ตำรวจจับกุมชาวอิหร่าน 2 คน ใช้มีดและปืนจี้ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติตามที่พักโรงแรมทั้งเมืองกรุง และพัทยา พบประวัติตั้งแก๊งก่ออาชญากรรมในไทย หัวหน้าแก๊งถูกตำรวจวิสามัญฯดับไปนานแล้ว แต่สมาชิกที่เหลือยังตระเวนก่อเหตุต่อเนื่อง
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโมจทาบา โมดากี อายุ 43 ปี ชาวอิหร่าน และ นายบาบัก ซาสะบัก อายุ 32 ปี ชาวอิหร่าน พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .45 มม.จำนวน 5 นัด รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีดำ หมายเลขทะเบียน วษย 544 กทม.กระเป๋าหนีบสีดำ 1 ใบ ภายในมีเงินสด 125 ยูโร หนังสือเดินทาง และบัตรเครดิต 3 ใบ มีดพกสั้นแบบพับได้ 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 22.30 น.วานนี้ (1 พ.ค.) ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เข้าไปที่โรงแรมปริ๊นซ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แล้วตรงเข้าประกบ นายอูเว่ ฮิ๊บ อายุ 48 ปี ชาวเยอรมัน ภายในลิฟต์ของโรงแรม เมื่อผู้เสียหายออกจากลิฟต์กำลังจะเข้าห้องพัก คนร้ายทั้งสองก็ใช้อาวุธมีดและปืนจี้ชิงทรัพย์ แต่ผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่ขาขวา ก่อนจะชิงทรัพย์สินแล้วหลบหนีออกมา ระหว่างนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อเปิดทางแยกกันหลบหนี โดยคนหนึ่งโบกแท็กซี่ขึ้นหลบหนี ส่วนอีกคนทิ้งรถ จยย.ไว้ที่โรงแรมแล้ววิ่งหลบหนีไป จากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งขอความช่วยเหลือจาก รปภ.ของโรงแรม ให้ช่วยเหลือ
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น รปภ.ของโรงแรม ก็ได้ประสานไปทาง สน.มักกะสัน ท้องที่เกิดเหตุ ก่อนที่ ร.ต.อ.เรวัช ราชสังข์ รอง สวป.สน.มักกะสัน จะนำกำลังออกไปสกัดจับคนร้าย และสามารถจับกุม นายโมจทาบา ได้ที่รถแท็กซี่ที่ขึ้นหลบหนีที่แยกมิตรสัมพันธ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ส่วน นายบาบัก วิ่งหลบหนี แต่ถูกชาวบ้านช่วยจับกุมไว้ได้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นแก๊งที่ก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในหลายท้องที่ ทั้งในพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี และ กทม.โดยจะเข้ามาก่อเหตุตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ โดยเมื่อปี 2544 สมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สส.บก.น.5 ก็ได้วิสามัญฆาตกรรมตัวหัวหน้าแก๊งนี้ไป 1 คน ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่ผู้ต้องบางส่วนในแก๊งนี้ก็ยังออกตระเวนก่อเหตุอยู่
“เป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ย่านข้าวสาร สีลม และ ย่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับ นายโมจทาบา เคยถูกศาลตัดสินจำคุก ในข้อหาชิงทรัพย์ และหลบหนีการประกันตัวในข้อหาเดียวกัน ท้องที่ สน.ชนะสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลจับกุมพรรคพวกร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกนทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้โดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโมจทาบา โมดากี อายุ 43 ปี ชาวอิหร่าน และ นายบาบัก ซาสะบัก อายุ 32 ปี ชาวอิหร่าน พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .45 มม.จำนวน 5 นัด รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีดำ หมายเลขทะเบียน วษย 544 กทม.กระเป๋าหนีบสีดำ 1 ใบ ภายในมีเงินสด 125 ยูโร หนังสือเดินทาง และบัตรเครดิต 3 ใบ มีดพกสั้นแบบพับได้ 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 22.30 น.วานนี้ (1 พ.ค.) ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เข้าไปที่โรงแรมปริ๊นซ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แล้วตรงเข้าประกบ นายอูเว่ ฮิ๊บ อายุ 48 ปี ชาวเยอรมัน ภายในลิฟต์ของโรงแรม เมื่อผู้เสียหายออกจากลิฟต์กำลังจะเข้าห้องพัก คนร้ายทั้งสองก็ใช้อาวุธมีดและปืนจี้ชิงทรัพย์ แต่ผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่ขาขวา ก่อนจะชิงทรัพย์สินแล้วหลบหนีออกมา ระหว่างนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อเปิดทางแยกกันหลบหนี โดยคนหนึ่งโบกแท็กซี่ขึ้นหลบหนี ส่วนอีกคนทิ้งรถ จยย.ไว้ที่โรงแรมแล้ววิ่งหลบหนีไป จากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งขอความช่วยเหลือจาก รปภ.ของโรงแรม ให้ช่วยเหลือ
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น รปภ.ของโรงแรม ก็ได้ประสานไปทาง สน.มักกะสัน ท้องที่เกิดเหตุ ก่อนที่ ร.ต.อ.เรวัช ราชสังข์ รอง สวป.สน.มักกะสัน จะนำกำลังออกไปสกัดจับคนร้าย และสามารถจับกุม นายโมจทาบา ได้ที่รถแท็กซี่ที่ขึ้นหลบหนีที่แยกมิตรสัมพันธ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ส่วน นายบาบัก วิ่งหลบหนี แต่ถูกชาวบ้านช่วยจับกุมไว้ได้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นแก๊งที่ก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในหลายท้องที่ ทั้งในพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี และ กทม.โดยจะเข้ามาก่อเหตุตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ โดยเมื่อปี 2544 สมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สส.บก.น.5 ก็ได้วิสามัญฆาตกรรมตัวหัวหน้าแก๊งนี้ไป 1 คน ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่ผู้ต้องบางส่วนในแก๊งนี้ก็ยังออกตระเวนก่อเหตุอยู่
“เป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ย่านข้าวสาร สีลม และ ย่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับ นายโมจทาบา เคยถูกศาลตัดสินจำคุก ในข้อหาชิงทรัพย์ และหลบหนีการประกันตัวในข้อหาเดียวกัน ท้องที่ สน.ชนะสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลจับกุมพรรคพวกร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกนทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้โดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน