“อัยการ” โว! กม.ใหม่ เปิดช่องร่วมล่าตัว “ทักษิณ” ได้

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เผย กฎหมายใหม่เปิดช่องให้อัยการทำคดีอาญากับตำรวจได้ หากอนาคตมีการตัดสินคดีความของ “ทักษิณ” อีก อัยการร่วมสอบกับตำรวจได้ทันที แต่กฎหมายแก้ไขใหม่บังคับใช้ย้อนหลังไม่ได้ ส่วนในคดีวิสามัญ อัยการร่วมตรวจที่เกิดเหตุและทำบันทึกได้ หากพบว่าการกระทำตำรวจมีพิรุธสามารถเอาผิดตร.ได้

วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องรัชวิภา โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการอัยการ นายวันชัย สร้อยทอง ผู้ตรวจราชการอัยการ และ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ร่วมประชุมสัมมนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินคดีอาญา เรื่องพนักงานอัยการกับการสอบสวน โดยมีพนักงานอัยการ ร่วมการสัมมนา จำนวน 88 คน

นายกายสิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังมีการแก้ไขกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ว่าด้วยเรื่องการสอบสวน คดีนอกราชอาณาจักร มาตรา 150 วรรค 4 และ มาตรา 155 /1 ว่าด้วยเรื่องการทำสำนวนการสอบสวน การชันสูตรพลิกศพ และคดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งได้ประกาศใช้แล้ว การแก้ไขกฎหมายในมาตราดังกล่าว เพื่อเป็นการเปิดช่องให้พนักงานอัยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มุ่งหวังให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น เช่น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย พนักงานอัยการต้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำบันทึกในที่เกิดเหตุของพนักงานอัยการเอง หากพบว่าการกระทำของตำรวจมีพิรุธ สามารถดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ นอกจากนี้ยังทำให้คดีมีความรวดเร็ว โดยพนักงานอัยการสามารถหาหลักฐานในส่วนที่คดีนั้นได้ทันที หากพบว่าสำนวนการสอบสวนยังขาดตกพกพร่อง ไม่ต้องรอให้พนักงานสอบสวนกลับไปสอบสวนเพิ่มเติม

นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการสอบสวนในคดีที่คนร้ายหลบออกนอกประเทศอีกด้วย ซึ่งในส่วนการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำคุก เป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ นั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ ซึ่งกฎหมายที่แก้ไขใหม่นั้นไม่สามารถบังคับใช้ย้อนหลังก่อนประกาศใช้ได้ แต่หากมีการตัดสินในคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกในอนาคต พนักงานอัยการย่อมสามารถดำเนินการสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช่นกัน

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า สำหรับกรอบการทำงานของอัยการในการสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น แม้ขณะนี้ยังไม่มีระเบียบ ขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเป็นทางการ แต่ทางสำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้จัดทำวิธีปฏิบัติในการร่วมสอบสวนไว้แล้ว ซึ่งในอนาคตคาดว่า สำนักงานอัยการสูงสุด จะมีการจัดตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาเฉพาะเพื่อทำหน้าที่ในส่วนนี้ ในขณะนี้อัยการทั่วประเทศต้องมีหน้าที่ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับพนักงานสอบสวน โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้พนักงานอัยการได้รับความรู้ ความเข้าใจ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ บรรยายเรื่องขั้นตอนการสืบสวน และ พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร.บรรยายเรื่องเทคนิคการสอบสวนด้วย