xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนสั่งคดี “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” ฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุยื่นขอสอบพยานเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ฉายา “ แรมโบ้ อีสาน”อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ผู้ต้องหา
อัยการเลื่อนสั่งคดี “สุภรณ์” แกนนำ นปช.” ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่วสุม 5 คนขึ้นไปจัดชุมนุม เหตุยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้สอบพยานเพิ่มเติมคดี นัดสั่งคดีอีกครั้ง 21 พ.ค. นี้

วันนี้ (13 พ.ค.) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง ถ.บรมราชชนนี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ฉายาแรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมด้วยนายคารม พลทะกลาง ทนายความ เดินทางเข้าพบ นายสุรพงษ์ วัฒนพานิช อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เพื่อฟังคำสั่ง แต่ทั้งนี้เนื่องจากนายสุพร ผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 จึงเลื่อนนัดการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

โดยนายสุรพงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 กล่าวว่า อัยการพิจารณาสำนวนพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนแล้ว ก็มีความเห็นสั่งฟ้องซึ่งเตรียมเสนอสำนวนและการทำความเห็นเสนออธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง จึงทำให้อัยการต้องใช้เวลาพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นดุลพินิจของอธิบดีอัยการ ฯ ต่อไป

ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความแกนนำ นปช.กล่าวว่า จำเป็นต้องให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อเท็จจริงการชุมนุม ซึ่งเห็นว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นไปโดยมิชอบ โดยเราจะใช้สิทธิ์สู้คดีอย่างเต็มที่หากมีการยื่นฟ้องคดีต่อศาล อย่างไรก็ดี ส่วนสำนวนคดีบุกรุกกระทรวงมหาดไทยนั้น พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้แจ้งนายสุพร และผู้ต้องหาอื่น เข้าพบเช้าวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ซึ่งเดิมตามสำนวนสอบสวนได้แจ้งข้อหา บุกรุก กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ โดยใช้กำลังประทุษร้าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น