“สนธิ” ให้ข้อมูล “ธานี” ยันไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่าไม่ใช่เป็นการจับแพะ ส่วนใครเป็นคนทำในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.30 น.จะแถลงให้ทราบ ด้าน “ธานี” ยันข่าวคุมตัวผู้ต้องสงสัยไม่เป็นความจริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (30 เม.ย.) เวลา 10.50 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปสอบปากคำ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ หลังจากถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามยิงถล่มที่บริเวณแยกบางขุนพรม เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา
นายสนธิ เปิดเผยว่า ในวันนี้พล.ต.อ.ธานี ได้นำพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ ซึ่งตนได้ให้การไปหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามคำให้การที่ปรากฏ และจะไม่ขอให้ปากคำใดๆเพิ่มเติม เพราะมีความเชื่อมั่นและไว้ใจคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ ที่มี พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าทีม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางคดีอย่างไร และจะหาตัวผู้ต้องหาได้เมื่อไหร่ ตนไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีการสอบถามเลยว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากจะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีการจับแพะ ส่วนใครเป็นคนทำกับตนนั้น ในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.30 น.จะแถลงให้ทราบอีกครั้ง
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ลอบยิงตนจะเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวโยงกับใคร ตนไม่ทราบ แต่ ณ ปัจจุบัน ตนยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นที่ตั้งไม่เคยกังวลกับเหตุการณ์ใด เรื่องสุขภาพตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆและไม่เคยจะไปปลีกวิเวก ที่ประเทศเนปาล กับอินเดีย ตามที่เป็นข่าว ส่วนในวันที่เกิดเหตุตนแขวน "พระคุณงามความดี" ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ใครก็ตามที่รักชาติ ทุกอย่างจะคุ้มครอง และรู้สึกดี ถ้ามีคนหันมาเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็จะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมากขึ้น เหมือนอย่างเหตุการณ์จากกรณีของตน นายแคล้ว ธนิกุล ในวันที่ถูกยิงตาย อมพระสมเด็จราคาเป็นล้านอยู่ในปาก แต่ยังไม่สามารถปกป้องชีวิตของตนเองได้
“มีอีก 1 ข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก คือ แม้กระทั่งรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ยังออกมากล่าวหาผมว่าสร้างสถานการณ์ยิงตัวเองกว่า 100 นัด ซึ่งคำพูดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนพูด ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองและไม่มีการใช้วิจารณญาณในการแสดงความคิดออกมา” นายสนธิ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่ามีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยขณะนี้ชุดสืบสวนไม่ว่าทีมใดก็ตามยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น โดยตอนนี้มีแต่พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น ส่วนเรื่องผู้บงการหรือผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้ให้คณะทำงานเร่งตรวจสอบ หลักฐานต่างๆตามจุดเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดต่างๆ ส่วนเรื่องกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ ได้ให้ ผบช.น.ทำหนังสือ ประสานไปยังกองทัพบกแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง จึงจะทราบผล
พล.ต.อ.ธานี กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่จะออกมาเปิดเผยในวันนี้นั้นจะต้องขอเลื่อนไปก่อนเป็นวันพรุ่งนี้ เนื่องจากติดขัดหลักฐานบางอย่าง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในคณะทำงานได้พยายามเร่งคลี่คลายคดีกันอย่างเต็มที่ มีการส่งกำลังกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อหาข่าว แต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มใดเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องอาวุธปืนสงครามได้มีคำสั่งการประสานไปยังตำรวจทั่วประเทศ ว่าหากมีคดีที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธสงคราม หรือตรวจยึดอาวุธสงครามได้ ก็ให้ส่งเรื่องเข้ามาเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำอาวุธไปตรวจสอบ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงนายสนธิหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ส่งมาเพียงแค่ 3 รายเท่านั้น จริงๆแล้วจะต้องมีมากกว่านี้ แต่ตนจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (30 เม.ย.) เวลา 10.50 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปสอบปากคำ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ หลังจากถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามยิงถล่มที่บริเวณแยกบางขุนพรม เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา
นายสนธิ เปิดเผยว่า ในวันนี้พล.ต.อ.ธานี ได้นำพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ ซึ่งตนได้ให้การไปหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามคำให้การที่ปรากฏ และจะไม่ขอให้ปากคำใดๆเพิ่มเติม เพราะมีความเชื่อมั่นและไว้ใจคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ ที่มี พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าทีม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางคดีอย่างไร และจะหาตัวผู้ต้องหาได้เมื่อไหร่ ตนไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีการสอบถามเลยว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากจะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีการจับแพะ ส่วนใครเป็นคนทำกับตนนั้น ในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.30 น.จะแถลงให้ทราบอีกครั้ง
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ลอบยิงตนจะเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวโยงกับใคร ตนไม่ทราบ แต่ ณ ปัจจุบัน ตนยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นที่ตั้งไม่เคยกังวลกับเหตุการณ์ใด เรื่องสุขภาพตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆและไม่เคยจะไปปลีกวิเวก ที่ประเทศเนปาล กับอินเดีย ตามที่เป็นข่าว ส่วนในวันที่เกิดเหตุตนแขวน "พระคุณงามความดี" ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ใครก็ตามที่รักชาติ ทุกอย่างจะคุ้มครอง และรู้สึกดี ถ้ามีคนหันมาเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็จะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมากขึ้น เหมือนอย่างเหตุการณ์จากกรณีของตน นายแคล้ว ธนิกุล ในวันที่ถูกยิงตาย อมพระสมเด็จราคาเป็นล้านอยู่ในปาก แต่ยังไม่สามารถปกป้องชีวิตของตนเองได้
“มีอีก 1 ข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก คือ แม้กระทั่งรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ยังออกมากล่าวหาผมว่าสร้างสถานการณ์ยิงตัวเองกว่า 100 นัด ซึ่งคำพูดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนพูด ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองและไม่มีการใช้วิจารณญาณในการแสดงความคิดออกมา” นายสนธิ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่ามีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยขณะนี้ชุดสืบสวนไม่ว่าทีมใดก็ตามยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น โดยตอนนี้มีแต่พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น ส่วนเรื่องผู้บงการหรือผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้ให้คณะทำงานเร่งตรวจสอบ หลักฐานต่างๆตามจุดเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดต่างๆ ส่วนเรื่องกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ ได้ให้ ผบช.น.ทำหนังสือ ประสานไปยังกองทัพบกแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง จึงจะทราบผล
พล.ต.อ.ธานี กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่จะออกมาเปิดเผยในวันนี้นั้นจะต้องขอเลื่อนไปก่อนเป็นวันพรุ่งนี้ เนื่องจากติดขัดหลักฐานบางอย่าง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในคณะทำงานได้พยายามเร่งคลี่คลายคดีกันอย่างเต็มที่ มีการส่งกำลังกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อหาข่าว แต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มใดเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องอาวุธปืนสงครามได้มีคำสั่งการประสานไปยังตำรวจทั่วประเทศ ว่าหากมีคดีที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธสงคราม หรือตรวจยึดอาวุธสงครามได้ ก็ให้ส่งเรื่องเข้ามาเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำอาวุธไปตรวจสอบ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงนายสนธิหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ส่งมาเพียงแค่ 3 รายเท่านั้น จริงๆแล้วจะต้องมีมากกว่านี้ แต่ตนจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด