ปดส. รวบเพิ่มแก๊งหลอกแรงงานส่งทำงานสวีเดน และประเทศในแถบยุโรป เรียกค่าดำเนินการหัวละแสนกว่าบาท ลวงซ้ำอ้างวีซ่าไม่ผ่านแล้วส่งแรงงานทั้งหมดไปฝึกงานกับพระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว หวังเอาใบรับรองผ่านงาน ด้านพระพยอมไม่ติดใจเอาความ แต่วอนให้ผู้ต้องหาจ่ายค่าน้ำ-ไฟ จำนวน 6 หมื่นแก่วัดเท่านั้น ด้านกรมการจัดหางานแนะให้แจ้งสายด่วน หวั่นเหยื่อถูกหลอกเพิ่ม
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่ บก.ปดส. เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส. พร้อมด้วย นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.มาลี จันสมคง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ถนนราษฎร์บำรุง ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1252/2552 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ข้อหาร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประทเศ โดยการหลอกลวงได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และร่วมกันจัดหางานให้คนงานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองการหางาน มาตรา 91 ตรี โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางหนังสือเดินทาง 12 เล่ม สมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม ตั๋วเครื่องบินปลอม 23 ใบ รูปถ่ายและเอกสารการสมัครงานจำนวนมาก จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 33/492 ซอยโชคชัย 4 แขวงแลเขตลาดพร้าว กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกรมการจัดหางานได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ให้ติดตามจับกุมแก๊งหลอกลวงแรงงานส่งไปทำงานที่ประเทศสวีเดน โดยเรียกเก็บค่าดำเนินการรายละ 160,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ แก๊งดังกล่าวกลับอ้างว่าวีซ่าไม่ผ่าน จึงส่งแรงงานทั้งหมดไปฝึกงานกับพระพยอม กัลยาโณ ที่วัดสวนแก้ว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปดส.สามารถติดตามจับกุม นางเจริญศรี โสมานุสรณ์ อายุ 68 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาก่อนจะสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนางมาลีไว้ได้
น.ส.มาลีรับสารภาพว่า ได้พาแรงงานไทยทั้ง 58 คน เข้าไปฝึกงานที่วัดสวนแก้ว เนื่องจากเลื่อมใสศรัทธาพระพยอม เจ้าอาวาสวัด โดยการฝึกงานด้านเกษตรกรรมนี้ก็จะให้ทางวัดช่วยออกใบรับรองให้ โดยแรงงานทั้งหมดนั้นมี นางเจริญศรี ซึ่งรู้จักกันเป็นผู้จัดหามา ตนจะเรียกเก็บเงินจากแรงงานรายละ 40,000 บาท และจะหักเงินไว้รายละ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าจ้าง ค่าอาหาร และที่พัก ส่วนที่เหลือจะนำส่งให้ผู้ร่วมดำเนินการเพื่อจัดการส่งแรงงานไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนมีหน้าที่หลักเพียงการจัดการเรื่องเอกสารเท่านั้น แต่ระหว่างส่งตัวไปทำงานก็รับหน้าที่ดูแลแรงงานที่ฝึกงานที่วัดสวนแก้วด้วย
ด้าน นายพิชัย กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานไทยตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้มีนายหน้าฉวยโอกาสหลอกลวงแรงงานว่าสามารถส่งไปทำงานยังประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา โดยมักจะอ้างว่ามีเงินเดือนสูงแต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวน 160,000 บาท เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็จะพบว่านายหน้าเหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนขออนุญาต สำหรับในกรณีของ น.ส.มาลี ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอดพร้อมกันนั้นได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ทราบว่าขณะนี้ประเทศใดบ้างที่ต้องการรับคนงานและมีงานประเภทใด นอกจากนี้ได้ประสานไปยังสถานทูตของประเทศต่างๆ แล้วเกี่ยวกับการออกวีซ่าให้กับแรงงานที่ต้องการเดินทางไปทำงาน
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ในส่วนของการหลอกลวงแรงงานไปทำงานด้านเกษตรกรรมที่ประเทศสวีเดนนั้น จริงๆ แล้วมีเพียงอาชีพเก็บผลไม้ป่า และจากการตรวจสอบพบว่าแรงงานส่วนใหญ่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศสวีเดน โปแลนด์ หรือแคนาดา ซึ่งพบว่าประเทศดังกล่าวไม่มีการอนุญาตให้คนต่างชาติทำงานในประเทศของตัวเองแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของประเทศโปแลนด์ พบว่ามีการปลอมตำแหน่งงาน มีการแอบอ้างชื่อทูตและปลอมแปลงเอกสารและชื่อของตนก็ถูกนำไปแอบอ้างด้วย จึงขอให้แรงงานที่ถูกนายหน้าอ้างว่าจะได้งานนี้อย่าหลงเชื่อ หรือหากยังไม่แน่ใจขอให้ แจ้งมายังกรมการจัดหางาน สายด่วน 1694 เพื่อป้องกันปัญหาการถูกหลอกลวง
ส่วน พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า การที่กลุ่มขบวนการนี้พาแรงงานไปฝึกงานกับวัดสวนแก้ว เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ทางวัด และสามารถดูแลแรงงานไม่ให้แตกแถว อีกทั้งยังได้ใบรับรองการฝึกงานจากทางวัดซึ่งทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งทางพระพยอมไม่ติดใจเอาความ โดยเพียงขอร้องให้ผู้ต้องหามาจ่ายเงินค่าน้ำค่าไฟ 60,000 กว่าบาทแก่วัดด้วย
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่ บก.ปดส. เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส. พร้อมด้วย นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.มาลี จันสมคง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ถนนราษฎร์บำรุง ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1252/2552 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ข้อหาร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประทเศ โดยการหลอกลวงได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และร่วมกันจัดหางานให้คนงานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองการหางาน มาตรา 91 ตรี โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางหนังสือเดินทาง 12 เล่ม สมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม ตั๋วเครื่องบินปลอม 23 ใบ รูปถ่ายและเอกสารการสมัครงานจำนวนมาก จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 33/492 ซอยโชคชัย 4 แขวงแลเขตลาดพร้าว กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกรมการจัดหางานได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ให้ติดตามจับกุมแก๊งหลอกลวงแรงงานส่งไปทำงานที่ประเทศสวีเดน โดยเรียกเก็บค่าดำเนินการรายละ 160,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ แก๊งดังกล่าวกลับอ้างว่าวีซ่าไม่ผ่าน จึงส่งแรงงานทั้งหมดไปฝึกงานกับพระพยอม กัลยาโณ ที่วัดสวนแก้ว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปดส.สามารถติดตามจับกุม นางเจริญศรี โสมานุสรณ์ อายุ 68 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาก่อนจะสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนางมาลีไว้ได้
น.ส.มาลีรับสารภาพว่า ได้พาแรงงานไทยทั้ง 58 คน เข้าไปฝึกงานที่วัดสวนแก้ว เนื่องจากเลื่อมใสศรัทธาพระพยอม เจ้าอาวาสวัด โดยการฝึกงานด้านเกษตรกรรมนี้ก็จะให้ทางวัดช่วยออกใบรับรองให้ โดยแรงงานทั้งหมดนั้นมี นางเจริญศรี ซึ่งรู้จักกันเป็นผู้จัดหามา ตนจะเรียกเก็บเงินจากแรงงานรายละ 40,000 บาท และจะหักเงินไว้รายละ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าจ้าง ค่าอาหาร และที่พัก ส่วนที่เหลือจะนำส่งให้ผู้ร่วมดำเนินการเพื่อจัดการส่งแรงงานไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนมีหน้าที่หลักเพียงการจัดการเรื่องเอกสารเท่านั้น แต่ระหว่างส่งตัวไปทำงานก็รับหน้าที่ดูแลแรงงานที่ฝึกงานที่วัดสวนแก้วด้วย
ด้าน นายพิชัย กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานไทยตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้มีนายหน้าฉวยโอกาสหลอกลวงแรงงานว่าสามารถส่งไปทำงานยังประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา โดยมักจะอ้างว่ามีเงินเดือนสูงแต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวน 160,000 บาท เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็จะพบว่านายหน้าเหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนขออนุญาต สำหรับในกรณีของ น.ส.มาลี ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอดพร้อมกันนั้นได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ทราบว่าขณะนี้ประเทศใดบ้างที่ต้องการรับคนงานและมีงานประเภทใด นอกจากนี้ได้ประสานไปยังสถานทูตของประเทศต่างๆ แล้วเกี่ยวกับการออกวีซ่าให้กับแรงงานที่ต้องการเดินทางไปทำงาน
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ในส่วนของการหลอกลวงแรงงานไปทำงานด้านเกษตรกรรมที่ประเทศสวีเดนนั้น จริงๆ แล้วมีเพียงอาชีพเก็บผลไม้ป่า และจากการตรวจสอบพบว่าแรงงานส่วนใหญ่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศสวีเดน โปแลนด์ หรือแคนาดา ซึ่งพบว่าประเทศดังกล่าวไม่มีการอนุญาตให้คนต่างชาติทำงานในประเทศของตัวเองแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของประเทศโปแลนด์ พบว่ามีการปลอมตำแหน่งงาน มีการแอบอ้างชื่อทูตและปลอมแปลงเอกสารและชื่อของตนก็ถูกนำไปแอบอ้างด้วย จึงขอให้แรงงานที่ถูกนายหน้าอ้างว่าจะได้งานนี้อย่าหลงเชื่อ หรือหากยังไม่แน่ใจขอให้ แจ้งมายังกรมการจัดหางาน สายด่วน 1694 เพื่อป้องกันปัญหาการถูกหลอกลวง
ส่วน พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า การที่กลุ่มขบวนการนี้พาแรงงานไปฝึกงานกับวัดสวนแก้ว เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ทางวัด และสามารถดูแลแรงงานไม่ให้แตกแถว อีกทั้งยังได้ใบรับรองการฝึกงานจากทางวัดซึ่งทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งทางพระพยอมไม่ติดใจเอาความ โดยเพียงขอร้องให้ผู้ต้องหามาจ่ายเงินค่าน้ำค่าไฟ 60,000 กว่าบาทแก่วัดด้วย
