อดีต ส.ส.ร.ร้อง อสส.ตรวจสอบ “ปู่ชัย” เปิดสภาเลือกนายกฯ มิชอบ

อดีต ส.ส.ร.ปี 50 ร้อง อสส.ตรวจสอบ “ปู่ชัย” เปิดสภาเลือกนายกฯ มิชอบ อ้าง ส.ส.สัดส่วน พลังปลังประชาชน-ชาติไทย-มัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกยุบย้ายสังกัดใน 60 วันไม่ได้

วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เข้ายื่นหนังสือถึงนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบการกระของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับพวกคณะรัฐมนตรี ขัดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 68 ขอให้อัยการสูงสุดใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ม.68 (2) ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยดำเนินการต่อไป โดยมี ร.ท.มนัส อุบลทิพย์ รองอัยการสูงสุด รับหนังสือแทน

หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วนของทั้ง 3 พรรคการเมืองสิ้นสุดลง และไม่สามารถย้ายพรรคการเมืองภายในเวลา 60 วัน ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (8) ดังนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากผู้แทนแบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ซึ่งถือได้ว่าขาดสมาชิกภาพ ใช้อำนาจเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 15 ธ.ค.51 จึงเป็นการมิชอบตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วนที่ขาดสมาชิกภาพจากการถูกยุบพรรคทั้งสามพรรค เข้าร่วมประชุมและลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และเรียกตัวเข้าสภาเพื่อปฎิญาณตนเองเข้ารับตำแหน่งจึงเป็นการมิชอบ จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าว เป็นผลให้การประชุมสภาเลือกนายกรัฐมนตรีอันมิชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นโฆษะ และนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมิชอบจึงเป็นโฆษะ

นายเศวตกล่าวว่า ตนในฐานะอดีต ส.ส.ร.ปี 50 ทราบถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเป็นผู้มีส่วนได้เสียต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายโดยรวม และเป็นผู้ทายถึงการกระทำอันมิชอบจึงขอให้ อสส.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยตนจะส่งวีซีดีบันทึกภาพการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับมาตราดังกล่าวประกอบการพิจารณาในภายหลัง