผู้ตายมาหาภรรยาเกือบทุกวัน จนกระทั่งวันเกิดเหตุเห็นผู้ตายมาเฝ้าภรรยาจึงเข้าไปพูดคุยและเกิดทะเลาะกัน จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงผู้ตายและภรรยาก่อนจะหลบหนีไป และมาติดต่อขอมอบตัวในวันนี้

พ.ต.ท.โชติวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งหลังจากที่สอบปากคำและพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว ทนายความของผู้ต้องหาก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 400,000 บาท เพื่อประกันตัวผู้ต้องหาออกไป ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและเข้ามอบตัว

เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต