นักแสดงสาวตัวประกอบละคร “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ทางช่อง 3 เข้าแจ้งความร้อง “ซูโม่แห้ว” ผู้กำกับละครเรื่องดังกล่าว ขว้างวิทยุสื่อสารใส่หัวทำให้บาดเจ็บ หลังผิดคิวในการแสดง แถมด่าทอด้วยคำไม่สุภาพ แม้ทางผู้กำกับจะเอ่ยปากขอโทษแล้วก็ตาม แต่แฟนหนุ่มไม่ยอม ระบุอยากให้ผู้กำกับรู้ว่าทำเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งไม่น่าให้อภัย ด้าน ตร.โยนรับแจ้งความกันมั่ว สุดท้าย สน.โคกคราม รับก่อนจะเรียกตัวผู้กำกับมาสอบถามและตกลงกับทางผู้เสียหายว่าจะเอาเรื่องหรือไม่
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายพนัส โสภณวิทยางกุล อายุ 24 ปี พา น.ส.กนกนุช ประทวนชัย อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.ท.วิวัฒน์ เพชรี พงส.(สบ 1) สน.โคกคราม เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรื่องที่ น.ส.กนกนุช ถูก นายบำเพ็ญ ชำนิบรรณการ หรือซูโม่แห้ว ผู้กำกับละครเรื่อง “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศไทยทีวีสีช่อง 3 เอาวิทยุสื่อสารขว้างใส่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในร้านแชมพูแอนด์ชูการ์ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.วานนี้ (22 พ.ย.)
น.ส.กนกนุช กล่าวว่า ตนและนายพนัสเป็นนักแสดงตัวประกอบละครเรื่องดังกล่าว โดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งให้มารับบทเป็นตัวประกอบ โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 วานนี้ (22 พ.ย.) ตนและนายพนัสก็ได้ไปเข้าฉากถ่ายทำละคร ภายในร้านแชมพูแอนด์ชูการ์ ซึ่งเป็นร้านที่ทางทีมงานเซตไว้ถ่ายละคร จากนั้นทางผู้กำกับก็ให้ตนเข้าไปนั่งเป็นตัวประกอบภายในร้านซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามกับกลุ่มนักแสดงที่เข้าฉากอยู่ ซึ่งเป็นฉากที่กลุ่มนักแสดงตัวจริงจะต้องทะเลาะกันแล้วคนในร้านรวมทั้งตนด้วยต้องลุกขึ้นยืนดูเท่านั้น แต่ผู้กำกับไม่ได้พูดคุยตกลงรายละเอียดกับตนเลย ก่อนที่จะให้เข้าไปนั่งรอถ่ายทำ
“ระหว่างที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น ผู้กำกับก็สั่งให้นายพนัสลุกขึ้นยืน แต่นายพนัสไม่ทราบว่าผู้กำกับสั่งให้ยืน เพราะก่อนเข้าฉากไม่ได้พูดคุยกันก่อนเลย นายพนัสจึงไม่ได้ลุกขึ้นยืนตามคำสั่ง จากนั้นผู้กำกับก็ขว้างวิทยุสื่อสารมาที่โต๊ะดิฉัน ทำให้วิทยุถูกเข้าบริเวณศีรษะด้านซ้ายจนรู้สึกเจ็บ หลังจากนั้นผู้กำกับก็เรียก นายพนัสไปหาพร้อมกับด่าทอโดยใช้คำไม่สุภาพ ขณะนั้นทั้งทีมงานและทุกคนที่อยู่ในกองต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไร ก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากกองแล้วทางกองถ่ายก็ถ่ายทำกันต่อไปจนกระทั่งจบฉาก” น.ส.กนกนุช กล่าว
น.ส.กนกนุช กล่าวต่อว่า หลังจากกองถ่ายเลิกผู้กำกับก็หาวิทยุสื่อสาร ทางทีมงานจึงบอกว่าผู้กำกับใช้ขว้างตนไปแล้ว จากนั้นผู้กำกับก็เดินเข้ามาหาตนพร้อมกับถามว่าเจ็บหรือเปล่า และขอโทษตน อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร จึงได้เดินทางกลับบ้าน โดยที่ไม่คิดว่าจะเอาเรื่องเพราะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เมื่อตื่นมาตอนเช้าตนรู้สึกเจ็บที่หัวและมีรอยบวมช้ำจึงคิดว่าน่าจะเข้าแจ้งความ จึงได้เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนก็ไม่ต้องการเอาเรื่องอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าอยากให้ผู้กำกับรู้ว่าทำอย่างนี้กับคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย เพราะปกติหากผิดคิวก็จะแค่บอกกล่าวหรือตักเตือน แต่ว่าครั้งนี้ผู้กำกับไม่บอกให้รู้เรื่องแถมยังเรียกไปด่าอีก
ด้านนายพนัส กล่าวว่า ครั้งแรกที่เกิดเรื่องตนไม่คิดว่าวิทยุสื่อสารจะโดนหัวแฟนตน คิดว่าถูกของหล่นใส่เท่านั้น แต่หลังจากเดินออกมาจากฉากแฟนตนก็ร้องไห้ ตนจึงสอบถามจนทราบเรื่อง ซึ่งตนก็เคยได้ยินชื่อผู้กำกับคนนี้จากเพื่อนๆ ตนมาบ้างว่ามีนิสัยไม่ดี ชอบด่านักแสดง และทุกคนที่ทำให้ไม่พอใจ หากทราบก่อนหน้านี้ว่าผู้กำกับคนนี้ตนและแฟนสาวคงไม่มาเป็นตัวประกอบให้
ทางด้าน ร.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนทำหนังสือเรียกตัวนายบำเพ็ญมาสอบถามเพื่อความกระจ่างชัด ก่อนจะให้ทางผู้เสียหายและนายบำเพ็ญ ตกลงกันว่าต้องการจะเอาเรื่องหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางผู้เสียหายทั้ง 2 คนได้นัดผู้สื่อข่าวไปพบที่ สน.วังทองหลาง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามก็พบว่าที่เกิดเหตุเป็นเพื่อที่ของ สน.โคกคราม จึงเดินทางมายัง สน.โคกคราม หลังจากเจ้าหน้าที่สอบถามรายละเอียดและก็แจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าท้องที่ที่เกิดเหตุเป็นของ สน.โชคชัย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยัง สน.โชคชัยไห้ไปตรวจสอบดูว่าที่เกิดเหตุเป็นของ สน.โชคชัยหรือไม่ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็อ้างว่าเป็นพื้นที่ของ สน.ลาดพร้าว สุดท้ายทาง สน.โคกคราม จึงรับแจ้งลงบันทึกประจำไว้ก่อน และจะได้ตรวจอบดูอีกทีว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของ สน.ใดกันแน่
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายพนัส โสภณวิทยางกุล อายุ 24 ปี พา น.ส.กนกนุช ประทวนชัย อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.ท.วิวัฒน์ เพชรี พงส.(สบ 1) สน.โคกคราม เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรื่องที่ น.ส.กนกนุช ถูก นายบำเพ็ญ ชำนิบรรณการ หรือซูโม่แห้ว ผู้กำกับละครเรื่อง “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศไทยทีวีสีช่อง 3 เอาวิทยุสื่อสารขว้างใส่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในร้านแชมพูแอนด์ชูการ์ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.วานนี้ (22 พ.ย.)
น.ส.กนกนุช กล่าวว่า ตนและนายพนัสเป็นนักแสดงตัวประกอบละครเรื่องดังกล่าว โดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งให้มารับบทเป็นตัวประกอบ โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 วานนี้ (22 พ.ย.) ตนและนายพนัสก็ได้ไปเข้าฉากถ่ายทำละคร ภายในร้านแชมพูแอนด์ชูการ์ ซึ่งเป็นร้านที่ทางทีมงานเซตไว้ถ่ายละคร จากนั้นทางผู้กำกับก็ให้ตนเข้าไปนั่งเป็นตัวประกอบภายในร้านซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามกับกลุ่มนักแสดงที่เข้าฉากอยู่ ซึ่งเป็นฉากที่กลุ่มนักแสดงตัวจริงจะต้องทะเลาะกันแล้วคนในร้านรวมทั้งตนด้วยต้องลุกขึ้นยืนดูเท่านั้น แต่ผู้กำกับไม่ได้พูดคุยตกลงรายละเอียดกับตนเลย ก่อนที่จะให้เข้าไปนั่งรอถ่ายทำ
“ระหว่างที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น ผู้กำกับก็สั่งให้นายพนัสลุกขึ้นยืน แต่นายพนัสไม่ทราบว่าผู้กำกับสั่งให้ยืน เพราะก่อนเข้าฉากไม่ได้พูดคุยกันก่อนเลย นายพนัสจึงไม่ได้ลุกขึ้นยืนตามคำสั่ง จากนั้นผู้กำกับก็ขว้างวิทยุสื่อสารมาที่โต๊ะดิฉัน ทำให้วิทยุถูกเข้าบริเวณศีรษะด้านซ้ายจนรู้สึกเจ็บ หลังจากนั้นผู้กำกับก็เรียก นายพนัสไปหาพร้อมกับด่าทอโดยใช้คำไม่สุภาพ ขณะนั้นทั้งทีมงานและทุกคนที่อยู่ในกองต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไร ก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากกองแล้วทางกองถ่ายก็ถ่ายทำกันต่อไปจนกระทั่งจบฉาก” น.ส.กนกนุช กล่าว
น.ส.กนกนุช กล่าวต่อว่า หลังจากกองถ่ายเลิกผู้กำกับก็หาวิทยุสื่อสาร ทางทีมงานจึงบอกว่าผู้กำกับใช้ขว้างตนไปแล้ว จากนั้นผู้กำกับก็เดินเข้ามาหาตนพร้อมกับถามว่าเจ็บหรือเปล่า และขอโทษตน อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร จึงได้เดินทางกลับบ้าน โดยที่ไม่คิดว่าจะเอาเรื่องเพราะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เมื่อตื่นมาตอนเช้าตนรู้สึกเจ็บที่หัวและมีรอยบวมช้ำจึงคิดว่าน่าจะเข้าแจ้งความ จึงได้เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนก็ไม่ต้องการเอาเรื่องอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าอยากให้ผู้กำกับรู้ว่าทำอย่างนี้กับคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย เพราะปกติหากผิดคิวก็จะแค่บอกกล่าวหรือตักเตือน แต่ว่าครั้งนี้ผู้กำกับไม่บอกให้รู้เรื่องแถมยังเรียกไปด่าอีก
ด้านนายพนัส กล่าวว่า ครั้งแรกที่เกิดเรื่องตนไม่คิดว่าวิทยุสื่อสารจะโดนหัวแฟนตน คิดว่าถูกของหล่นใส่เท่านั้น แต่หลังจากเดินออกมาจากฉากแฟนตนก็ร้องไห้ ตนจึงสอบถามจนทราบเรื่อง ซึ่งตนก็เคยได้ยินชื่อผู้กำกับคนนี้จากเพื่อนๆ ตนมาบ้างว่ามีนิสัยไม่ดี ชอบด่านักแสดง และทุกคนที่ทำให้ไม่พอใจ หากทราบก่อนหน้านี้ว่าผู้กำกับคนนี้ตนและแฟนสาวคงไม่มาเป็นตัวประกอบให้
ทางด้าน ร.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนทำหนังสือเรียกตัวนายบำเพ็ญมาสอบถามเพื่อความกระจ่างชัด ก่อนจะให้ทางผู้เสียหายและนายบำเพ็ญ ตกลงกันว่าต้องการจะเอาเรื่องหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางผู้เสียหายทั้ง 2 คนได้นัดผู้สื่อข่าวไปพบที่ สน.วังทองหลาง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามก็พบว่าที่เกิดเหตุเป็นเพื่อที่ของ สน.โคกคราม จึงเดินทางมายัง สน.โคกคราม หลังจากเจ้าหน้าที่สอบถามรายละเอียดและก็แจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าท้องที่ที่เกิดเหตุเป็นของ สน.โชคชัย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยัง สน.โชคชัยไห้ไปตรวจสอบดูว่าที่เกิดเหตุเป็นของ สน.โชคชัยหรือไม่ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็อ้างว่าเป็นพื้นที่ของ สน.ลาดพร้าว สุดท้ายทาง สน.โคกคราม จึงรับแจ้งลงบันทึกประจำไว้ก่อน และจะได้ตรวจอบดูอีกทีว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของ สน.ใดกันแน่
